ว่าด้วยร่างทรง (ต่อ)


จงอย่าเชื่อคำพูดของใครง่ายๆ

1

ต่อมาผมอ่านพบข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์พระเครื่อง
หลวงปู่ฤาษีนารอด ตำหนักใกล้โรงเรียนกุนนทีวิทยาคม ห้วยขวาง กรุงเทพฯ
จะทำพิธีครอบครู ชื่อเสียงตำหนักท่านโด่งดัง
ผมก็เลยสมัครเข้าร่วมพิธีด้วย จ่ายค่าเข้าพิธี และรูปบูชาฤาษีนารอด
ค่าเช่ารถเดินทางไปกลับกรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา รวมแล้วจ่ายไปห้าพันบาท
2

ผลปรากฏว่า ในวันพิธีครอบครู ผมก็ยังแสดงอิทธิฤทธิ์เหมือนเดิม
เสียงดังลั่น เป๊ะเลย...ยังกะพิมพ์เดียวกัน
ต่างกันแต่เพียงปู่นารอดได้แต่พูดว่า บุญญฤทธิ์นะ ๆ ๆ
ขณะที่ผู้ช่วย 2 คนช่วยกันจับร่างผมไว้ไม่ให้อาละวาด
ครั้นเมื่อผมกลับถึงบ้าน ได้เวลาสวดมนต์ไหว้พระ
แล้วสวดมนต์อัญเชิญให้ลงประทับร่างผม
ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เงียบเหมือนเป่าสาก (ว่างั้นเถอะ)
3

เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ผมเริ่มคิดพิจารณารำพึงในใจ
กูมันบ้าไปหรือเปล่าวะ มาเชื่อคำพูดของคนง่ายๆ
จะไปโทษตำหนักทรงก็ไม่ได้ เป็นเพราะเราแส่ไปหาท่านเอง
แล้วไปเชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็น ความจริงมันเป็นยังไง พิสูจน์ก็ไม่ได้
4

ครึ่งเดือนผ่านไป ผมก็ยังเป็นผม ยังไม่ได้เป็นร่างทรง ดังที่หวัง
คิดจะเอาพานครูไปโยนทิ้งน้ำเหมือนครั้งแรกอีกใจก็ยังลังเล
5

คืนหนึ่งประมาณตีสองกว่า (3 ธันวาคม 2531)

ผมฝันว่า…

ตัวเองได้ยืนอยู่ที่กลางถนนใกล้สี่แยกสถานีรถไฟหลักสี่
แล้วมองไปทางดอนเมือง เห็นดวงอาทิตย์ค่อยๆ โผล่ขึ้นขอบฟ้า
แสงสีนวลเย็นตา ดูสว่างไสว มองแล้วใจผ่องแผ้วเป็นสุข

6

จู่ๆ ก็เห็นรถสามล้อขับมาจอดตรงหน้า
ผมถามว่า จะไปดอนเมือง เพื่อหาบ้านหมอดูตาทิพย์ รู้จักไหม?
สามล้อบอกว่า รู้จักคุ้นเคยดี ผมเคยไปดู แม่นยำเหมือนตาเห็น
ผมจึงขึ้นรถสามล้อ ขณะกำลังออกวิ่ง ฉับพลันผมก็สะดุ้งตื่น
ภาพในความฝันนี้มันชัดเจนเสมือนชีวิตจริง
ทุกคำพูดกิริยาทุกอย่างมันโล่งสว่างชัดเจนก้องอยู่ในหัว
7

เช้าวันนั้น (4 ธันวาคม 2531)
ผมตัดสินใจบอกภรรยาว่าจะไปดอนเมืองหาหมอดู
เล่าความฝันให้ฟัง เธอก็ไม่ว่าอะไร ได้แต่บ่นว่า เชื่ออะไรกับความฝัน
เธอถามว่า แล้วรู้จักที่อยู่บ้านหมอดูแล้วหรือ?
ผมพูดว่าจะไปลุยเอาข้างหน้า “ทางอยู่ที่ปาก”
8

ออกจากบ้านไปขึ้นรถประจำทางฉะเชิงเทรา-หมอชิต
บอกกระเป๋าเก็บเงินว่า จะลงป้ายหน้าที่ว่าการเขต บางเขน
เมื่อถึงจุดหมาย ข้ามถนนไปฝั่งวัดพระศรีมหาธาตุ
ยืนคอยต่อรถประจำทางไปดอนเมือง
ก็ยังไม่มีรถผ่านมาสักคัน
จึงตัดสินใจเดินไปเรื่อยๆ จนถึงสี่แยกหลักสี่
ขณะนั้นมีรถสามล้อคันหนึ่งวิ่งเข้ามาจอดเทียบ ถามผมว่า “จะไปไหน”
ผมบอกว่า จะไปดอนเมือง ไปบ้านหมอดูตาทิพย์ ลุงรู้จักไหม?
โฮ้ย... ใครๆ ก็รู้จักกันทั้งนั้น ผมคุ้นเคยดี ผมเคยไปดู แม่นยำเหมือนตาเห็น
9

พอลุงพูดจบ ผมถึงกับสะดุ้งเฮือก
นึกถึงความฝันเมื่อคืน ร่างกายมีอาการขนลุกซู่ขึ้นมาทันที
ยังกับฝันที่เป็นจริง ผมก้าวขึ้นรถทันทีโดยไม่รีรอ
10

ต่อไปนี้ ลองอ่านบันทึกประจำวันของผมดูบ้าง
รถสามล้อจอดหน้าตำหนักอาจารย์เสริฐ บ้านเงียบคล้ายไม่มีคนอยู่
สักครู่มีเด็กคนใช้มาถาม เราบอกว่า ไม่เคยมา เด็กจึงไปตามมาให้
เราเตรียมดอกไม้ธูปเทียนมาพร้อมค่าครู 12 บาท
เมื่ออาจารย์เสริฐนั่งลงแล้ว ก็พูดว่า จะถามอะไร?
ผมอยากรู้ว่า เทพองค์ที่มาจับร่างผม ชื่ออะไร?
พูดจบ อาจารย์เสริฐถาม วันเดือนปีเกิดและอายุ ผมบอกไป
เขาฟังแล้วหันหน้าเข้าหิ้งพระ สักครู่ก็ลืมตาขึ้นแล้วพูดว่า

สมเด็จโต พรหมรังสี และอีกองค์คือ หลวงปู่แหวน
คำตอบนี้ทำให้เรางง คาดคิดไม่ถึง จึงได้ถามไปอีกหลายคำถาม
11

แล้วคำตอบต่างๆ ก็พรั่งพรูมา
เราเป็นลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดกับท่านในอดีตชาติ
ส่วนหลวงปู่แหวนคือ ภาคหนึ่งของสมเด็จโต พรหมรังสี
ท่านนั่งอยู่ในหัวใจของเรา ส่วนหลวงปู่แหวนเพิ่งมาจับร่างไม่นานมานี้
ยืนถือไม้เท้าอยู่ห่างหัวใจหน่อยหนึ่ง
เทพองค์อื่น นานๆ มาหน ไม่ใช่องค์เจ้าของร่าง
12

คุณไปทำพิธีครอบครูมาไม่ถูกต้อง
เพราะองค์ในเราเป็นพระ ฤาษีมีศักดิ์ต่ำกว่า จะมาครอบไม่ได้
และผู้ครอบครูทั้งสองคนไม่สะอาด

คนแรกเป็นหญิงมีประจำเดือนในวันทำพิธีครอบ
คนหลังเป็นชายสมสู่กับหญิงก่อนวันทำพิธีครอบครูสามวัน

ถ้าคุณตัดสินใจจะให้ผมทำพิธีครอบครูให้
ผมก็ยินดีทำพิธีเชิญองค์ในให้ก่อน เสียเงิน 210 บาท
ให้ถือพระพุทธเจ้าเป็นองค์ครูสูงสุด โดยมีเทพยดาทุกชั้นเป็นพยาน
ในการที่เรารับเป็นร่างทรงให้ท่าน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
13

เมื่อท่านมาประทับทรงแล้ว ให้อัญเชิญขันธ์ 5 และ ขันธ์ 9 ที่มีอยู่เดิม
ไปจำเริญเสียให้เรียบร้อย (ทิ้งลงในแม่น้ำ)
และอย่าไปรับขันธ์ครอบครูกับใครอีกเป็นอันขาด
14

พรุ่งนี้ตื่นนอนมาแล้ว มือซ้ายหรือมือขวาอย่าเพิ่งทำอะไร
ให้อธิษฐานแล้วมาแตะที่หน้าอก 3 ครั้ง
ขออัญเชิญองค์ใน คือ สมเด็จโต พรหมรังสี มารับดอกไม้ธูปเทียน
แล้วเทน้ำลงดินเป็นอันเสร็จพิธี
ต่อไปนี้ ไปไหน ทำอะไรให้อาราธนาท่าน นึกถึงท่าน ให้ท่านแผ่บารมีช่วยเรา
นั่งกรรมฐานให้จิตนิ่ง อธิษฐานให้เห็นองค์ท่านในนิมิตให้แจ่มชัด
ดวงชะตาเราตอนนี้กำลังขึ้น ให้สวดคาถาชินบัญชรขอบารมีหลวงปู่

15

แล้วอาจารย์เสริฐกล่าวนำให้ผมว่าตาม ตอนท้ายเชิญท่านประทับทรง
ท่านเพียงรับรู้ แต่ไม่ลงทรง

โอกาสหน้าผมจะเล่าเรื่องนี้ต่อ
ขอความสุขสวัสดีจงมีแก่ทุกท่านที่เข้ามาอ่าน
ด้วยความปรารถนาดี

หมายเลขบันทึก: 591062เขียนเมื่อ 13 มิถุนายน 2015 21:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 มิถุนายน 2015 21:24 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

มีจริงหรือแล้วผู้หญิงเป็นร่างทรงหลวงปู่ทวดกับสมเด็จโตได้ไหม

ขอที่อยู่ ตำหนักอาจารย์ เสริฐ ได้ไหมค่ะ พอดีมีเรื่องเดือดร้อนมาก อยากให้ท่านช่วยค่า รบกวนหน่อยนะค่า

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท