เรื่อง ชื่อ แนวทางพัฒนาคุณธรรม และจริยธรรมทางการเมืองของนักการเมืองส่วนท้องถิ่น อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา
ชื่อ ภาษาอังกฤษ The Moral and Political Ethics of Local Politicians Muang District Phayao Province
ผู้วิจัย ผศ.คนอง วังฝายแก้ว
หน่วยงาน มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตพะเยา
พฤติกรรมเป็นการแสดงออกของบุคคล ทั้งส่วนที่เป็นพฤติกรรมภายใน และพฤติกรรมภายนอก มนุษย์และสิ่งมีชีวิตทั้งหลายจึงมีการแสดงพฤติกรรมได้อย่างหลากหลาย ขึ้นอยู่กับปัจจัยทั้งภายในคือจิตใจ และปัจจัยภายนอก คือสภาพแวดล้อมหรือสถานการณ์ต่าง ๆ ที่มีผลต่อการแสดงพฤติกรรม ในส่วนของพฤติกรรม ที่เกี่ยวกับการเมือง เป็นพฤติกรรมที่ส่งผลต่อระบบการเมืองการปกครองส่งผลต่อการพัฒนาประเทศ พฤติกรรมที่แสดงออกด้านคุณธรรมและจริยธรรมของนักการเมือง จึงเป็นเรื่องที่จะต้องให้ความสำคัญและควรศึกษา เพื่อนำผลการศึกษาเหล่านั้นมาพัฒนาประเทศดังกล่าว เช่น จากการศึกษาพฤติกรรมทางการเมืองของ ฐิตินันท์ เวตติวงศ์ (2531: 66-67) ได้กล่าวว่า "พฤติกรรมและกระบวนการหาเสียงของผู้สมัครรับเลือกตั้ง และพฤติกรรมในการลงคะแนนเสียงของประชาชนในปัจจุบันเป็นภาพสะท้อนของปัญหาสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองของไทยที่ได้สะสมติดต่อกันเป็นเวลานานการซื้อ-ขายเสียงและระบบหัวคะแนน เป็นเพียงปัญหารูปธรรมที่ปรากฏให้เห็นอย่างเด่นชัด และมีผลกระทบต่อการปกครองและการบริหารประเทศอย่างชัดเจน"
จากพฤติกรรมทางการเมืองดังกล่าวหากวิเคราะห์ให้ลึกลงไปจะพบว่าเป็นพฤติกรรมที่เกิดจากตัวบุคคลเป็นสำคัญ ทั้งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ทั้งผู้มีสิทธิในการเลือกตั้ง จึงส่งผลกระทบต่อการเมืองการปกครองโดยตรง และพฤติกรรมดังกล่าวเป็นผลมาจากการขาดคุณธรรมและจริยธรรมทางการเมือง
ในสังคมไทยได้มีการสอนคุณธรรมและจริยธรรมทางการเมืองให้กับนักการปกครองและนักบริหารมาตั้งแต่สมัยโบราณเริ่มตั้งแต่สถาบันพระมหากษัตริย์มาจนถึงสถาบันการปกครอง สถาบันการศึกษา ตลอดจนสถาบันครอบครัว โดยกำหนดให้เป็นราชธรรม การเทศนา การ อบรมสั่งสอนและการฝึกอบรม
จากเหตุผลดั่งกล่าวจะเห็นว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของประเทศไทยในปัจจุบันนี้ เทศบาลเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบหนึ่ง ซึ่งมีฐานะเป็นตัวแทนของรัฐบาล และ
กระทรวงมหาดไทยที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่งต่อการให้บริการสาธารณะ เพื่อแก้ไขปัญหาและตอบสนองความต้องการแก่ประชาชนในท้องถิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ๗๐ กว่าปี เทศบาลเป็นองค์กรที่มีบทบาทอย่างยิ่งในการบำบัดทุกข์บำรุงสุข และสร้างความเจริญต่าง ๆ ให้แก่ประชาชนในเขตชุมชนเมือง ซึ่งถือว่าเป็นกระบวนการพื้นฐานของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ที่ประชาชนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมและพัฒนาได้ด้วยตนเอง เพื่อตระหนักถึงบทบาท และความสำคัญของการปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบเทศบาล กระทรวงมหาดไทยจึงได้มีประกาศลงวันที่ ๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๓๒ กำหนดให้วันที่ ๒๔ เมษายนของทุกปีเป็น "วันเทศบาล" และได้แจ้งให้เทศบาลทั่วประเทศ เทศบาลเมืองพัทยา และกรุงเทพมหานคร ได้จัดกิจกรรมเนื่องในวันเทศบาลเป็นประจำทุกปี เช่น การทำบุญตักบาตร การรณรงค์ร่วมกับประชาชนในท้องถิ่น การจัดหน่วยบริการประชาชนเคลี่อนที่เป็นพิเศษ การจัดนิทรรศการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับบาทบาท และภารกิจของเทศบาลให้ประชาชนได้รับทราบโดยทั่วถึงกัน ในปีที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยโดยกรมการปกครอง ได้ร่วมกับสมาคมสันติบาลแห่งประเทศไทย (ส.ท.ท.) ได้จัดให้มีโครงการวันเทศบาลขึ้นเพื่อเชิดชูความสำคัญของการปกครองท้องถิ่นในรูปแบบเทศบาล ให้ปรากฏแก่ประชาชนโดยทั่วกัน โดยมีกิจกรรมพิเศษ เช่น ทำบุญตักบาตร กิจกรรมการแข่งขันกีฬา และจัดบอร์ดแสดงผลงาน
การวิจัยครั้งนี้ เป็นการศึกษาเพื่อแสวงหาความรู้ความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับคุณธรรมและหน้าจริยธรรมของสมาชิกเทศบาลตำบลในเขตพื้นที่อำเภอเมือง ศึกษาเฉพาะแนวทางพัฒนาคุณธรรมและจริยธรรมของสมาชิกสภาเทศบาลตำบลในเขตพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดพะเยาว่ามีแนวทางพัฒนาคุณธรรมและจริยธรรมของสมาชิกเทศบาลตำบลอย่างไร
ด้วยเหตุนี้ทางผู้วิจัยจึงมองเห็นว่าสมาชิกสภาเป็นผู้มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาตำบลเป็นอย่างมาก และเพื่อให้ประชาชนได้รู้จักและมีความรู้เกี่ยวกับตัวผู้ที่จะลงสมัครเข้ามาเป็นตัวแทนของประชาชน หรือสมาชิกสภาเทศบาล ว่าบุคคลที่จะสมัครเป็นตัวแทนของตนมีพฤติกรรมเป็นอย่างไรหรือมีฐานะอย่างไร เช่นฐานะทางการศึกษา ฐานะทางสังคม ฐานะทางเศรษฐกิจ และฐานะทางครอบครัว ข้อมูลเหล่านี้ จะเป็นผลดีที่จะนำมาซึ่งการตัดสินใจเลือกตัวผู้ที่จะสมัครเป็นตัวแทนหรือสมาชิกสภาเทศบาลในโอกาสครั้งต่อไปเพื่อเข้ามาบริหารบ้านเมืองของตัวเอง ในที่สุดก็จะได้ผู้เข้ามาบริหารที่มีคุณธรรม จริยธรรม และมีคุณภาพ จะส่งผลต่อการพัฒนาท้องถิ่นของตัวเองอย่างมีประสิทธิภาพ และนำความเจริญมาสู่เทศบาลตำบลในที่สุด
3.ขอบเขตของการศึกษา
3.1 ขอบเขตด้านประชากร นายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาลตำบลในเขตพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา จำนวน 127 คน
3.2 ขอบเขตในด้านเวลา เดือน พฤศจิกายน 2557 – ตุลาคม 2558
4.1 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ เก็บรวบรวมข้อมูลจากแบบสอบถามและนำแบบสอบถามมาวิเคราะห์ทางสถิติ
5.1แนวคิดทฤษฎีเกี่ยวกับแนวทางพัฒนา
5.2 แนวคิดทฤษฎีเกี่ยวกับคุณธรรมและจริยธรรมทางการเมือง
5.3 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
6. วิธีดำเนินการวิจัย
การวิจัยเรื่อง แนวทางพัฒนาคุณธรรม และจริยธรรมทางการเมืองของนักการเมืองส่วนท้องถิ่น อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา คณะผู้วิจัยได้กำหนดวิธีดำเนินการวิจัยดังนี้
1. ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
1.1 ประชากร แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้คือ
กลุ่มที่ 1 ได้แก่ นายกเทศมนตรีตำบลในเขตพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา 9 คน
กลุ่มที่ 2 ได้แก่ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลในเขตพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา จำนวน 118 คน รวม 127 คน
7.1 แนวทางพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม หมายถึง แนวทางพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมทางการเมือง ของนักการเมืองท้องถิ่น โดยการควบคุมพฤติกรรม การสร้างจิตสำนึก และการสร้างองค์ความรู้
7.2 คุณธรรมและจริยธรรมทางการเมือง หมายถึง บุคคลผู้มีพฤติกรรมทางการเมืองที่ดีจะต้องประกอบไปด้วยคุณธรรมและจริยธรรม ในลักษณะ 7 ประการ ได้แก่ การไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน (Selflessness) ความซื่อตรง (Integrity) การไม่มีอคติ (Objectivity) การมีสำนึกรับผิดชอบต่อผลการปฏิบัติตามหน้าที่ (Accountability) ความเปิดเผยและจริงใจ (Openness) ความซื่อสัตย์ (Honesty) และความเป็นผู้นำ (Leadership)
7.3 นักการเมืองส่วนท้องถิ่น หมายถึง สมาชิกสภาเทศบาลตำบลในเขตพื้นที่ อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา จำนวน 9 เทศบาลตำบล
8. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
8.1 ได้ทราบถึงแนวทางพัฒนาคุณธรรมและจริยธรรมทางการเมือง ของนักการเมืองส่วนท้องถิ่นในเขตพื้นที่ อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา
8.2 ได้เป็นข้อมูลอ้างอิงเพื่อหาแนวทางพัฒนาระบบการปกครองส่วนท้องถิ่นให้ได้นักการเมืองส่วนท้องถิ่นที่พึงประสงค์
9. กรอบแนวคิด
ตัวแปรต้น ตัวแปรตาม
10. งบประมาณของโครงการวิจัย 58
จำนวนเงิน |
|
ก. หมวดค่าจ้างชั่วคราว |
|
1. ผู้วิจัยหลัก/หัวหน้าโครงการ |
20,000 |
2. ลงพื้นที่วิจัย 2 ครั้งๆ ละ 5,000 จำนวน 1 คน (1X5,000X2) |
10,000 |
รวม |
30,000 |
ข. หมวดค่าใช้สอย |
|
ข.1 ค่าดำเนินการ |
8,000 |
- ค่าอาหารและเครื่องดื่มคณะวิจัยในการทำงานล่วงเวลา |
5,000 |
- ค่าประชุมคณะวิจัยและที่ปรึกษาเหมาจ่าย |
5,000 |
- ค่าประสานงานโครงการ |
2,000 |
- ค่าพิมพ์เอกสารงานวิจัย |
8,000 |
- ค่าจัดทำเอกสารและถ่ายเอกสารเครื่องมือเก็บข้อมูล |
8,000 |
- ค่าวิเคราะห์/สังเคราะห์ข้อมูล |
2,000 |
- ค่าจัดทำรายงานความก้าวหน้า 5 เล่ม / แผ่นดิสก์ / CD |
5,000 |
- ค่าจัดทำรายงานฉบับร่าง 7 เล่ม / แผ่นดิสก์ / CD |
5,000 |
- ค่าจัดทำรายงานฉบับสมบูรณ์ 10 เล่ม / แผ่นดิสก์ / CD |
2,000 |
รวม |
50,000 |
ค.หมวดค่าวัสดุ- ค่ากระดาษ/ค่าหมึกคอมพิวเตอร์ |
10,000 |
- ค่าวัสดุที่จำเป็นในการวิจัย |
10,000 |
รวม |
20,000 |
รวมสุทธิ |
100,000 |
รวมงบประมาณที่เสนอขอ |
100,000 |
(หนึ่งแสนบาทถ้วน)
ประวัติหัวหน้าโครงการวิจัย
1. ชื่อ (ภาษาไทย) : คนอง วังฝายแก้ว
(ภาษาอังกฤษ) : KANONG WANGPHAIKAEW
2. รหัสประจำตัว : 00001848
3. ตำแหน่ง : ผู้ช่วยศาสตราจารย์
4. สังกัด : สาขาวิชารัฐศาสตร์ วิทยาลัยสงฆ์พะเยา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตพะเยา 56000 โทร.(054) 481098 โทรสาร. 482876,431002
5. ประวัติการศึกษา
5.1 พ.ศ. 2523 เปรียญธรรม 4 ประโยค
5.2 พ.ศ. 2532 ปริญญาตรี พุทธศาสตรบัณฑิต (สังคมวิทยา)
5.3 พ.ศ. 2543 ปริญญาโท การศึกษามหาบัณฑิต (การบริหารการศึกษา)
มหาวิทยาลัยนเรศวร
6. สาขาวิชาที่มีความชำนาญพิเศษ
6.1 สาขาวิชาพระพุทธศาสนา
6.2สาขาภาษาบาลี
6.3ภาษาล้านนา
7. ประสบการณ์
7.1 งานวิจัยที่ทำเสร็จแล้ว
7.1.1 ผู้ช่วยนักวิจัย เรื่อง การศึกษาวิเคราะห์เอกสารโบราณเมืองพะเยา : ศึกษาเฉพาะกรณีเอกสารบันทึกโบราณเกี่ยวกับพระครูศรีวิราชวชิรปัญญา (2543)
7.1.2 นักวิจัย เรื่อง ปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการบริหารงานวิชาการ ตามทัศนะของบุคลากรมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตภาคเหนือ (2544)
7.1.3 นักวิจัย เรื่อง การศึกษาสภาพการดำเนินงาน โครงการหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพครู มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาาลัย วิทยาเขตพะเยา (2544)
7.1.4 นักวิจัยชุดโครงการวิจัย เรื่อง การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
วิชาพระพุทธศาสนา สำหรับชั้นมัธยมศึกษา (2545-2546)
7.2 งานประเมิน
ดำเนินการประเมินความพึงพอใจของผู้รับบริการ ขององค์การบริหารส่วนตำบลมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ พ.ศ. 2549-2555 และในปี พ.ศ. 2555 เป็นคณะผู้ร่วมประเมิน โดยได้ดำเนินการประเมินองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น จังหวัดพะเยา จำนวน 15 หน่วยงาน
ไม่มีความเห็น