หากนึกถึงตะโหมด เรามักจะนึกถึง “สภาลานวัดตะโหมด” ซึ่งเป็นที่เลื่องชื่อต้นแบบของการบูรณาการในการพัฒนาชุมชน ที่นี่มีผลผลิตของชุมชนที่เป็นเครือข่ายนักพัฒนาท้องถิ่นมากมาย ที่ได้ร่วมงานกันในโครงการส่งเสริมนวัตกรรมบริการปฐมภูมิก็หลายคน (เมื่อการพิจารณาโครงการเสร็จสิ้นลงแล้วจะได้เล่าต่อในประเด็นดังกล่าว) ที่ตะโหมดยังมีอีกหลายเรื่องที่น่าศึกษาเรียนรู้ วันนี้นับเป็นโอกาสดีมาก ๆ ที่ตาสว่างไปพบไปเจอพันธมิตรที่มุ่งมั่นจริงจัง ไม่คับแคบขีดวงไว้เพียงจำกัด เป็นเยาวชนที่เดินเกินกรอบเพื่อหาความเป็นอิสระให้แก่ตน
อย่างหนึ่งที่ผมสนใจใครรู้มานานมากตั้งแต่เมื่อคราวไปอยู่ที่ป่าบอน ซึ่งเป็นอำเภอใกล้ ๆ กันกับตะโหมด คือการทำบุญ 2 ศาสนาพร้อม ๆ กัน ในสถานที่เดียวกัน ช่วงเดือนเมษายน ของทุกปี ณ หมุ่ที่บ้าน ตำบลตะโหมด อำเภอตะโหมด เป็นการทำบุญของไทยพุทธ และไทยมุสลิม โดยไม่มีกรอบทางประเพณีและศาสนามากั้นขวาง ซึ่งท่านก็ดูจากรูปที่ถ่ายไว้ได้ หลายวันที่ผ่านมาผมพูดเรื่องนี้ซ้ำ ๆ กันในหลายที่ ต่างเวลา ต่างวาระกัน จนน้องหมออนามัย (น้องชื่อ) ห่วงใยกันเสมอได้นำเอกสารจากสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพัทลุงมาให้ จึงได้ทราบรายละเอียดเพิ่มขึ้น และมีภาพประกอบด้วย
ในแต่ละปีซึ่งสืบทอดกันมาช้านานแล้ว นอกจากจะมีการทำบุญร่วมกันแล้ว ก็จะมีการเสวนาของผู้นำศาสนา และผู้นำชุมชน การแสดงของยุวชน นิทรรศการ และการพัฒนาฌาปสถานร่วมกันด้วย (ไทยพุทธเรียกว่า “เปลว” ส่วนไทยมุสลิมจะเรียกว่า “กุโบ” ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กัน) อยากแลกเปลี่ยนกับที่อื่น ๆ ว่ามีที่ไหนอีกบ้างที่มีกิจกรรมประเพณีอย่างนี้บ้าง
คุณ nutim ครับ
ตอนนั้นผมเอาไม่ทันครับ เขียนไว้แต่ไม่ได้ตีพิมพ์ แล้วจะตามหลังมาเป็นระยะครับ เพราะตอนนี้ทั้งระบบของ GotoKnow ก็เร็วดีจริง ๆ ฝากขอบคุณทีมงานชาวปฐมภูมิ และเวชศาสตร์ครอบครัวที่ติดตามอยู่ด้วยนะครับ
ผมมองว่านี่เป็นตัวอย่างหนึ่งของเยื่อบาง ๆ ที่กั้นขวางความเป็นอิสระ ซึ่งที่ ม.3 ต.ตะโหมด เขาไม่มีกัน ยังมีเยื่อบาง ๆ ที่ว่าอีกเยอะครับ เช่น ระดับการศึกษา เพศ สถานภาพทางสังคม ความรู้ ความคิด หรือแม้แต่จิตใจที่คับแคบของตนเอง ... ไม่รู้เราจะสร้างเยื่อบาง ๆ ที่มาขวางกันอิสระแก่กันไปทำไมเยอะ ๆ นะครับ
ท่านอาจารย์หมอประเวศ บอกว่า หากมนุษย์ไร้ซึ่งอิสระภาพที่แท้จริง มนุษย์ก็จะไม่สามารถดึงศักยภาพออกมาใช้ได้ทั้งหมด และตอนนั้นเราก็จะยังไม่ถึงคำว่า มนุษย์ที่สมบูรณ์ ไปได้ครับ
มาเยี่ยม คุณ