ไตรสิกขา เป็นขบวนการพัฒนาบุคคลให้ลุถึงเป้าหมายที่วางไว้ทั้งด้านโลกิยะและโลกุตระอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นการย่ออริยมรรคมีองค์แปดลงในไตรสิกขา ได้แก่
1. ศีล เป็นขบวนการของระเบียบปฏิบัติเพื่อพัฒนาให้เกิดสิ่งเหล่านี้
1.1
การพูดที่ถูกต้อง ได้แก่
1) การพูดคำสัตย์ เป็นประโยชน์
เกิดความรักสามัคคี ด้วยวาจาที่ไพเราะนุ่มนวลชวนฟัง การยึดประโยชน์เป็นหลัก คำจริงแต่ไม่เป็นประโยชน์ก็ไม่ควรพูด
โดยให้นิ่งเฉย หรือใช้กุศโลบาย (เลี่ยงบาลี) ของสถานที่ เวลาเข้ามาช่วย เช่น
หากมีคนถามว่า เมื่อครู่นี้เห็นคนใส่เสื้อสี่...ผ่านมาทางนี้หรือไม่
พิจารณาดูแล้วเห็นความแน่ชัดว่าหากบอกไปตามตรงจะเกิดอันตรายกับผู้นั้น
ให้ขยับที่ยืนแล้วตอบว่า
ตั้งแต่ยืนอยู่ตรงนี้ไม่เห็นคนมีลักษณะดังที่ว่ามาผ่านมาเลย
2) ไม่พูดเท็จ ไม่พูดส่อเสียด
ไม่พูดหยาบ ไม่พูดเพ้อเจ้อ
ไร้ประโยชน์
เกิดความแตกแยก บางครั้งคำเท็จแต่เป็นประโยชน์ก็ให้พิจารณาให้ดีแล้วจึงพูด
(โกหกสีขาว) กรณีแพทย์บอกผู้ป่วยเกี่ยวกับโรคที่เป็น หรือโดยการพูดแบบอมความ
คือกล่าวไม่หมดความ เพื่อการรักษากำลังใจ ให้ผู้ป่วยมีกำลังใจในการใช้ชีวิตต่อสู้กับโรคร้าย
เป็นต้น
1.2 การกระทำที่ถูกต้อง
ได้แก่
1) ไม่เบียดเบียนสิ่งมีชีวิตไม่ว่ากรณีใดๆ
เพราะทุกชีวิตล้วนรักสุข เกลียดทุกข์ด้วยกันทั้งนั้น
2) ไม่ลักขโมยทรัพย์สมบัติของผู้อื่น
ด้วยว่าทุกคนรักและหวงแหนทรัพย์สมบัติที่ตนมีด้วยกันทุกคน
บางครั้งนั้นคือสมบัติชิ้นสุดท้ายที่เหลืออยู่หรือที่จะช่วยชีวิตของเขาก็ได้
3) ไม่ประพฤติผิดทางเพศ
ผิดประเพณี ไม่พรากผู้เยาว์หรือผู้เฒ่า ไม่ล่อลวงทางเพศ
1.3 การประกอบอาชีพที่ถูกต้อง
ได้แก่ การประกอบอาชีพที่ไม่ผิดต่อกฎหมาย ไม่ผิดต่อศีลธรรมและจารีตประเพณีอันดีงามของสังคม
ถึงพร้อมด้วยความขยันในการทำงานที่สุจริตด้วยความรอบคอบ
รู้จักเก็บเงินที่เกิดขึ้นจากการทำงานนั้น รู้จักเลือกคบคนที่ดี
รู้จักการใช้จ่ายให้เป็นไปตามความเหมาะสม ไม่ใช้จ่ายมือเติบฟุ่มเฟือย ควรรู้จักแบ่งเงินที่ได้มาให้เป็นสัดส่วน
เช่น ค่าใช้จ่ายภายในบ้าน ลงทุน เก็บไว้ยามฉุกเฉิน ใช้จ่ายทั่วไป และทำบุญเป็นต้น
2. สมาธิ
เป็นขบวนการฝึกอบรมจิต หรือจิตสำนึกเพื่อให้เกิดสิ่งเหล่านี้
2.1 ความเพียรที่ถูกต้อง ได้แก่ เพียรลดละอกุศลบาปความชั่วที่มีอยู่ในตัวตน
เพียรระวังไม่ให้อกุศลบาปความชั่วในตัวตนที่ละได้แล้วเกิดขึ้นอีก
เพียรฝึกฝนเจริญกุศลบุญความดีที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น และเพียรรักษากุศลบุญความดีที่เกิดขึ้นแล้วให้คงอยู่และมีความเจริญเพิ่มพูนยิ่งๆ
ขึ้นไป
2.2 การระลึกที่ถูกต้อง คือการมีสติ กำหนดรู้สภาวะปัจจุบัน 4 ประการ ได้แก่ การระลึกรู้ดูกาย เห็นกายในกายอย่างถูกต้องตามความเป็นจริง
กำหนดระลึกรู้ดูเวทนาที่เกิดกับกาย กำหนดระลึกรู้ดูจิต
กำหนดระลึกรู้ดูธรรมที่เกิดขึ้นในจิต
2.3
การมีจิตสงบสำนึกที่ถูกต้องเป็นขบวนการกำหนดจิตให้นิ่งอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพียงสิ่งเดียวนานๆ
เพื่อให้จิตมีพลัง มีการพัฒนา มีความสามารถ เพื่อความสมดุลทั้งจิตและกาย
เป็นขบวนการเกื้อหนุนให้สิ่งที่รับเข้ามาในชีวิตดำเนินไปด้วยประสิทธิภาพสูงสุด
3. ปัญญา เป็นขบวนการทางความรู้ วิธีการอบรมศึกษาเพื่อให้เกิดสิ่งเหล่านี้
3.1 ความเห็นที่ถูกต้อง
ซึ่งจะยังผลให้เกิดทัศนะความเชื่อค่านิยมที่ถูกต้องหรือองค์ธรรมอื่นๆ ตามมาเช่น
เชื่อว่า ทำดีได้ความดี ทำชั่วได้ความชั่ว กรรมและผลของกรรมมีจริง
บิดามารดามีคุณจริง เป็นต้น
3.2 ความดำริคิดที่ถูกต้องได้แก่ ความดำริคิดที่ปราศจากความโลภ ปราศจากกาม
ปราศจากความเห็นแก่ตัว ความดำริคิดที่ปราศจากโทสะ ปราศจากการจองเวร
ปราศจากการพยาบาทเบียดเบียนกัน ความดำริคิดที่ปราศจากความหลง ปราศจากความลังเล
ปราศจากความไม่รู้
หลักไตรสิกขาที่กล่าวมานี้
เป็นส่วนช่วยพัฒนาบุคคลให้เกิดความสามารถ นำพาชีวิตให้เจริญงอกงามเข้าถึงอิสรภาพ และสันติสุขที่แท้จริงในปัจจุบันและอนาคตได้
ไม่มีความเห็น