​อิตาลีที่ใฝ่ฝัน – ตอนที่ 6: ขึ้นบัสไป Positano


วันที่ 16 เมษายน นั่งรถไฟมาในเมือง Sorrento วันนี้ต้องลากกระเป๋ามาด้วย เพราะตอนเย็นต้องขึ้นรถไฟกลับไปขึ้น High Speed Train ที่เนเปิลเพื่อกลับโรม ถือว่าเป็นการวางแผนที่ผิดพลาดเหมือนกัน แม้จะจองตั๋วรถไฟเที่ยวค่อนข้างเย็นออกจากเนเปิลเวลาสองทุ่มครึ่งก็ตาม แต่ก็ต้องนั่ง Local Train จาก Sorrento ไปเนเปิลอีก ซึ่งถ้าจะให้แน่ใจว่าไม่ตกรถไฟเข้าโรมก็คงต้องออกจาก Sorrento ประมาณหกโมงเย็น ทำให้เวลาเที่ยวในวันนี้ค่อนข้างจำกัด และยิ่งเป็นการเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถบัสด้วยแล้วก็ยิ่งต้องระวังเรื่องเวลาเพราะไม่เช่นนั้นอาจจะพลาดรถไฟ

สรุปว่าเช้านี้กว่าจะเช็คเอาท์จากที่พัก ลากกระเป๋ามาขึ้นรถไฟไป Sorrento (1 สถานี) ถึงสถานี Sorrento ไปติดต่อฝากกระเป๋า (เดินทาง) บอกว่าจะมาเอาตอนหกโมงเย็นแต่เขาบอกว่าเขาปิดห้าโมง เป็นอันว่าฝากไม่ได้ ต้องไปหาที่ฝากกระเป๋าแห่งใหม่ โชคดีที่อาคารจอดรถใกล้ๆ กับจุดที่จะไปขึ้นรถบัสรับฝากก็เลยหมดปัญหาไป รถบัสที่ใช้บริการนี้เป็นรถที่วิ่งจาก Sorrento ไป Positano แล้วไป Amalfi Coast เราซื้อตั๋วไปกลับไว้ แต่ค่อนข้างแน่ใจว่าจากเวลาที่มีน่าจะไปได้ที่เดียวคือ Positano ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ไม่มีเวลาพอที่จะไปต่อ Amalfi

จาก Sorrento ไป Positano ใช้เวลา 50 นาที โชคดีที่เรามาขึ้นรถบัสตอนที่นั่งยังว่าง ผู้โดยสารบางคนมาตอนหลังต้องยืน ตอนแรกนึกว่าเขาคงไปไม่ไกลคงลงระหว่างทาง แต่กลายเป็นมาลงที่ Positano เหมือนกัน ยอมยืนมาตลอดห้าสิบนาที และเป็นถนนที่คดเคี้ยวเหวี่ยงไปมาอีกด้วย เพื่อจะให้เห็นภาพของถนนที่ผ่านมา ผมมีรูปมาให้ดู บางจุดวิวสวยมากโชคดีที่ผมเลือกที่นั่งด้านขวา (ติดทะเล) ก็เลยได้รูปมาพอสมควร

บางจุดแคบมาก รถบัสสองคันขับผ่านกันอย่างทุลักทุเล

ลืมบอกไปว่าคณะที่ไปไม่ได้นั่งติดกัน ผมแยกมานั่งตรงเก้าอี้ว่างแถวหน้าเพื่อว่าจะหามุมถ่ายรูปได้สะดวก ส่วนที่เหลือนั่งค่อนไปทาง ด้านหลังของรถ นัดกันว่าจะลงมาเจอกันตอนถึง Positano โดยที่ไม่รู้เลยว่าที่ Positano นั้นรถจอดสองจุดด้วยกัน ผมค่อยฟังคนถามคนขับตลอดเวลาว่าถึงหรือยัง โดยไม่รู้เลยว่ากลุ่มที่นั่งข้างหลังเขาลงไปกันแล้ว จนกระทั่งลูกชายโทรมาว่า "ป๊าอยู่ที่ไหนทำไมไม่ลง?" ผมก็บอกว่าเห็นคนขับบอกว่าให้ลงป้ายหน้า สรุปว่าต้องนัดแนะเดินมาเจอกันในเมือง โชคดีที่มีโทรศัพท์สื่อสารกัน (ซื้อซิมเติมเงินไว้ตั้งแต่อยู่โรมสองซิม)

ระหว่างทางที่เดินลง (จากเขา) ไปในเมืองซึ่งอยู่ชายทะเล ผมหยุดถ่ายรูปไปเรื่อยๆ เพราะรู้ว่าเส้นทางที่ผมเดินนั้นสั้นกว่าที่ครอบครัวผมเดินกัน ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะในที่สุดเราก็ลงไปถึงจุดนัดพบ (โบสถ์) พร้อมๆ กัน ทั้งๆ ที่ผมหยุดถ่ายภาพมาตลอดทาง เมือง Positano สวยงามตรงที่บ้านเรือนมีสีสัน และปลูกลดหลั่นไปตามหน้าผา ผมว่าแทนที่จะบรรยายเอาภาพมาให้ดูเลยดีกว่า จะได้ตื่นตาตื่นใจเหมือนกับที่ผมรู้สึก

หลังจากลงมาถึงเมืองข้างล่าง (ชายทะเล) ผมก็ยิ่งตื่นตาตื่นใจไปกับภาพที่เห็น . . .

ที่ Positano มื้อเที่ยงเราตัดสินใจเลือกร้านอาหารที่ดีที่สุดในเมือง เลี้ยงฉลองที่ต้องพลัดพรากจากกันไปกว่าครึ่งชั่วโมง ร้านที่เลือกเป็นร้านที่ดูดี เป็นร้านที่ดาราดังๆ มาแล้วก็ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก สั่งอาหารกันคนละอย่าง (ไม่ซ้ำกัน) และก็ผลัดกันชิมของทุกคน (ตามสไตล์คนไทย) ผมเอาบรรยากาศร้านอาหารและอาหารมาให้ดูยั่วน้ำลาย

ช่วงบ่ายใช้เวลาเดินเล่นอยู่ในเมือง ไม่ค่อยได้ช้อปเท่าไหร่เพราะมัวแต่บ้าถ่ายรูปวิถีชีวิตของคนที่นั่น

เดินจนท้องร้องต้องหาของ (หวาน) รอบบ่าย (รอบเย็น) มาเสริม

ขนมหวานนะไม่ใช่ซาลาเปา

ร้านขนม (ร้านกาแฟ) บรรยากาศดีมาก

หมายเลขบันทึก: 589627เขียนเมื่อ 1 พฤษภาคม 2015 12:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 พฤษภาคม 2015 15:38 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

บรรยากาศดีจัง

ไปเที่ยวเองน่าจะสนุกนะคะ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท