สำหรับขอบคุณเด็กๆ ในกิจกรรมชุมนุมอนุรักษ์พืชสมุนไพรในท้องถิ่นภาคใต้ที่ร่วมแสดงผลงานอย่างตั้งใจตามศักยภาพของเด็กๆ ครูนกถือว่างดงามเลยจัดกิจกรรมปั่นน้ำผลไม้ โดยครูเตรียมอุปกรณ์ให้ทุกอย่าง นักเรียนเพียงแค่ลงมือทำ ทั้งนี้ครูนกต้องการทดสอบเครื่องมือใหม่ที่ได้เขียนของบประมาณจัดซื้อจากทางโรงเรียนคือ เตาไฟฟ้า กับ เครื่องปั่นน้ำผลไม้
สิ่งที่ครูนกเตรียมคือ มะเขือเทศ องุ่น น้ำตาล เกลือ และแก้วกระดาษ
ทั้งนี้มอบหมายให้เด็กๆ แบ่งกันเป็นสองกลุ่มคือ กลุ่มเตรียมผลไม้ และกลุ่มเตรียมน้ำหวาน
กลุ่มเตรียมผลไม้ สนุกสนานกับการหั่น แต่จะมีปัญหามาทางครูเป็นระยะว่า องุ่นต้องหั่นหรือเปล่าครับ ครูนกให้เด็กตัดสินใจเอง สรุปเด็กเลือกผ่าซีกนำเมล็ดออก
กลุ่มเตรียมน้ำหวาน ก็ถกเถียงกันเล็กน้อยว่าจะคนหรือไม่คนดี สรุปก็คนบ้างไม่คนบ้าง
เมื่อทั้งสองกลุ่มพร้อมกลุ่มที่สามจัดการหาสูตรในการผสมน้ำหวาน ผลไม้ เกลือ และนมสด แต่ปรากฏว่าทุกคนไม่กล้าจะปั่น ครูนกเลยอาสาปั่นให้ด้วยเด็กๆ จะกังวลเรื่องการจับเครื่องปั่น
สูตรแรกคือ องุ่นสองช้อน น้ำหวานสองช้อน น้ำแข็ง สองช้อน ใส่เกลืออีกเล็กน้อย พร้อมเติมน้ำต้มสุกหนึ่งส่วน
ผลงานการผสมเด็กๆ บอกว่า อร่อยกำลังดี การปั่นรอบสองได้ทดลองใส่นมสดลงไปเล็กน้อย เด็กๆ บอกว่า อร่อยไปอีกแบบ
แต่เมื่อหมดองุ่นเข้าสู่รอบมะเขือเทศ พบว่า ความนิยมของเด็กๆ ลดลงอย่างชัดเจน หลายคนบอกว่า ไม่ทานมะเขือเทศ ครูนกบอกว่า ลองดูพันธุ์ที่ใช้นี้จะเปรี้ยวนะ
ปั่นรอบนี้เป็นที่ถูกใจของประธานชุมนุมซึ่งเติมหลายรอบมากๆ
คงเป็นกิจกรรมสุดท้ายสำหรับภาคเรียนที่ ๒ ที่จะได้ทำอะไรแบบลงมือปฏิบัติ เรียนรู้จากของจริง พร้อมกันทุกคนต้องร่วมด้วยช่วยกันตั้งแต่ลงมือทำ เก็บล้างและช่วยครูเก็บอุปกรณ์
ขอบคุณเด็กๆ ที่ตั้้งใจอย่างดีทุกกิจกรรม แม้ต้องตักเตือนบ้างแต่ก็ด้วยความเป็นเด็กที่ยังอยากเล่นมากกว่าอื่นใด ปีการศึกษานี้ไม่ได้มุ่งเน้นพืชสมุนไพรที่ใช้ทางยาด้วยเด็กๆ ที่มาอยู่ชุมนุมยังต้องการทักษะอื่นๆ ตลอดจนฝึกทักษะการทำงานร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ และฝึกให้คิดอย่างสร้างสรรค์เป็นระบบ ก็ต้องจัดไปแบบยึดนักเรียนเป็นสำคัญ
ดูท่าดื่มของเด็กๆแล้ว
ดูน่าสนุกครับพี่ครูนก
เยี่ยมมากๆ
อยากลองชิมบ้างจังคงทั้งหอม ทั้งหวาน ช่วยให้สดชื่นแน่ๆ
เด็กๆสนุกมีความสุขกับการเรียนรู้นะคะ...
เป็นกิจกรรมที่ดีมากเลยครับ ปกติเด็กๆไม่ชอบทานผลไม้กัน แต่พอลงมือทำเองย่อมภูมิใจและหันมาทานมาดื่มได้ครับ