หลวงพ่อพุธ ฐานิโย.......
เช้าวันนี้มีประชุมกับทีมงานเหมือนทุกๆวันศุกร์ ก่อนเข้าเรื่องผู้เขียนก็กล่าวสวัสดีปีใหม่ไทยกับทุกๆคนและยินดีกับทุกคนที่เดินทางกลับจากต่างจังหวัดอย่างปลอดภัย
ผู้เขียนถามว่าใครรู้บ้างว่าวันนี้วันอะไร บ้างก็ตอบว่า"วันศุกร์"บ้าง"วันหลังปีใหม่ไทยบ้าง" บอกว่าถูกทุกคนแต่เป็นอีกวันหนึ่งที่ทุกคนยังไม่ตอบคือ "วันพระ" แต่ก็ไม่รู้อีกว่าข้างขึ้นหรือข้างแรม 8 ค่ำหรือ 15 ค่ำ ซึ่งผู้เขียนก็ไม่รู้เช่นเดียวกัน(เปิดปฏิทินดูถึงรู้ว่า แรม 14 ค่ำเดือน5) บ่งบอกว่าเราห่างหายไปจากพุทธศาสนาจนหลงลืมวันพระวันศีลแล้ว
ผู้เขียนบอกว่าขอให้วันนี้จงทำงานด้วยความมีสติดั่งที่พระท่านสั่งสอนไว้ว่า...จงทำความดี...ละความชั่ว...ทำจิตใจให้ผ่องใส...ก่อนจะเข้าเรื่องราวการประชุมที่เกี่ยวกับเรื่องระเบียบวินัยในการทำงาน ซึ่งผู้เขียนได้แจ้งต่อทีมงานว่ามีผู้ที่หยุดงานช่วงสงกรานต์โดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้า ทำให้ไม่ได้ค่าจ้างในวันนั้นๆ อีกทั้งเงินเบี้ยขยันเองก็จะไม่ได้ด้วยเช่นกัน ตามเงื่อนไขที่เคยแจ้งไว้เมื่อเดือนก่อน
ผู้เขียนพูดค้างไว้เมื่อประชุมคราวก่อนว่า คนไทยเรื่องวินัยหย่อนยานมาก เนื่องมาจากการปลูกฝังเรื่องวินัยไม่ค่อยมีกับเด็กๆช่วงปฐมวัย ซึ่งเป็นวัยที่ใส่อะไรเข้าไปจะจดจำได้หมด หรืออีกอย่างเพราะสังคมไทยเป็นวัฒนธรรมที่พูดกันมานานแล้วว่า...ทำได้ตามใจคือไทยแท้...พอเด็กโตมาก็ถูกกลืนเข้าสู่วัฒนธรรมของสังคม "ไทยแท้" จนไม่ใส่ใจในเรื่องวินัยกัน
นั่นเท่ากับเป็นการเพิ่มภาระกับผู้ควบคุมระเบียบวินัยอย่างหัวหน้างาน ผู้บังคับใช้กฎหมายอย่างตำรวจ ทหาร เป็นต้น ต้องเคี่ยวเข็ญอย่างหนักและได้ผลน้อยนิดด้วยเป็นไม้แก่แล้ว ย่อมดัดลำบาก
ผู้เขียนจึงย้ำว่าการหยุดงานในช่วงเทศกาลสงกรานต์มีผลต่องานอย่างมากถ้าหยุดนอกแพลนเพราะมีคนหยุดหลายคนอยู่แล้ว ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้กฏบริษัทอย่างเคร่งครัดและตรงไปตรงมากับทุกๆคนไม่มีข้อยกเว้น และขอให้ทุกคนที่พลาดเงินเบี้ยขยัน จงมุ่งมั่นทำให้ได้ต่อไปในเดือนต่อไป
..................
ย้อนกลับมาตามชื่อบันทึกที่บอกว่าวันนี้วันอะไร คำตอบมีแล้ว ผู้เขียนเลยถือโอกาสนำคำสอนของ หลวงพ่อพุธ ฐานิโย ที่โพสต์โดย Pang Anupha ในfacebook พระอรหันต์สายหลวงปู่มั่น ดังนี้
ถาม
เมื่อมีความโกรธเกิดขึ้นจะมีอุบายในการระงับความโกรธได้อย่างไร?
ตอบ
ประการแรก อดทน
อย่าให้ความโกรธมันใช้มือไปทุบคนโน้นคนนี้
อย่าให้ความโกรธใช้ปากไปด่าคนโน้นคนนี้
ใช้ความอดทนในเมื่อเรายังไม่มีอุบาย
ทีนี้อุบายถ้าเราจะใช้ก็พิจารณาถึงอกเขาอกเรา
โกรธแล้วเราไม่ฆ่า ไม่เบียดเบียน ไม่ข่มเหง ไม่รังแก
แม้ในใจมันโกรธอยู่แต่ไม่ทำสิ่งนั้นลงไป
มันก็ไม่บาปมีกรรมอะไร
ในเมื่อโกรธมันไปจนสุดฤทธิ์แล้วมันก็หมดไปเองเมื่อเรายังไม่มีอุบาย
ถ้าเรามีอุบายพิจารณาว่าความโกรธมันเป็นทุกข์อย่างนี้ๆ เราไม่ควรโกรธเลยๆ เอาแค่นี้ก็ได้
แต่ประการสำคัญที่สุดโกรธแล้วต้องระวังอดกลั้นอย่าเผลอไปทำความผิดพลาดอย่างรุนแรงขึ้นมา
เมื่อทำผิดพลาดลงไปแล้วมันจะเสียใจภายหลัง เช่น พ่อแม่โกรธลูกคว้าไม้เรียวมาเฆี่ยนมันอย่างไม่นับ จนหลังมันแตกเป็นริ้วเป็นรอยเลือดสาด
ในขณะที่เราทำอยู่นั้นเราอาจจะคิดว่าเราได้ทำอะไรสมที่โกรธแล้ว แต่เมื่อโกรธมันหายไปแล้ว อะไรมันจะเกิดขึ้นความเสียใจภายหลังเดี๋ยวก็นั่งร้องไห้กอดเขา
"เราไม่น่าทำเลย"
มีอยู่สองคำค่ะ เวลาที่คิดว่าอยากเห็นคนไทยพัฒนา่ในเรื่องอะไร
"วินัย" และ "ความรับผิดชอบต่อสังคม" ค่ะ