การที่ มมส. (MSU-KM) จะดำเนินการจัดการความรู้ให้ได้คำตอบของเป้าหมายที่วางเอาไว้ ผมขอนำเสนอข้อมูลในส่วนของการดำเนินการจัดการความรู้ดของ ก.พ.ร. ปี พ.ศ. 2550 ซึ่งได้ให้แนวทางเพื่อจัดทำกิจกรรมการจัดการความรู้เอาไว้ 3 แนวทาง ดังนี้
แนวทางที่ 1 : ตามเอกสารแนะนำการจัดการความรู้ขององค์การหรือผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการความรู้อื่นๆ เช่น American Productivity and Quality Center (APQC)
แนวทางที่ 2 : ผู้บริหารสูงสุดด้านการจัดการความรู้ (CKO) และคณะทำงานการจัดการความรู้ (KM Team) ประชุมร่วมกันพิจารณากำหนดขึ้นมา
แนวทางที่ 3 : ตามขั้นตอนที่ระบุไว้ใน "คู่มือการจัดการความรู้ : จากทฤษฎีสู่การปฏิบัติ (โดย ก.พ.ร. ประจำปี พ.ศ. 2549)"
จะเห็นได้ว่า ก.พ.ร. ให้อิสระเพื่อดำเนินการจัดการความรู้ค่อนข้างมาก คือ ถ้าหน่วยงานไหนมีงบประมาณมากพอ ก็อาจใช้แนวทางที่ 1 แต่ถ้าหากต้องการใช้ความอิสระมากๆ มีบุคลากรที่ชำนาญพอ ก็อาจเลือกใช้แนวทางที่ 2 คือ คิดเอาเองโดยมี CKO และ KM Team ของหน่วยงานร่วมกันพิจารณา และ แนวทางที่ 3 ก็ดำเนินการตามแบบฟอร์มตามคู่มือของทาง ก.พ.ร. ที่จัดเตรียมไว้ให้แล้วครับ "หน่วยงานควรทบทวนบทบาท บริบท และวัฒนธรรมองค์กร แล้วเลือกแนวทางที่เหมาะสมก็จะได้บรรลุเป้าประสงค์ว่าทำ KM ไปทำไม?"
ทีนี้เมื่อทราบข้อมูลข้างต้นแล้วนั้น คำตอบอาจอยู่ในใจหรืออาจ ลป.รร. ผ่านทาง blog นี้ ก็ย่อมเป็นสิทธิ์ที่แต่ละท่านจะตัดสินใจไว้ก่อนได้
โปรดอ่านอีกครั้ง ! : สำหรับแนวทางที่ 3 การดำเนินการ km ควรระวังให้ดี เพราะมิฉะนั้นแล้วอาจกลายเป็น "km เทียม" หรือ ที่ ดร.ประพนธ์ เรียกว่า "km ติดรูปแบบ" (ผม ลป.รร. ไว้ที่ บันทึกhttp://gotoknow.org/blog/beyondkm/59915)
ยินดี ลป.รร. ครับ
วิชิต
อย่างที่โทรไปปรึกษานะคะคุณวิชิต พี่หนิงคงรบกวนด้วย เพราะอยากนำ กระบวนการKM มาใช้กับการจัดบริการสนับสนุนนิสิตพิการ อ่ะค่ะ ซึ่งหัวใจของการทำงาน DSS ของพี่จะอยู่ที่ อาสาสมัครเพื่อนช่วยเรียน ที่คิดๆไว้อาจจะคล้ายๆกับ UKM-8 ที่มน. จัด กลุ่มเป้าหมายคือ อาสาสมัครเพื่อนช่วยเรียนในแต่ละสถาบัน มาลปรร. กัน
กะๆไว้ว่าจะเขียนโครงการขอทุนจากภายนอกค่ะ วันจันทร์ ต้องขอรบกวนด้วยนะคะ ^__*