Haruki Murakami : ศาสดาเบสต์เซลเลอร์
-ครูพีร์-
"ไม่เคยคิดทะเยอทะยานเป็นนักเขียน มีแต่แรงบันดาลใจอย่างรุนแรงที่จะเขียนนวนิยายเท่านั้น"
หนึ่งในวรรคทองแห่งความมุ่งหวังและ แรงบันดาลใจของนักเขียนผู้ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าพ่อแห่งการเขียนในยุคปัจจุบัน อย่าง ฮารูกิ มูราคามิ ในหนังสือ "MARAKAMI ศาสดาเบสต์เซลเลอร์" ซึ่งเป็นหนังสือรวบรวมผลงานของมูราคามิ นักเขียนชาวญี่ปุ่นผู้โด่งดัง โดย 'ปราย พันแสง (นักเขียนไทยอีกคนหนึ่งที่-ครูพีร์-ชื่นชอบผลงาน)
ว่ากัน...มูราคามิ เริ่มต้นงานเขียนของเขาอย่างจริงจัง เมื่ออายุ 29 ปี ขณะนั่งดูรายการแข่งขันเบสบอลรายการหนึ่งแล้วเกิดอารมณ์อยากจะเขียนหนังสือและลงมือเริ่มต้นเขียนหนังสือ..ซะอย่างนั้น..หลังจากใช้เวลาอยู่สองสามเดือนมูราคามิก็สามารถผลิตผลงานชิ้นแรกของตัวเองออกมาได้ (Hear_the_Wind_Sing:1979) และ ซึ่งเขาได้ส่งผลงานดังกล่าวเข้าประกวดและประสบความสำเร็จได้รางวัลที่หนึ่งของการประกวดดังกล่าว..ความสำเร็จดังกล่าวผลักดันให้มูราคามิเขียนงานต่อเนื่อง สม่ำเสมอ จนมีผลงานมากมาย และได้รับการแปลเป็นภาษาต่างๆ รวมทั้งภาษไทยด้วย
...จากผลงานเขียนดังกล่าวทำให้ มูราคามิ ได้รับรางวัลต่างๆอาทิ Franz Kafka Prize และ Jerusalem Prize รวมถึงได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลโนเบลด้วย
...อย่าไรก็ตาม สำหรับครูพีร์แล้วความน่าสนใจของมูราคามิไม่ได้อยู่มีความเป็นนักเขียนที่โด่งดังหรือมีผลงานได้รับการยอมรับมากมายจากคนทั้งหลายบนโลกใบนี้ แต่มูราคามิ มีแง่มุมที่น่าสนใจตรงที่การใช้ชีวิตเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ ความมุ่งมั่น ความฝัน ที่จะเป็นนักเขียนและใช้ชีวิตเยี่ยงนักเขียนผู้ประสบความสำเร็จทั้งหลายนั้นคือ มีชีวิตอยู่กับการอ่านและการเขีย มีวินัยในตนเองอย่างเคร่งครัด และเอาใจใส่รักษาสุขภาพ
….ว่ากันว่ามูราคามิอ่านหนังสือมากมาย ขณะเดียวกันก็แปลผลงานที่ตนเองชื่นชอบด้วยสไตล์ของตัวเองโดยเฉพาะผลงานของนักเขียนตะวันตก มูราคามิกล่าวถึงกิจกรรมดังกล่าว่าเป็นการอ่านเพื่อศึกษา เรียน รู้โดยเฉพาะวิธีการเขียน สไตล์ รูปแบบ เพื่อนำมาใช้ ปรับประยุกต์ หลอมรวมเข้ากับกิจกรรมการเขียนของตนเอง นอกจากการอ่านแล้วมูราคามิยังควบคุมวินัย และเวลาในการเขียนหนังสือสำหรับตัวเองอย่างเคร่งครัด โดยใช้เวลาแต่ละวันกับกิจกรรมการออกกำลังกายด้วยการวิ่ง(วิ่ง วิ่ง วิ่ง..จนเขียนเป็นหนังสือได้เล่มหนึ่งที่แปลเป็นไทยโดยนพดล เวชสวัสดิ์ที่ใช้ชื่อว่า "เกร็ดความคิดบนก้าววิ่ง" ) ต่อด้วยอ่านและเขียนหนังสือทั้งวัน วันแล้ววันเล่า เป็นสัปดาห์ เป็นเดือน เป็นปี เป็นฮารูกิ มูราคามิ..
...จะว่าไปแล้ววิถีชีวิตมูราคามิ ทำให้นึกถึงนักเขียนไทยคนหนึ่งที่มีวิถีเยี่ยงนักเขียมไม่ใช่เพราะเขียนหนังสือ แต่เพราะงานเขียนคือชีวิต คือวิถีของเขา...วันหน้าค่อยว่ากันถึงวิถีชีวิตของนักเขียนไทยคนดังกล่าบ..เดือนจะครอบรอบ 9 เก้าปีของการลาจากโลกนี้ไปของนักเขียนหนุ่มตลอดกาลครับ…..
ที่มาภาพ :http://www.freeformbooks.com/home/index.php?page=s...
ขอบคุณครับ คุณเพชรน้ำหนึ่ง
ขอให้มีความสุขตลอดทั้งปีนะครับ