บันทึกความทรงจำ (๖) : การเดินทาง

ช่วงนี้อยู่ในระหว่างการปรับเวลาและเส้นทางการเดินทาง เนื่องจากต้องย้ายไปทำงานที่ศูนย์ราชการ ต้องอาศัยรถสาธารณประจำทางเป็นหลัก

สถานที่ทำงานใหม่ ปรากฏว่าสถานที่จอดรถเต็ม หากนำรถส่วนตัวไปคงไม่สะดวก อีกทั้งจะต้องติดบัตรเข้าออก นอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่าย และเสียอารมณ์ในสภาพรถติดของเมืองกรุง

จึงลองหันมาใช้รถเมล์ประจำทาง ก็ยังมีปัญหาการเดินทางอีก แม้จะพยายามออกมาแต่เช้า จะต้องมาเสียเวลาในการรอคอยเป็นเวลานาน รถแต่ละคันจะมาก็ห่างกันมาก

การที่มีนโยบานให้มีการออกรถยนต์คันแรก มีส่วนทำให้มีรถยนต์มากยิ่งขึ้น ก่อนหน้านี้ประมาณ ๓ ปีที่ผ่านมา ถนนสายที่เคยเดินทาง ไม่มีรถหนาแนนเหมือนกับปัจจุบัน

ทำให้การเดินทางเสียเวลามากยิ่งขึ้น เคยนำรถยนต์ส่วนตัวมาใช้ในการเดินทาง ต้องเสียค่าน้ำมันประมาณเดือนล่ะ ๓,๐๐๐ - ๔,๐๐๐ บาท เวลาในการเดินทาง ก็เร็วกว่ากันไม่มากนัก แต่เหนื่อยน้อยกว่าเดินทางด้วยรถเมล์เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้รถประจำทาง เพื่อเป็นการประหยัด คนส่วนใหญ่เลือกที่จะใช้รถประจำทางมากกว่า

ผู้เขียนเคยไปดูงานที่ประเทศนเธอแลนด์ ปรากฎว่าการเดินทางในตัวเมืองรถราไม่ติด ถึงติดก็น้อยมาก จำนวนรถบนถนนก็ไม่มีจำนวนมากเช่นกับของเรา ส่วนหนึ่งในตัวเมืงหลวงเอง ก็มีประชาชนจำนวนหนาแน่นไม่เท่ากับกรุงเทพฯ

ในการเดินทางของประชาชน นิยมใช้รถจักรยานกันมาก ทุกถนนจะมีเลนท์ของจักรยานทุกเส้นทาง ทำให้ประชาชนส่วนมากหันมาใช้จักรยานเป็นพาหนะกันมาก

ตามศูนย์การค้า ตามถนนต่าง ๆ มีการจัดสถานที่จอดรถจักรยานให้กับประชาชน ทำให้รถบนถนนลดลง เป็นการลดภาวะมลพิษ ประชาชนมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง คนหนุ่ม คนสาวมีร่างกายสมส่วน นอกจากนี้ยังทำให้ประชาชนมีความประหยัด ไม่ฟุ่มเฟือย มีความเป็นอยู่อย่างพอเพียง

กรุงเทพฯมีการส่งเสริมให้ประชาชนใช้รถจักรยานเช่นกัน แต่ก็เงียบไป อีกทั้งตามถนนยังไม่มีเลนท์จักรยานให้กับประชาชนอีกด้วย หากผู้นำ หรือ ผู้ที่มีชื่อเสียง เช่น เหล่า ดารา หากหันมาใช้รถจักรยานกันมากย่งขึ้นก็จะเป็นทางเลือกหนึ่ง ทำให้ลดจำนวนรถยนต์ การจราจนติดขัดก็จะลดลง

การหันมาช่วยตัวเองของประชาชน น่าจะเป็นแนวทางหนึ่ง แต่ต้องได้รับการสนับสนุนจากทางราชการด้วย โดยเฉพาะความปลอดภัย นอกจากนี้การเปลี่ยนทัศนคติของประชาชน ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่จะต้องมีการปลูกฝัง

การนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ ก็จะเป็นส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิตงของคนกรุงเทพฯ หากมีการเผยแพร่และให้ความรู้แก่ประชาชนก็จะสามารถนำมาปรับใช้ในการใช้ในชีวิตประจำวันไม่น้อย

กลุ่มที่น่าจะทำเป็นตัวอย่างมากที่สุด คือ...กลุ่มข้าราชการ หากมีผู้นำทำเป็นตัวอย่าง ก็จะมีคนทำตาม..เพราะเป็นกลุ่มที่มีระบบที่มีความเข็มแข็ง

ดังที่ภาษิตจีนพูดไว้ว่า ...อยู่บนทำเป็นตัวอย่าง อยู่ล่างก็จะทำตาม...

คงจะมีส่ววนทำให้การเดินทางของประชาชนสะดวกมากยิ่งขึ้น!!!