รู้ยัง? “5 ผลไม้เด่นที่น่าปลูกในอนาคต” มีอะไรบ้าง


รู้ยัง? "5 ผลไม้เด่นที่น่าปลูกในอนาคต" มีอะไรบ้าง

1. ลำไยยักษ์ พันธุ์ "จัมโบ้" ลำไยสายพันธุ์ใหม่ผลมีขนาดใหญ่มาก มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 4 เซนติเมตร มีขนาดผลใหญ่กว่าลำไยเกรด A ที่ส่งขายยังต่างประเทศถึง 2 เท่า เป็นลำไยที่เนื้อหนาแข็งและแห้ง ไม่แฉะน้ำ มีความหวานเฉลี่ย 13-15 เปอร์เซ็นต์บริกซ์ และได้มีการตั้งชื่อว่า พันธุ์ "จัมโบ้" (JUMBO) จัดเป็นลำไยที่มีลักษณะเป็นพันธุ์หนักกว่าพันธุ์อื่น ทำให้ผลผลิตแก่กว่าลำไยที่ออกในฤดูทั่วไป เนื่องจากเป็นลำไยที่พบเปอร์เซ็นต์เมล็ดลีบ 100 เปอร์เซ็นต์ ได้ผลผลิตในช่วงต้นเดือนกันยายน พบว่าใน 1 ช่อ ผลลำไยมีเมล็ดลีบ 100 เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นพันธุ์ลำไยที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก คือรสชาติ ลักษณะเหมือนลำไยพันธุ์อีดอผสมเบี้ยวเขียว คือมีเนื้อแห้งและกรอบ แต่ได้ขนาดที่ผลใหญ่มาก และที่สำคัญ "เมล็ดลีบ 100 เปอร์เซ็นต์ และเนื้อหนามาก"

2. ฝรั่ง พันธุ์ "พิจิตร 1" ฝรั่งมีผลเป็นทรงกลมคล้ายพันธุ์กลมสาลี่ มีผิวขาวนวล เนื้อละเอียดมาก และเนื้อไม่แข็งมาก เมล็ดน้อยมาก รสชาติหวานมาก ความหวานน่าจะไม่ต่ำกว่า 14 เปอร์เซ็นต์บริกซ์ ถ้ามีการบำรุงรักษาที่ดี ผลจะมีน้ำหนักได้ถึง 1 กิโลกรัม ต่อผล ที่สำคัญเมื่อผลฝรั่งพันธุ์พิจิตร 1 แก่จัด เนื้อจะมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวคล้ายกลิ่นของแอปเปิ้ล และเนื้อล่อนหลุดง่ายจากเมล็ด จัดเป็นฝรั่งที่มีรสชาติอร่อยมากอีกพันธุ์หนึ่ง และได้ตั้งชื่อพันธุ์ว่า "พันธุ์พิจิตร 1" เพราะต้นแม่เกิดที่จังหวัดพิจิตร คาดว่า ฝรั่งพันธุ์พิจิตร 1 จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการปลูกฝรั่งไทยในอนาคตอย่างแน่นอน

3. ชมพู่พันธุ์ "สตรอเบอรี่" ให้ผลผลิตดกมาก มีลักษณะติดผลเป็นพวงและผลร่วงน้อยกว่าชมพู่พันธุ์อื่นๆ เมื่อผลชมพู่แก่สีของผลมีสีแดงเลือดนก โดดเด่นมาก มีน้ำหนักผลไม่ต่ำกว่า 200 กรัม และรสชาติหวาน กรอบ อร่อยมาก ที่สำคัญเมื่อปล่อยชมพู่ให้แก่จัดบนต้นพบว่า เน่าเสียได้ยากกว่าชมพู่ทุกพันธุ์ที่ปลูกในบ้านเราสรุปได้ว่า เป็นพันธุ์ชมพู่ที่ทนต่อการขนส่ง ชมพู่พันธุ์สตรอเบอรี่จะมีความแตกต่างจากชมพู่การค้าพันธุ์อื่นๆ ตรงที่ลักษณะของใบจะใหญ่มาก ชมพู่พันธุ์สตรอเบอรี่ จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการปลูกชมพู่ในอนาคตของชาวสวนผลไม้ไทย เนื่องจากเป็นชมพู่ที่มีเนื้อละเอียด เวลากัดจะไม่รู้สึกปวดฟัน เหมาะสำหรับผู้สูงอายุและวัยรุ่นที่ชอบชมพู่ที่มีสีสันสวยงาม สีแดงสด และรสชาติหวาน กรอบ จัดเป็นชมพู่ที่ติดผลดกมาก น้ำหนักผลที่ใหญ่สุดมีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 250 กรัม

4. มะม่วงพันธุ์ "งาช้างแดง" มีขนาดผลใหญ่และยาวมาก วัดความยาวผลได้ถึง 25 เซนติเมตร มีน้ำหนักผลเฉลี่ย 1.5-2 กิโลกรัม เนื้อสุกมีรสชาติหวาน หอม เนื้อหนามาก เมล็ดลีบบาง เพียง 1 เซนติเมตร เท่านั้นเอง ปัจจุบันได้มีการเผยแพร่มะม่วงพันธุ์งาช้างแดงกันอย่างแพร่หลายอาจจะทำให้มีหลายคนเกิดความสับสนทั้งรูปภาพที่นำมาเผยแพร่ ในการไปดูงานในไต้หวันในครั้งนี้ เมื่อผลสุกรสชาติหวาน หอม ไม่มีกลิ่นเหม็นขี้ไต้ ที่สำคัญปริมาณเนื้อมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ และเมล็ดลีบเล็กมาก มะม่วงพันธุ์งาช้างแดง ผลใหญ่และยาวมาก วัดความยาวผลได้ถึง 25 เซนติเมตร เนื้อสุกมีรสชาติหวานหอม เนื้อหนามาก เมล็ดลีบบางเพียง 1 เซนติเมตร เท่านั้นเอง น้ำหนักของเมล็ดไม่ถึง 100 กรัม มีเฉพาะเนื้อมากกว่า 1 กิโลกรัม

5. มะม่วงลูกผสม "ไต้หวัน T1" มะม่วงลูกผสมของไต้หวันจะเจริญเติบโตและพร้อมที่จะให้ผลผลิตผิวที่ผลจะเริ่มเปลี่ยนจากสีเขียวมาเป็นสีม่วงแดง โดยเมื่อผลมีขนาดใหญ่ขึ้น สีของผิวจะออกสีม่วงเข้มขึ้น และเมื่อผลแก่จะมีสีม่วง ทั้งผล มีน้ำหนักผลเฉลี่ย 1.5-2 กิโลกรัม จัดเป็นมะม่วงกินสุกที่รสชาติอร่อย เนื้อมีสีเหลืองละเอียดเนียน ไม่มีเสี้ยน มะม่วงพันธุ์ T1 (TAIWAN เบอร์ 1) เมื่อผลแก่และนำมาวางขายด้วยผิวผลที่มีสีม่วงเข้มจะดึงดูดผู้ซื้อได้เป็นอย่างดี และคาดว่าจะเป็นมะม่วงอีกสายพันธุ์หนึ่งที่มีชาวสวนมะม่วงไทยขยายพื้นที่ปลูกกันมากขึ้นในอนาคต และเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการบริโภคมะม่วงในประเทศไทย ที่สำคัญพบว่า มะม่วงลูกผสม T1 สามารถยืดอายุการเก็บเกี่ยวได้บนต้นนานนับเดือน ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อผลมะม่วงแก่จัดนำมาบริโภคเป็นมะม่วงกินดิบ เนื้อสีเหลือง รสชาติหวานมัน และอร่อยไม่แพ้มะม่วงพันธุ์ "แก้วขมิ้น" ของกัมพูชา

ที่มา : นิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน

อาจารย์ชลธิชา ปิยวาจานุสรณ์

สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจและวิชาชีพ

คำสำคัญ (Tags): #kmanw
หมายเลขบันทึก: 589544เขียนเมื่อ 30 เมษายน 2015 11:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 30 เมษายน 2015 11:05 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ติดต่อซื้อพันธุ์ได้ที่ใดหนอ................

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท