กินเนื้อมาก เสี่ยงอะไร


การกินเนื้อวันละ 1.5 ส่วนบริโภคขึ้นไปอาจทำให้เสี่ยงต่อมะเร็งเต้านมชนิดมีตัวรับฮอร์โมนเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า

                              

  • เราๆ ท่านๆ คงจะได้ยินได้ฟังคำแนะนำสุขภาพทางเลือกมาหลายรูปแบบ บางสำนักบอกให้งดทั้งเนื้อทั้งนม(อาหารทะเลได้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง) บางสำนักบอกให้งดนม แต่ให้กินเนื้อ... เลยไม่รู้จะทำอย่างไรดี

สำนักข่าวบีบีซีรายงานข่าวผลจากการวิจัยว่า การกินเนื้อวันละ 1.5 ส่วนบริโภคขึ้นไปอาจทำให้เสี่ยงต่อมะเร็งเต้านมชนิดมีตัวรับฮอร์โมนเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า

 

  • เนื้อ 1 ส่วนบริโภคมีขนาดประมาณ 80-100 กรัม ประมาณ 1 ทัพพี หรือประมาณ 1 ฝ่ามือ (ไม่นับรวมนิ้วมือ) เนื้อ 1.5 ส่วนบริโภคจึงมีขนาดประมาณ 1.5 ทัพพี หรือ 160-200 กรัม หรือประมาณ 1.5 ฝ่ามือ

การศึกษานี้ติดตามกลุ่มตัวอย่าง เป็นผู้หญิงที่ยังมีประจำเดือนจำนวนกว่า 90,000 คน ในระหว่างปี 2532-2546

 

  • อาจารย์ ดร. ยุนยอง โช (Eunyong Cho)... ฟังชื่อแล้วทำให้คิดว่า อาจมีเชื้อสายเกาหลี อาจารย์และคณะวิจัยมาจากโรงพยาบาลบริแกม แอนด์ วีแมนส์ โรงเรียนแพทย์ฮาร์วาร์ด บอสตัน สหรัฐฯ

ท่านสันนิษฐานว่า สาเหตุที่การกินเนื้อแดง หรือเนื้อของสัตว์ใหญ่ เช่น วัว หมู แกะ ฯลฯ มีส่วนทำให้เสี่ยงมะเร็งเต้านมชนิดมีตัวรับฮอร์โมนเพศมากขึ้นน่าจะมาจากเหตุผลสำคัญๆ 3 ประการได้แก่...

 

  1. การทำอาหาร หรือเก็บรักษาเนื้อแดง เช่น การทำไส้กรอก หมูแฮม ฯลฯ (ส่วนหนึ่งอาจมีการเติมดินประสิว ผู้เขียน) มีส่วนทำให้เกิดสารก่อมะเร็ง เช่น โฮเทโรไซคลิค เอมีน (heterocyclic amines) ฯลฯ
  2. การใช้ฮอร์โมน หรือสารคล้ายฮอร์โมนกระตุ้นให้สัตว์โตเร็ว (growth hormone) ซึ่งใช้กันในสหรัฐฯ สารนี้ห้ามใช้ในยุโรป (ไม่ทราบข้อมูลในประเทศไทย ผู้เขียน)
  3. การได้รับธาตุเหล็กมากเกิน ธาตุเหล็กมีมากในเนื้อแดง ธาตุเหล็ก(ที่มีมากเกินจากการกินเนื้อแดงมาก)มีส่วนกระตุ้นให้เนื้องอกที่มีตัวรับฮอร์โมนเพศหญิงชนิดเอสโทรเจน (estrogen) โตเร็วขึ้น

    คำแนะนำ:

  • การกินเนื้อมีอันตรายแฝงที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งได้แก่ การมีไขมันแฝงอยู่มาก... แม้เนื้อจะไม่ติดมันก็มีไขมันสัตว์ และมีโคเลสเตอรอล

ถ้ากินเนื้อให้ต่ำกว่าสัปดาห์ละ 3 ส่วนบริโภค เทียบเท่า 3 ทัพพี หรือ 300 กรัมโดยประมาณน่าจะปลอดภัยกว่าการกินเนื้อมาก

 

  • เนื้อสัตว์ปีก เช่น เป็ด ไก่ ห่าน ฯลฯ มีไขมันมากที่หนัง... การถลกหนังออก (ฟังดูโหดไปหน่อย) หรือลอกหนังออกก่อนกินมีส่วนช่วยลดไขมันลงได้

การปรุงเนื้อสัตว์ที่อุณหภูมิสูง โดยเฉพาะในช่วง 200-800 องศาเซลเซียส เช่น ปิ้ง ย่าง หมูหรือเนื้อกะทะ ทอดน้ำมันท่วม(ใช้ความร้อนสูง) ฯลฯ ทำให้เกิดสารก่อมะเร็ง

 

  • อาหารประเภทเนื้อปรุงสำเร็จ เช่น ไส้กรอก หมูแฮม หมูหยอง หมูแผ่น เนื้อสวรรค์ ฯลฯ มักจะมีการเติมดินประสิว

เมื่อถูกกรดในกระเพาะอาหารอาจทำให้เกิดสารก่อมะเร็ง (ไนโตรซามีน) ได้ แนะนำให้กินเนื้อปรุงสำเร็จไม่เกินสัปดาห์ละ 1 ครั้ง

 

  • อาหารประเภทกับแกล้มเหล้า... เมื่อรวมกับเหล้า บุหรี่ ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งแล้ว... มีส่วนทำให้สุขภาพทรุดโทรมลงได้อย่างมากมาย

การกินโปรตีนจากพืช เช่น ข้าวกล้อง ถั่ว งา เห็ด ฯลฯ ปนกันให้ได้มื้อละ 5 อย่างขึ้นไป และมีโปรตีนจากถั่วเหลืองวันละ 1 ครั้งแทนโปรตีนจากสัตว์มีส่วนช่วยป้องกันมะเร็งได้

 

  • ท่านผู้อ่านที่กินเนื้อมามากไม่ต้องตกใจว่า จะมีธาตุเหล็กมากเกิน... เพียงสมัครเป็นผู้บริจาคเลือดขาประจำที่โรงพยาบาล หรือหน่วยกาชาดใกล้บ้าน
  • เพียงเท่านี้ท่านก็จะมีสุขภาพดี อิ่มท้อง(จากพืชผัก) และอิ่มบุญ(จากการบริจาคเลือด)ได้ไม่ยากเลย

    แหล่งข้อมูล:

  • ขอขอบคุณ > Red meat link to breast cancers.  http://news.bbc.co.uk/1/hi/health/6143408.stm > November 14, 2006. // source: Archives of Internal Medicine. // การศึกษานี้เป็นส่วนหนึ่งของ The Nurses’ Health Study (1989-2003).
  • นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ ศูนย์มะเร็งลำปาง จัดทำ > ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๔๙ > สงวนลิขสิทธิ์ พ.. ๒๕๔๙.
  • ยินดีให้ท่านผู้อ่านนำไปใช้โดยไม่เกี่ยวข้องกับการค้าได้ครับ...

    เชิญอ่าน & ดาวน์โหลดที่นี่:

หมายเลขบันทึก: 59804เขียนเมื่อ 15 พฤศจิกายน 2006 09:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)
  • สงสัยต้องไปบริจาคโลหิตบ่อยๆนะครับ
  • ขอบคุณมากครับ

ขอขอบคุณอาจารย์ขจิต และท่านผู้อ่านทุกท่าน...

  • เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยครับ...
  • การบริจาคเลือดดีต่อสุขภาพมากๆ
    (1). ได้ขับเหล็กที่อาจจะมีมากเกินออกไป (เหล็กมีฤทธิ์เพิ่มอนุมูลอิสระ มีพิษต่อตับ และกล้ามเนื้อหัวใจ - ถ้ามีมากเกิน โดยเฉพาะฝรั่ง ซึ่งกินเนื้อแดงมาก)
    (2). ถ้าคิดตามแนวสุขภาพทางเลือก - การล้างพิษที่ดีที่สุดน่าจะเป็นการเสียเลือดออกไปบ้าง ซึ่งผู้หญิงมีโอกาสแทบทุกเดือน (ประจำเดือน) มีโอกาสตั้งครรภ์ คลอด (เสียเลือด) และให้นมลูก // ผู้ชายมีทางดีที่สุดคือ บริจาคเลือด
    (3). การบริจาคเลือดเป็นทานที่ไม่ธรรมดา เพราะเท่ากับการสละอวัยวะ (องคบริจาค) ไปให้ชีวิตมนุษย์ หรือทำให้โรคคนอื่นทุเลาลง เป็นทานที่มีผลมาก มีอานิสงส์มาก

การบริจาคอวัยวะ เช่น ดวงตา ไต ไขกระดูก ฯลฯ ก็น่าสนใจมากครับ...

  • เทคโนโลยีปัจจุบัน > บริจาคไขกระดูก และไตได้...
  • สภากาชาดไทยกำหนดให้ผู้บริจาคไขกระดูกควรเป็นผู้บริจาคเลือด 2 ครั้งขึ้นไป และให้ไปบริจาคที่สภากาชาดไทย ข้างโรงพยาบาลจุฬาฯ 1 ครั้ง เพื่อลงทะเบียน DNA (HLA antigen) ไว้...
  • ถ้ามีผู้รับมีกลุ่มโครงสร้างภูมิคุ้มกันใกล้เคียงกันก็จะมีการนัดหมายไปบริจาคไขกระดูก
  • ส่วนดวงตา... บริจาคได้หลังเสียชีวิต

ขอให้อาจารย์ขจิต และท่านผู้อ่านมีความสุข มีสุขภาพดี มีโอกาสบริจาคเลือด ไขกระดูก ไต หรือดวงตาเป็นทานบารมีครับ...

ผมอายุ32ปี บริจาคเลือดมาแล้วประมาณ14ครั้ง เมื่อ2ปีที่แล้วได้มีโอกาศบริจาคเกร็ดเลือดให้ญาติของเพื่อนที่อุบล (ผมเป็นคนโคราช) ผมอยากบริจาคไขกระดูก เป็นความตั้งใจตั้งแต่เริ่มแรก แต่ไม่รู้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยครับ ประวัติของผม เลือดกรุ๊ปB สูง173ซ.ม. หนัก82กก. ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เคยมีประวัติการติดโรคติดต่อทางเพศ หรือโรคติดต่อร้ายแรง ไม่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงโรคใดๆ ไม่มีโรคประจำตัว อยากทราบว่าพอจะบริจาคไขกระดูกได้หรือไม่ แล้วต้องทำอย่างไรครับ ตอนนี้ผมทำงานเป็นพนักงานร้านเล็กๆที่อำเภอปากช่อง ยอมรับตรงๆว่าไม่รู้จักทางในกรุงเทพเลย (เป็นคนบ้านนอกน่ะครับ) รบกวนช่วยตอบทางอีเมล์ด้วยนะครับ ขอบพระคุณล่วงหน้าครับ

ขอขอบคุณ... คุณพุฒชงและท่านผู้อ่านทุกท่าน

  • ขออนุโมทนาในกุศลเจตนาที่บริจาคเลือดมามากถึง 14 ครั้ง... สาธุ สาธุ สาธุ
  • ขอเชียร์ให้บริจาคต่อไปเป็นประจำจนถึงอายุ 55-60 ปีครับ

ไขกระดูก...

  • คำถามนี้ตอบทางอีเมล์ไม่ได้ครับ...
  • เพราะคุณพุฒชงไม่ได้ให้ที่อยู่ (e-mail address) มา
  • อีกอย่างหนึ่ง... การตอบทางบล็อกมีดีที่คนอื่นจะได้อ่านด้วย

บริจาค...

  • การบริจาคไขกระดูกปัจจุบันต้องไปลงทะเบียนที่สภากาชาดไทย ข้างโรงพยาบาลจุฬาฯ กรุงเทพฯ
  • คุณสมบัติสำคัญคือ ต้องบริจาคเลือดมาแล้วอย่างน้อย 2 ครั้ง เพื่อให้แน่ใจจริงๆ ว่า ไม่มีโรคติดต่อ เช่น เอดส์ ฯลฯ และเส้นเลือดเส้นกลางท้องแขนแข็งแรง

ฝึกเส้นเลือด...

  • ฝึกให้เส้นเลือดแข็งแรงได้ด้วยการซื้อที่บีบมือ (hand grips) มาบีบ 2 นาที พัก 1 นาที ทำ 4 ยก รวมเป็นชุดละ 12 นาที วันเว้นวัน...
  • เวลาฝึกบีบมือ... อย่ากลั้นหายใจ และควรเดินแกว่งแขนไปมา เพื่อให้ได้ประโยชน์เพิ่มเติมคือ ป้องกันความดันเลือดสูง และทำให้แข็งแรงขึ้นมาก

การบริจาคไขกระดูก...

  • ต้องรอคิวครับ ถ้ามีคนต้องการ และระบบภูมิต้านทานตรง หรือใกล้เคียงกันมากหน่อย จึงจะนัดกันไปบริจาคได้

เรียนเสนอ...

  • เรียนเสนอให้บริจาคอวัยวะ เช่น ดวงตา ฯลฯ โดยเขียนจดหมายไปขอแบบฟอร์มที่ศูนย์บริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย ภายในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ฯ...
  • กรอกแบบฟอร์ม บอกญาติสนิท มิตรสหาย และพกใบบริจาคติดตัวตลอดเวลา

ขอแสดงความยินดี...

  • ขอแสดงความยินดี... สาธุ สาธุ สาธุในความเป็นคนทำดีของท่านมา ณ ที่นี้
  • ถ้านับถือพระพุทธศาสนา... เรียนเสนอให้ถวายบุญจากการทำความดีเป็นพุทธบูชา นำบุญนี้ไปบูชาพระเจดีย์ พระธาตุ หรือพระพุทธรูปทุกวัน เวลาสวดมนต์ก็ควรถวายบุญนี้เป็นเครื่องสักการะบูชาเช่นกัน

ทำดี...

  • การทำความดีเป็นปฏิบัติบูชามีอานิสงส์มากกว่าอามิสบูชา (บูชาด้วยวัตถุสิ่งของ)
  • สาธุ สาธุ สาธุ...
ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท