ถอดรหัสโปรแกรมแก้ไขปัญหานักโทษล้นคุก
ตอน อัมสเตอร์ดัม โมเดล (1)
วินัย เจริญเฉลิมศักดิ์ นบ. นม.
ในปัจจุบันคุกในประเทศต่างๆ ส่วนใหญ่ต่างประสบปัญหาที่เหมือนกันประการหนึ่ง คือ ปัญหานักโทษล้นคุก ยกเว้น ประเทศนอร์เวย์ที่ไม่มีปัญหานักโทษล้นคุกเพราะรัฐบาลสร้างคุกใหม่ที่ไม่มีกำแพง และ ประเทศในทวีปแอนตาร์กติกาที่ไม่มีปัญหานักโทษล้นคุกเพราะไม่มีคุก ส่วนประเทศที่เหลือนอกจากนั้นส่วนใหญ่ต่างก็ประสบกับปัญหานักโทษล้นคุกเหมือนกันทั้งหมด สำหรับโปรแกรมแก้ไขปัญหานักโทษล้นคุก ตอน อัมสเตอร์ดัมโมเดลที่นำเสนอในบทความนี้ ได้แก่ โปรแกรมแก้ไขปัญหานักโทษล้นคุกของประเทศเนเธอร์แลนด์ ข้อมูลจากเว็บไซต์ http://www.ricksteves.com/about/pressroom/activism /drugpolicy.htm และเว็บไซต์ http://www. answers.com/topic/drug-policy-of-the-netherlands พบว่า “ปัญหาขาดแคลนนักโทษของคุกประเทศเนเธอร์แลนด์มีความรุนแรงถึงขนาดที่ทำให้กระทรวงยุติธรรมต้องประกาศปิดคุกถึง 19 แห่ง เกิดขึ้นภายหลังที่รัฐบาลได้มีนโยบายเสรีนิยมผ่อนคลายคดียาเสพติด หรือโปรแกรมแก้ไขปัญหานักโทษล้นคุกของรัฐบาล โดยการนำกัญชาออกจากบัญชียาเสพติดและจัดให้กัญชาอยู่ในประเภทเดียวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์”
กัญชาอยู่ในประเภทเดียวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ดังนั้น เพื่อให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจ จึงขอกล่าวถึงโปรแกรมแก้ไขปัญหานักโทษล้นคุกของประเทศเนเธอร์แลนด์ ในหัวข้อต่างๆ ได้แก่ ความเป็นมา แนวคิด แนวทางการดำเนินงาน และ ผลการดำเนินงาน รวมตลอดถึงข้อเสนอในการผ่อนคลายคดียาเสพติดโดยการนำพืชกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติดสำหรับประเทศไทย ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับนโยบายการนำกัญชาออกจากบัญชียาเสพติดของประเทศเนเธอร์แลนด์ (อัมสเตอร์ดัม โมเดล) โดยสังเขป ตามลำดับ ดังนี้
การนำกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด
ความเป็นมา
โปรแกรมแก้ไขปัญหานักโทษล้นคุกของรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ เป็นนโยบายหรือโปรแกรมผ่อนคลายคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ที่มีอิทธิพลจากความต้องการของประชาชนคนหนุ่มสาว ในการใช้กัญชาเป็นเครื่องสันทนาการ (ยุคฮิปปี้) ที่ได้เริ่มมีการเรียกร้องให้รัฐบาลหยุดทำสงครามกับยาเสพติด ตั้งแต่ปี 1960 และได้รับการตอบสนองจากรัฐบาลผ่านนโยบายเสรีนิยมผ่อนคลายคดีความผิดเกี่ยวกับคดียาเสพติดโดยการจัดให้กัญชาอยู่ในประเภทเดียวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในปี 1976 ทำให้มีการจำหน่ายและการเสพกัญชาในร้านกาแฟที่มีอยู่ทั่วไปในกรุงอัมสเตอร์ดัม จนถึงปัจจุบันร้านกาแฟประมาณร้อยละ 80 มีการจำหน่ายกัญชา
ภาพแสดงการเรียกร้องให้รัฐบาลหยุดทำสงครามกับยาเสพติด
ภาพแสดงบรรยากาศในร้านกาแฟกรุงอัมสเตอร์ดัม
ถัดมาในปี 1989 ได้มีโครงการถนนขี้ยาในกรุงอัมสเตอร์ดัมมีวัตถุประสงค์ในการควบคุมผู้ใช้ยาเสพติดซ้ำซาก ประมาณ 300-400 คน ให้มีที่ใช้ยาเสพติดเป็นหลักแหล่ง ต่อมา ในปี 2008 ได้มีการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนชาวเนเธอร์แลนด์ เกี่ยวกับการจำหน่ายและเสพกัญชาในร้านกาแฟปรากฏว่าประชาชนร้อยละ 60 สนับสนุนความคิดที่ว่าการจำหน่ายและการเสพกัญชาในร้านกาแฟเป็นสิ่งที่ชอบด้วยกฎหมาย และประชาชนร้อยละ 85% สนับสนุนให้มีการปิดร้านกาแฟที่ตั้งอยู่ห่างจากโรงเรียนในรัศมีไม่เกิน 250 เมตร และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาปรากฏว่าได้มีนักท่องเที่ยวจากประเทศในยุโรปและอื่นๆได้ไปหาชื้อและเสพกัญชาในร้านกาแฟเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ทำให้รัฐบาลประเทศเนเธอร์แลนด์ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากต่างประเทศ รัฐบาลประเทศเนเธอร์แลนด์จึงได้ประกาศห้ามจำหน่ายกัญชาให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในปี 2010
...............................
เอกสารอ้างอิง
ภาพประกอบจากเว็บไซต์ http://www.weedpad.com/wallpapers/เว็บไซต์ http://www.kevinmd.com/blog/2013/03/legalized-marijuana-study-medical-consequences.html และ เว็บไซต์ http://www.livescience.com/40389-marijuana-abuse-t...
หมายเหตุ
1. ถอดรหัสโปรแกรมแก้ไขปัญหานักโทษล้นคุกตอน อัมสเตอร์ดัม โมเดล (1) ของวินัย เจริญเฉลิมศักดิ์ได้ลงเผยแพร่ในเว็บไซต์ฐานข้อมูลเว็บไซต์งานวิจัยกรมราชทัณฑ์หรือเว็บไซต์คลังความรู้กรมราชทัณฑ์ ประจำเดือน กรกฎาคม 2557 http://www.correct.go.th/blogknowledge/index.php/2014-01-17-03-42-26/2014-07-07-07-45-48
2. โปรดติดตามถอดรหัสโปรแกรมแก้ไขปัญหานักโทษล้นคุกตอน อัมสเตอร์ดัม โมเดล (2 ) ของวินัย เจริญเฉลิมศักดิ์ เป็นตอนต่อไปน่ะครับ
ขอบคุณมากครับพี่ nui
ขอบคุณมากครับอาจารย์ต้น