เช้าวันเสาร์ แม่ต้อยถือโอกาสนอนถ่วงเวลาบนเตียงอย่างสบายใจ วันนี้ขอนอนเล่นๆสักวัน ก็เป็นวันหยุดนี่นา
เสียงนกร้องจิ้บๆดังข้างหน้าต่างเมื่อแม่ต้อยปิดเครื่องปรับอากาศและเปิดหน้าต่าง ในห้องนอนออกไป
ที่บ้านของแม่ต้อยยามนี้ต้นไม้ใหญ่น้อยต่างเติบโต เบ่งบาน ดูสดชื่นดีจัง ดอกไม้ไทยหอม กรุ่นไปทั่ว
ดอกไม้สีสวยที่ชื่อว่า " คุณนายตื่นสาย" ออกดอกสะพรั่งในกระถางใบใหญ่ ช้างกระถางบัว รับแสดงแดดรำไรที่สาดส่องลงมาสีสดใสแผ่กระจายไปทั่ว
ดอกไม้ราคาไม่แพง แต่มีคุณค่าและมีความงามมากมายนัก
หากแม่ต้อยตื่นสายแบบนี้บ่อยๆ น่าจะหามาปลูกเป็นดอกไม้ประจำตัว น่าจะเข้าท่า อิอิ
วันนี้เป็นวันหยุด แต่แม่ต้อยจะต้องออกไปนอกบ้านอีกแล้ว
แม่ต้อยมีเพื่อนในยามเด็กและในยามที่ได้ทำงานแล้วหลายกลุ่ม ต่างก็มีกิจกรรมการพบปะสังสรรค์กันไปตามความชอบและโอกาส
อาทิคย์นี้เพื่อนกลุ่มใหญ่ ที่ล้วนแล้วแต่เคยทำงานมาในระดับใหญ่โต บ้างก็เป็นอธิบดี บ้างก็เป็นปลัดกระทรวง บ้างก็เป็นผู้ตรวจราชการ แถมบางคนเคยเป็นรมต. เสียด้วย
คงมีแม่ต้อยนี่แหละมัง ที่ไม่มีตำแหน่งแห่งหนอะไรเอาเสียเลย อิอิ
เพื่อนกลุ่มนี้ ที่หมดภารกิจในการทำงานแล้ว คงจะเหงา ก็เลยจัดกิจกรรมการพบปะแบบเอิกเกริกเถิดเทิงในบรรยากาศ แบบ " มนต์รักลูกทุ่ง"
นึกภาพ พี่คล้าว และน้องทองกวาว ที่มีสิริอายุเกิน ๖๐ ปีเอาเถอะนะคะ
ว่าจะเป็นอย่างไรกัน??แต่ก็นั่นแหละ คะ เอาไงก็เอากัน....
ดังนั้นวันนี้แม่ต้อยคงต้องถือโอกาสออกไปทั่ห้างสรรพสินค้าเพื่อหาเครื่องแต่งกาย ให้เข้ากับบรรยากาศสักหน่อย
ที่จริงการไปเที่ยวห้างนี่เราก้ได้เรียนรู้ หลายๆอย่าง เช่น การจัด หน้าร้านอย่างไร ให้คนอยากเข้า จะพูดจาอย่างไรให้สามารถเอาเงินจากกระเป๋าลูกค้าได้
ทุกสิ่งทุกอย่างต้องมีทั้งศาสตร์ และศิลป์
วันนี้ก็เช่นเดียวกัน แม่ต้อยเดินแวะเวียนเข้าไปในร้านต่างๆ
บางร้านตบแต่งสวยงาม แต่พนักงาน ไม่ยอมพูดคุยกับลูกค้า
ยืนพูดจากันเองอย่างออกรสออกชาดบ้างก็แต่งหน้าตา
ทาปากอยู่หน้ากระจก อิอิ
จึงเสียลูกค้าไปอย่างน่าเสียดาย
บางคน พอก้าวเท้าเข้าไปก็เชิญชวนเสียงดังมากๆๆ
" คุณป้าต้องการอะไรคะ.? จนคนอื่นหันมามองเป็นแถว
แม่ต้อยเคยทำเป็นไม่ได้ยิน พร้อมกับหมุนตัวออกไปทันที อิอิ
แก่แค่ไหน คงไม่มีใครอยากแป็นป้านะคะว่าไหม?
แม่ต้อยอดที่จะนึกถึง แนวคิดเรื่อง patient experience ที่จะนำไปให้น้องๆในรพ.ได้ถามประสบการณ์ กับคนไข้บ้าง
คงจะมีเรื่องราวมากมาย ที่เรามองไม่เห็น แต่ผู้รับบริการเห็น
ดังเช่นประสบการณ์ในห้างของแม่ต้อยนี่แหละคะ
เดินไปสักพัก แม่ต้อยก็ซื้อของได้สำเร็จ ฮ่าๆๆที่จริงระหว่างที่ซื้อสินค้าแม่ต้อยยังสังเกต บรรยากาศรอบๆตัว อีกด้วยนะ
เช่น เห็นสามีภรรยาคู่หนึ่งที่เดินไปซื้อของด้วยกันอย่างมีความสุข อายุอาจจะรุ่นราวคราวเดียวกันกับแม่ต้อยนี่แหละคะ น่ารักมากเลย (เพราะแม่ต้อยไปคนเดียว.. เศร้า )
นิสัยการซื้อของระหว่างหญิงชายก็ต่างกัน ผู้ชายเขาจะมีเป้าหมาย เดินไปซื้อแล้วเสร็จพิธี
ส่วนผู้หญิง( แบบแม่ต้อย) เราจะชอบเดินไปก่อน ดูแบบ Bird Eye Viewสักรอบ แล้วค่อยกลับมาดูใหม่ ฮ่าๆ
แล้วเราจะเลือก เพื่อเปรียบเทียบ ว่าราคา เนื้อผ้า โอกาสสวมใส่ ความทันสมัย ความเหมาะสมกัยบุคลิกภาพและอายุ
ต้องพิถีพิถันทุกขั้นตอน เห็นมั้ย??
แต่การเลือกซื้อสินค้าแบบนี้ทำให้เรามีกาสได้เห็นสิ่งอื่น ที่เราไม่ได้ตั้งใจซื้อกลับมาด้วย เพราะเกิดมีเป้าหมายใหม่ขึ้นมาเสียงั้นเอง
เช่น วันนี้แม่ต้อยแค่อยากไปดู เครื่องประดับราคาไม่แพง สีเจิดจ้า ตามสไตล์มนต์รักลุกทุ่งนั่นแหละ
แต่เมื่อเสร็จสิ้นการซื้อของปรากฏว่าได้ของกลับบ้านดังนี้
ผ้าคลุมรถ หนึ่งผืนสำหรับรถคันใหม่เพราะแมวชอบมานั่งบนหลังคา( เหตุผล ดีคะ)
ได้รองเท้ามาอีกสองคู่ อิอิ ( จำเป็นอย่างเร่งด่วน)
ได้น้ำยาถูบ้านสำหรับแม่บ้านฮ่าๆ
ส่วนเครื่องประดับที่อยากได้ .. ไม่มีคะ
แต่แม่ต้อยก็มีความสุขดี ไม่มีเสียใจ และดีใจที่ได้ออกไปเรียนรู้อย่างสบายๆในวันพักคะ
คงอยากเห็นทองกวาวแล้วสิใช่ไหม?
วันนี้สวัสดีคะ
แม่ต้อย
แม่ต้อย...ได้เรียนรู้ ...ทุกๆ ที่ .... และทุกๆๆที่มีให้แม่ต้อยได้เรียนรู้นะคะ .... คิดถึงเสมอค่ะ
สวัสดีคะ
โห คิดถึงดร เปิ้ลจังเลย
สบายดีนะ คะ ไม่ได้เจอกันนานมากแล้วคะ
รักเสมอ
แม่ต้อย