เรือนจำพลังงานก๊าซชีวภาพ
วินัย เจริญเฉลิมศักดิ์ นบ. นม.
บ่อก๊าซชีวภาพ (Biogas) ของเรือนจำรวันดา
ในปัจจุบันเรือนจำในประเทศต่างๆ ได้ให้ความสำคัญกับแนวคิดในการประหยัดพลังงาน การใช้พลังงานทดแทน และการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและชุมชน โดยเฉพาะการนำพลังงานก๊าซชีวภาพ (Biogas) มาใช้เป็นพลังงานทดแทน สำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิงในการปรุงอาหาร ใช้เป็นกระแสไฟฟ้าให้แสงสว่างในเรือนจำ เช่น ประเทศรวันดา เคนยา อินเดีย ฟิลิปินส์ ที่ดำเนินงานภายใต้แนวคิดการเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามา มีส่วนร่วมโดยทั้งรวันดา เคนยา อินเดีย ฟิลิปินส์ ดำเนินงานโดยได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการกาชาดสากล International Committee of the Red Cross (ICRC) สำหรับเรือนจำพลังงานก๊าซชีวภาพที่นำ มาเสนอในบทความนี้ ได้แก่ เรือนจำพลังงานก๊าซชีวภาพของประเทศรวันดา ข้อมูลจากเว็บไซต์ http ://www.icrc.org/eng/resources/documents/feature/2010/... และเว็บไซต์ http://www.rwandaenergy.com/2012/01/rwanda-prisons-save-8500000000-rfrs-annually -due-to-biogas/ ได้กล่าวถึงเรือนจำพลังงานก๊าซชีวภาพของประเทศรวันดา สรุปความได้ว่า "ของเสีย (อุจจาระ) ของนักโทษในเรือนจำประเทศรวันดากลายเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยพลังงานทันที ที่ได้ถูกดัดแปลงเป็นก๊าซชีวภาพ (Biogas) ที่ติดไฟได้หรือก๊าซมีเทนมาใช้เป็นพลังงานสำหรับ ใช้เป็นเชื้อเพลิง ในการปรุงอาหารสำหรับนักโทษ ใช้เป็นกระแสไฟฟ้าให้แสงสว่าง ในเรือนจำ 14 แห่งของประเทศ มีการใช้ก๊าซชีวภาพ ร้อยละ 75 ของความต้องการใช้พลังงานทั้งหมด สามารถลดค่าใช้จ่ายค่าพลังงานได้ถึงร้อยละ 85 คิดเป็นเงินเท่ากับ 8,500 ล้านฟรังก์รวันดา" โดยจักได้กล่าวถึง ความเป็นมา แนวคิด ลักษณะก๊าซชีวภาพ และผลการดำเนินงานโดยสังเขปตามลำดับ ดังนี้
นักโทษและเจ้าหน้าที่เรือนจำรวันดา
Ø ความเป็นมา
โครงการพลังงานก๊าซชีวภาพของประเทศรวันดา เป็นโครงการพลังงานทางเลือกที่สามารถช่วยลดการใช้ฟืนและรักษาไว้ซึ่งป่าไม้ของประเทศ เริ่มดำเนินงานในปี 2005 โดยคณะกรรมการกาชาดสากล (ICRC) ร่วมมือกับสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและการจัดการคิกาลี (KIST) กระทรวงมหาดไทยและเรือนจำแห่งชาติรวันดา ถึงปัจจุบัน (ปี 2011) การก่อสร้างระบบการผลิตก๊าซชีวภาพในเรือนจำแห่งชาติ ของประเทศเสร็จเรียบร้อยแล้วทั้ง 14 เรือนจำ
บ่อก๊าซชีวภาพ (Biogas) ของเรือนจำรวันดา
Ø แนวคิดในการดำเนินงาน
การดำเนินงานติดตั้งระบบก๊าซชีวภาพของเรือนจำในประเทศรวันดา ดำเนินงานภายใต้แนวคิดในการประหยัดพลังงาน การใช้พลังงานทดแทน การคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและชุมชน และแนวคิด ในการเปิดโอกาสให้ภาคเอกชน (คณะกรรมการกาชาดสากล) เข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุน การให้ความรู้ ทักษะ ความเชี่ยวชาญ ในการติดตั้ง การบำรุงรักษา และการใช้งานก๊าซชีวภาพแก่หน่วยงานและนักโทษ ในเรือนจำรวันดา
Ø ลักษณะของก๊าซชีวภาพ
ก๊าซชีวภาพ เป็นระบบที่ใช้แบคทีเรียสลายสารอินทรีย์ เช่น มูลสัตว์ ของเสีย (อุจจาระ) หรือเศษอาหารของมนุษย์ ในการผลิตก๊าซชีวภาพซึ่งเป็นส่วนผสมของก๊าซมีเทน คาร์บอนไดออกไซด์ และ สารตกค้างกึ่งของแข็ง ก๊าซชีวภาพสามารถใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับการปรุงอาหาร แสงสว่างหรือการผลิตกระแสไฟฟ้า การใช้ก๊าซชีวภาพสามารถประหยัดแรงงานในการจัดหาไม้ฟืนสำหรับการปรุงอาหาร ลดควัน ที่เป็นอันตรายในเรือนจำ ลดการตัดไม้ทำลายป่า และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก นอกจากนั้นการติดตั้งโรงงานก๊าซชีวภาพ ยังมีส่วนช่วยให้สามารถปรับปรุงระบบการสุขาภิบาลให้สะมีความสะอาดเพิ่มขึ้น ส่วนที่เหลือจะใช้ประโยชน์ในการทำปุ๋ยที่ปราศจากกลิ่นสำหรับสวนในเรือนจำ
โครงสร้างระบบบ่อก๊าซชีวภาพ (Biogas) ของเรือนจำรวันดา
สารอินทรีย์จากของเสียของผู้ต้องขังเรือนจำรวันดา
สารอินทรีย์มูลวัวสำหรับใช้ในการผลิตก๊าซชีวภาพจากฟาร์มเรือนจำรวันดา
Ø ผลการดำเนินงาน
การดำเนินงานติดตั้งระบบระบบก๊าซชีวภาพของเรือนจำแห่งชาติ 14 แห่ง ในประเทศรวันดาเริ่มต้นในปี 2005 แล้วเสร็จในปี 2011 สามารถใช้พลังงานเชื้อเพลิงในการปรุงอาหาร ใช้เป็นกระแสไฟฟ้า ให้แสงสว่างในเรือนจำ ช่วยให้พื้นที่ในเรือนจำมีความสะอาดเพิ่มขึ้น กลิ่นหายไป แมลงวันลดน้อยลง สามารถ ลดปริมาณการใช้ไม้ฟืนที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม ลดการทำลายป่าไม้ ทำให้นักโทษประมาณ 68,000 คน มีสภาพความเป็นอยู่ สุขอนามัย และสุขภาพดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนั้นเรือนจำพลังงานก๊าซชีวภาพ ของรวันดายังได้รับรางวัล Ashdenพร้อมเงินรางวัลมูลค่าประมาณ 50,000 ดอลล่าร์ เป็นรางวัลสำหรับ การใช้พลังงานที่ยั่งยืนมอบโดยองค์กรการกุศลส่งเสริมเทคโนโลยีสีเขียวของประเทศอังกฤษ และยังได้ชื่อว่าเป็นเรือนจำระบบก๊าซชีวภาพที่ใหญ่ที่สุดในโลก
การหุงต้มอาหารนักโทษโดยใช้ไม้ฟืนในเรือนจำรวันดา ก่อนปี 2013
การใช้ก๊าซชีวภาพเป็นเชื้อเพลิงในการปรุงอาหารสำหรับนักโทษ
โดยสรุป การผลิตพลังงานก๊าซชีวภาพ (Biogas) ในเรือนจำประเทศรวันดาเป็นการดำเนินงานโดยความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับคณะกรรมการกาชาดสากล โดยใช้สารอินทรีย์จากของเสีย (อุจจาระ) ของนักโทษ ประมาณ 68,000 คน เป็นส่วนใหญ่ (บางส่วนใช้สารอินทรีย์จากมูลวัวจากฟาร์ม ของเรือนจำ) สามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานก๊าซชีวภาพ (Biogas) มาใช้เป็นพลังงานเชื้อเพลิงในการปรุงอาหารสำหรับนักโทษ ใช้เป็นกระแสไฟฟ้าให้แสงสว่าง ในเรือนจำของประเทศร้อยละ 75 ของความต้องการ ใช้พลังงานทั้งหมด สามารถลดค่าใช้จ่ายค่าพลังงานได้ถึงร้อยละ 85 คิดเป็นเงินเท่ากับ 850,000,000 ฟรังก์รวันดาต่อปี หรือคิดเป็นเงินไทยได้ประมาณ 39,012,078 บาท เมื่อลองคิดเปรียบเทียบกับกรณีของประเทศไทยที่มีนักโทษสูงถึง 268,095 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 2 พฤษภาคม 2556) ถ้าเราจะผลิตพลังงานก๊าซชีวภาพ จากของเสีย (อุจจาระ) ของนักโทษก็จะสามารถผลิตพลังงานก๊าซชีวภาพได้มากกว่าประเทศรวันดา ประมาณ 4 เท่า หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 160,000,000 บาท นั่น ก็หมายความว่าประเทศไทย เราจะสามารถประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงในการปรุงอาหารสำหรับนักโทษ และพลังงานที่ใช้เป็นกระแสไฟฟ้า ให้แสงสว่างในเรือนจำของประเทศไทยได้ถึงปีละประมาณ 160,000,000 บาท จึงนับเป็นนวัตกรรม ในการประหยัดพลังงานและคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและชุมชนที่น่าสนใจอีกนวัตกรรมหนึ่ง
...........................
หมายเหตุ บทความเรื่องนี้ได้มีการพิมพ์เผยแพร่ในวารสารราชทัณฑ์ ฉบับที่ 3 ปีที่ 61 พ.ศ. 2556 หน้า 60 - 65 อีกช่องทางหนึ่งด้วยแล้ว
ของเรามีมั๊ยคะ
มีบ้างในเรือนจำนำร่องใช้เศษอาหาร 5 แห่ง และที่เรือนจำอื่นๆก็มีบ้าง แต่ยังไม่มีชื่อเสียงเหมือนของต่างประเทศครับ