แนวทางการบริหารจัดการการท่องเที่ยวแห่งชาติ
การท่องเที่ยวเป็นความหวังของคนไทยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศชาติ การท่องเที่ยวเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจของประชาชนโดยร่วม รายได้ของการท่องเที่ยวมาจากการใช้จ่ายเงินของคนด้านการเดินทางเพื่อการท่องเที่ยว ทำให้เกิดการสร้างงานและรายได้ในภาคส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เช่น พาหนะที่ใช้ในการเดินทาง ที่พักแรม อาหารเครื่องดื่ม ของที่ระลึก อุปกรณ์เครื่องใช้ในการเดินทาง การสื่อสารและเทคโนโลยี ต่างๆที่ใช้ในการบริหารจัดการด้านการให้บริการท่องเที่ยว
เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศมาจาก ภาคเกษตรกรรม (ผลิต-ขาย) ภาคอุตสาหกรรม (ผลิต-ขาย) ภาคการค้า (สินค้า ชื้อมา-ขายไป) ภาคการค้าบริการ (การบริหารจัดการ)
ธุรกิจท่องเที่ยวเป็นสาขาหนึ่งในธุรกิจภาคการค้าบริการ วัตถุดิบมาจากสิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และจากการจัดการของมนุษย์ ขบวนการในการให้บริการของธุรกิจท่องเที่ยว เกี่ยวเนื่องกับเศรษฐกิจในทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาคเกษตรกรรม, ภาคอุตสาหกรรม.และภาคการค้า (สินค้า) และภาคการค้าบริการในสาขาธุรกิจอื่นๆ เช่น การเงิน การขนส่งคมนาคม โรงแรม ฯลฯ
วัตถุดิบที่สำคัญของธุรกิจท่องเที่ยวประกอบด้วย
สถานที่ท่องเที่ยว ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และเกิดจากการจัดการของมนุษย์ การคมนาคม ได้แก่การขนย้ายนักท่องเที่ยวเข้าไปและออกจากสถานที่ท่องเที่ยว ประกอบด้วยพาหนะ ได้แก่ รถ เรือ เครื่องบิน เส้นทางการเดินทาง ถนน แม่น้ำ ทะเล อากาศ ที่พักแรม อาหารเครื่องดื่ม และบริการอื่นๆที่ให้กับนักท่องเที่ยว ประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม และอารยะธรรม ความเป็นอยู่ของประชาชนในแต่ละชุมชน มนุษย์ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดการและการให้บริการ
หัวใจของธุรกิจบริการท่องเที่ยวได้แก่การบริหารจัดการของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้แก่ ภาครัฐ นักการเมือง ข้าราชการ (ส่วนกลางและส่วนท้องถิ่น) ภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการ ผู้บริหาร และพนักงานผู้ให้บริการ ภาคประชาชนที่เกี่ยวข้อง ประชาชนทั่วๆไป
การบริหารจัดการในส่วนของภาครัฐ ประกอบด้วย
กาบริหารจัดการทำแผนและนโยบายการท่องเที่ยวโดยรวมของประเทศ การบริหารจัดการในการนำแผนไปปฏิบัติให้ได้ตามนโยบายในทุกภาคส่วน การบริหารจัดการติดตามและวิเคราะห์การปฏิบัติงานในทุกภาคส่วน การบริหารจัดการควบคุมการใช้งบประมาณให้เป็นไปตามแผนและนโยบาย การบริหารจัดการเครือข่ายทั้งส่วนของภาครัฐและส่วนของภาคเอกชนให้ทำงานร่วมกันแบบบูรณาการ
การบริหารจัดการทำแผนและนโยบายการท่องเที่ยวโดยรวมของประเทศ ต้องคำนึงถึงด้าน เศรษฐกิจ สังคมสิ่งแวดล้อม และความมั่นคง
ด้านเศรษฐกิจได้แก่การคำนึงถึงการเติบโตของการท่องเที่ยว ทั้ง รายได้ และ จำนวนนักท่องเที่ยว แผนและนโยบายต้องชัดเจน จะเอารายได้หรือจำนวนนักท่องเที่ยวเป็นตัวกำหนด นักท่องเที่ยวแต่ละกลุ่มใช้จ่ายไม่เท่ากัน นักท่องเที่ยวทุกคนมีต้นทุนทั้งที่วัดเป็นตัวเงินได้และที่วัดเป็นตัวเงินไม่ได้ สินค้าท่องเที่ยวเป็นทรัพย์สินของคนไทยทั้งแผ่นดิน ต้องคำนึงว่ารายได้ตกอยู่กับใคร งบประมาณที่รัฐนำไปพัฒนาเพื่อการท่องเที่ยวเหมาะสมและคุ้มค่ากับการเจริญเติบโตของการท่องเที่ยวหรือไม่ มีผลกระทบกับเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศอย่างไร
ด้านสังคมสิ่งแวดล้อม นักท่องเที่ยวหมายถึงผู้ที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวนั้นๆ เมื่อมีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากจะทำให้คนท้องถิ่นในสถานที่ท่องเที่ยวได้รับผลกระทบ ทั้งด้านดี และไม่ดี การจัดทำแผนและนโยบายในส่วนนี้ จะต้องพิจารณาถึงการบริหารจัดการสถานที่ให้ได้รับผลกระทบด้านลบน้อยที่สุดทั้งด้าน ชีวิตความเป็นอยู่ของคนในชุมชน สภาพแวดล้อม การรักษาวัฒนธรรมและอารยะธรรมที่ดีงามของชุมชน
ด้านความมั่นคง การท่องเที่ยวเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคนต่างชาติหรือคนต่างท้องถิ่น มีทั้งนักท่องเที่ยวจริง และผู้ที่แฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยว สิ่งอำนวยความสะดวกที่จัดหาให้กับนักท่องเที่ยว เช่นแผนที่ หรือบางธุรกิจที่แอบแฝงมากับธุรกิจท่องเที่ยว อาจจะมีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ทั้งด้านการปกครอง และด้านเศรษฐกิจ
การบริหารจัดการในการนำแผนไปปฏิบัติให้ได้ตามนโยบายในทุกภาคส่วน
การบริหารจัดการติดตามและวิเคราะห์การปฏิบัติงานในทุกภาคส่วน
สำนักนายกเป็นผู้รับผิดชอบ โดย มีตัวแทนของนายกเป็นประธาน มี กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา และหรือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นเลขาของแต่ละแผนงาน ตัวแทนของกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของแต่ละแผนงานเป็นกรรมการ
การบริหารจัดการควบคุมการใช้งบประมาณให้เป็นไปตามแผนและนโยบาย
กระทรวงการคลัง เป็นประธาน โดยมีกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา และหรือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเป็นเลขา ตัวแทนของกระทรวงและหน่วงงานที่เกี่ยวข้องกับแผนเป็นกรรมการ
การบริหารจัดการเครือข่ายทั้งส่วนของภาครัฐและส่วนของภาคเอกชนให้ทำงานร่วมกันแบบบูรณการ
คณะทำงานอิสระ ประกอบด้วย ตัวแทนนายก ตัวแทนกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตัวแทนการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ตัวแทนกระทรวงและหน่วยงานของภาครัฐส่วนที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ตัวแทน สมาคม สภา สหพันธ์ ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ตัวแทนผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ตัวแทน ลูกจ้างผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว (ผู้บริหาร และผู้ให้บริการ) ตัวแทนชุมชน และสถานที่ท่องเที่ยว หัวหน้าชุมชนที่เกี่ยวข้องธุรกิจท่องเที่ยว ตัวแทนสถาบันการศึกษา และวิทยากร ผู้ทรงคุณวุฒิ
แผนปฏิบัติการณ์เพื่อเพิ่มศักยภาพธุรกิจท่องเที่ยวแบบยั่งยืน ต้องดำเนินการควบคู่กันไปทั้ง ๓ ภาคส่วน ได้แก่
ภาคธุรกิจ เจ้าของ,ผู้บริหาร,พนักงาน ภาครัฐ นักการเมือง ข้าราชการ (ส่วนกลาง และ ท้องถิ่น) สถาบันการศึกษา นักวิชาการ สถานศึกษา
ภาคธุรกิจ: ต้องได้รับความรู้ความเข้าใจเรื่องการตลาดอย่างแท้จริง เพื่อเปลี่ยนแนวทางค้าขายให้มาเน้นถึงการค้าแบบยั่งยืน มีกำไรในทางตรง มีการบริหารและการจัดการแบบมืออาชีพ สร้างเครือข่ายและมีการร่วมทุน ได้รับการสนับสนุนในสิ่งที่ต้องการจากภาครัฐ รับผิดชอบ ต่อสังคม ลงทุนด้านทรัพยากรมนุษย์ เห็นความสำคัญในการทำงานร่วมกับผู้ประกอบการด้วยกัน โดยผลักดันให้สมาคมเป็นสมาคมของสมาชิก กรรมการสมาคมต้องบริหารงานสมาคมให้เป็นที่ไว้ใจของสมาชิก สร้างความเข้มแข็งและสนับสนุนให้สมาชิกได้รับผลประโยชน์จากภาครัฐอย่างทั่วถึงและยุติธรรม เห็นความสำคัญในการทำงานร่วมกับภาครัฐ เพื่อทำให้ภาครัฐเข้าใจในธุรกิจของสมาชิก ทำให้สมาชิกโดยรวมได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ ให้ความสำคัญกับสมาชิก ควรจะมีการประชุมร่วมกับสมาชิกและได้รับความคิดเห็นจากสมาชิกก่อนที่จะส่งผู้แทนไปเข้าร่วมประชุมกับภาครัฐ
แนวคิดในการจัดทำหลักสูตรสำหรับผู้บริหารจัดการด้านการท่องเที่ยว
สร้างองค์ความรู้และความเข้าใจด้านแนวทางการดำเนินการทั้งของภาครัฐและเอกชนและ NGO เพื่อการผสมผสานการดำเนินงานที่ยั่งยืน การสร้างแนวทางการพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆรวมทั้งปัญหาและอุปสรรค์ที่ประสบในการพัฒนาการท่องเที่ยวจากแหล่งต่างๆ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวต่างๆเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาพื้นที่ร่วมกันของทุกภาคส่วน สร้างจิตสำนึกและการจัดสรรทรัพยากรให้สามารถอยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อม
กลุ่มเป้าหมาย ข้าราชการที่เกี่ยวข้องทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ผู้นำประชาชนในพื้นที่หรือ NGO ภาคเอกชนทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค
ประโยชน์ที่จะได้รับ การสร้างเครือข่ายทางการท่องเที่ยวทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งกลุ่ม NGO การสร้างองค์ความรู้และความเข้าใจถึงแนวทางการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในทุกมุมมองไม่ว่าจะเป็นภาคเอกชน ภาครัฐ และ NGO ความรู้ความเข้าใจการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยว ที่ยั่งยืน ความเข้าใจระหว่างองค์กรต่างๆทั้งภาครัฐ เอกชน และ NGO ทำให้การบริหารจัดการและการพัฒนาการท่องเที่ยวเป็นไปได้อย่างดี ทำให้เกิดการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน รวมทั้งการสร้างจิตสำนึกร่วมกันในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว
หลักสูตร ประกอบด้วย
ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท
แก้ไขและปรับปรุ่งวันที่ 25 กันยายน 2558
ไม่มีความเห็น