ว่าด้วย.... "จิตสำนึกความรับผิดชอบ"
ว่าด้วยจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อตนเอง และจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อผู้อื่น ขอพูดถึงเรื่องความรับผิดชอบส่วนตัวในหน้าที่ที่ตนเองควรกระทำ และมีจิตสำนึกเห็นควรรับผิดชอบ อย่างเอาใจใส่ในเวลาที่พึงมีจำกัด ไม่ควรปล่อยเวลาให้ผ่านเลยไปและเมื่อถึงเวลาที่ต้องการก็จะเรียกร้องหาความรับผิดชอบขึ้นมาทันทีทันใด อย่างเสียมิได้ โดยเนื้อแท้ของคนเป็นครูที่สอนนักเรียนทั้งหลายก็ต้องพึงกระทำให้ได้เพื่อนำสิ่งเหล่านี้ไปสอนนักเรียน ลูกศิษย์ของตนเองเพื่อเป็นการส่งเสริมให้เกิดความรับผิดชอบต่อตนเอง ต่อผู้อื่น ส่วนรวมและสังคมจนถึงประเทศชาติได้ต่อไป...
หากวันนี้เรายังทำเรื่องเล็กๆไม่ได้แล้วจะหวังอะไรกับความรับผิดชอบเรื่องใหญ่ๆ ความไว้วางใจที่มีต่องานตนเอง และความไว้วางใจจากผู้อื่นที่จะมอบให้บุคคลนั้นๆคงต้องพิจารณากันหลายครั้ลงหลายครา บ่อยครั้งที่นักศึกษา นักเรียน มีปัญหากับการส่งงานล่าช้าก็ดี การขาดสอบก็ดี ไม่ทำงานมาส่่งให้ครบ หรือแม้กระทัั่งละเลยไปเลยก็มี นี้คือสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมที่ถูกหล่อหลอมมาจากสิ่งแวดล้อมทางครอบครัวหรือสังคม ชุมชนที่อยู่อาศัย รวมทั้งการเข้ากลุ่มกับบุคลลที่่ไม่นำพาตนไปสู่ในที่เจริญ(ทางจิตใจ)แต่เจริญแต่ทางด้านวัตถุนิยมเสียมากกว่าสิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วน่าเวทนายิ่งนักเป็นเหตุปัจจัยที่ทำให้เราเกิดการหล่อหลอม ซึมซับปลูกฝังแต่ในสิ่งที่ไม่ดีไม่ควรลงไปเสียมากกว่า ถ้ารู่้จักเรียนรู้เลือกอุปโภคบริโภคให้เกิดประโยชน์ก็คงไม่เห็นจะเป็นไร แต่นี้กับละเลย ปล่อยไว้ซึ่งภาระหน้าที่ ๆ บางครั้งคนเป็นครู เป็นอาจารย์ ก็เกิดความเอือมระอา จากความรักลูกศิษย์ที่เคยมี ความเอ็นดูที่เคยให้ กลับมาตอกย้ำว่าเราหรือเปล่า ที่ไม่รู้จักสอนให้เขาเรียนรู้เข้าใจกระบวนการทำงาน การเรียนที่ต้องควบคู่ไปกับความรับผิดชอบ ซึ่งมันจะติดตัวไปตลอดจนวนตาย เพราะถ้าเรามีนิสัยแบบนี้เป็นความคุ้นชินก็จะเกิดเป็นอุปนิสัยที่ดีงามมากกว่านิสัยที่เป็นลบอย่างน้อยก็นำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันของตนเองได้ ใช้ในการทำงานได้อีกด้วย
เพียงเท่านี้ก็ถือว่าเกิดความรับผิดชอบร่วมกันทั้งต่อตนเองและต่อผู้อื่น เห็นคุณค่าของการสร้างคุณลักษณะนิสัยที่ดีงาม ให้เป็นพฤติกรรมที่ดี แสดงออกบ่อย ๆ ก็จะกลายเป็นความคุ้นชิน อย่างน้อยก็ได้ทำประโยชน์ให้กับส่วนรวมไม่มากก็น้อย คงจะดีเสียกว่านำนิสัย"ไร้ความรับผิดชอบ" มาขอแก้ปัญหาบ่อยครั้งเข้าก็ไม่เห็นว่าจะเกิดความรู้สึกสำนึกในสิ่งที่ตนละเลย กระทำไว้ก่อนหน้านี้ว่าเป็นเพราะตนเองไม่ใส่ใจเรื่องราว รายละเอียดของตนเอง การทำงานที่ระบบ การเรียนที่สนุกสนาน เกรดที่ได้มานั้นต้องแลกมาด้วยหยาดเหงื่อของความพากเพียร คะแนนที่สูงหรือต่ำไม่ได้เป็นตัวชี้วัดารตัดสินใด ๆ เลยหากคุณมี ไอคิวสูงเสียเปล่า แต่พฤติกรรมการกระทำนั้นไม่่เหมาะสมกันเอาเสียเลย ไม่รู้ว่าวุฒิภาวะจะเกิดขึ้นเทมื่อไหร่ หรือต้องรอให้แก่ลงไปตามเวลาแล้วจึงมีหรืออาจไม่มีเลยก็เป็นได้ ความรู้ ความใส่ใจควใรมาคู่กัน และสิ่งที่ต้องควบคุมมันให้ได้คือ "ความรับผิดชอบ" มันเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากนะคะสำหรับคนที่มีวุฒิภาวะ เช่น
ตัวอย่างเช่น
1) คุณจะไม่ทิ้งก้นบุหรี่ลงพื้น เพราะ............... (สำนึกที่คุณมีตามวุฒิภาวะของคุณ)
2) คุณจะไม่ลอกงานเพื่อนมาส่งครู อาจารย์ เพราะ.....................กลัวโดนครูตี ถ้าครูรู้จะโดนทำโทษ , เพราะกลัวครูไม่ให้คะแนน.เพราะกลัวว่าจะเสียหน้า ว่าเราไม่เก่ง, และเหตุผลอื่น ๆ เป็นต้น
3) คุณจะไม่ส่งงานล่าช้า เพราะ....................
4) คุณจะไม่ปล่อยปละละเลยหากคุณทำงานส่งไม่ทันตามเวลาที่ได้รับมอบหมายหรือเมื่อขาดสอบ คุณต้องมาขอสอบเพราะ...........
ดังนั้น ไม่ว่าเพราะเหตุผลใดที่เราจะเรียกสิ่งเหล่านี้ว่าพฤติกรรมที่เป็นเนื้อร้ายแล้วตัดทิ้งไปไม่ให้เหลือ.................อุปนิสัยแบบนี้อีกเลย ถ้าทำได้ก็นับว่าเป็นประโยชน์ต่อตนเองอย่างยิ่ง และผลพลอยได้ยังส่งต่อลูกศิษย์ของตนเองในอนาคตอีกด้วย
ไม่มีความเห็น