ค่ายร่วมอาสาพัฒนา มข.-มช. ครั้งที่ 23 (4)

ค่าย มข.-มช. ครั้งที่ 23 (4)
วันนี้ชาวค่ายก็ทำงานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเช่นเคย และต้องช่วยกันเร่งโครงงานโยธาก่อสร้างมากกว่างานอื่น อาคารหอประชุมเป็นรูปเป็นร่าง สนามเปตองถมเทดิน ส่วนหนึ่งไปเรียนรู้ชุมชนโดยไปเยี่ยมชมศูนย์การจัดการหลังการเก็บเกี่ยวของกลุ่มเกษตรกรที่รวมกลุ่มภายใต้โครงการพระราชดำริในรูปแบบสหกรณ์ โรงเรือนปอกกาแฟที่ทันสมัย การจัดการหลังการเก็บเกี่ยวที่ใช้เรื่องมาตรฐานสินค้าเกษตรเข้ามากำกับ การได้รับมาตรฐานสามระดับของหน่วยงานต่างๆถูกจัดการโดยกลุ่ม การรับซื้อผลผลิดกาแฟสด(เชอร์รี่) เพื่อนำมาปั่นปอกเปลือกในสามมาตรฐาน โรงตากพลังงานแสงอาทิตย์ตามภูมิปัญญา การจัดการเปลือกเมล็ดกาแฟที่นำไปทำปุ๋ยชีวภาพ การคัดเมล็ดและราคาของผลผลิตในแต่ละมาตรฐาน ราคาแตกต่างกัน 1 บาทต่อกิโลกรัมในแต่ละมาตรฐาน รับซื้อเมล็ดสดในราคาที่ต่างกัน เมื่อรับซื้อจะตรวจสอบคุณภาพเบื้องต้น เมล็ดลอยจะถูกตัดราคาเมื่อคัดเลือกกิโลกรัมละ 1 บาท เมล็ดที่ส่งขายให้บริษัทแล้ว ในแต่ละมาตรฐานจะได้รับเงินเพิ่มกิโลกรัมละ 1 บาท ซึ่งถือว่าได้ราคาดีกว่าการส่งขายให้พ่อค้าคนกลางในตลาด มีเกษตรกรที่เป็นสมาชิกอยู่จำนวนหนึ่ง ไม่ทั้งหมด เพราะมีบางรายเข้าเป็นสมาชิกแล้วก็ขอออกจากกลุ่ม มีหลายรายพยายามปรับกรรมวิธีการปลูกเพื่อจะเข้าเป็นสมาชิก หมุนเวียนกันไป หรือสมาชิกบางรายทำผิดกติกาก็ถูกปรับลดมาตรฐาน หรือปรับออกจากกลุ่มก็มีอยู่บ้าง บริษัทภายใต้โครงการพระราชดำริ เป็นพี่เลี้ยงให้คำแนะนำ การจัดการ กติกากำหนดมาตรฐาน ส่งเสริม สนับสนุน การตลาด การประชาสัมพันธ์ บัญชี และระบบอื่นๆ ตลอดจนการพัฒนาและให้ความรู้ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีต่อเกษตรกรของกลุ่ม การร่วมวางแผนพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวในอยาคต เช่น โฮมสเตย์ การจัดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศเกษตร ที่นี่มีจุดเด่นเรื่องการปลูกกาแฟร่วมกับป่า ไม่ทำลายป่า อะบราบิก้า สามารถปลูกในร่ม ต่างจากอเมริกาโน่ที่ต้นสูงโปร่งต้องการพื้นที่และแสงมากกว่าปัญหาเรื่องการใช้สารเคมียังมีอยู่บ้าง บางรายที่ไม่ได้เป็นสมาชิกยังใช้สารเคมีอยู่ เข่น เกษตรกรที่ปลูกเสาวรสร่วมกับกาแฟ เพราะเสาวรสยังต้องใช้สารเคมีป้งกันศัตรูพืชอยู่ เกษตรกรบางรายยังใช้ปุ๋ยเคมีให้แร่ธาตุแก่กาแฟ จึงถูกปรับลดขั้นมาตรฐาน หรือปรับออกจากการเป็นสมาชิก กลุ่มส่งเมล็ดกาแฟขายแก่บริษัทภายใต้โครงการพระราชดำริ และส่งข่ยต่อไปยังอเมซอน (ปั๊ม ปตท.) และยังมีแบรนด์ที่เป็นของกลุ่มเอง ภายใต้บริษัทคือ "มีวนา" คือ "มีป่า" เพราะปลูกกาแฟแต่ยังอนุรักษ์ผืนป่า ปี 2555 และ ปี 2556 บริษัทส่งผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ "มีวนา" เข้าประกวดในรายการของระดับประเทศ ได้รางวัลที่ 1 มาทั้งสองปี การันตีคุณภาพจริงๆ เราได้ชิมกาแฟ "มีวนา" ที่ร้านกาแฟสดของประธานกลุ่มคนปัจจุบัน คือ พี่บอย ที่เป็นวิทยากร ให้ข้อมูลเชิงลึก เล่าเรื่องราวต่างๆมากมายให้ฟัง ข้อมูลแน่นเปรี๊ยะ อัธยาศัยดี ที่สำคัญ เป็น นักการของโรงเรียนบ้านขุนลาว นักการภารโรงผู้เป็นประธานกลุ่ม มีวิสัยทัศน์กว้างไกล น้ำใจไมตรียอดเยี่ยม นักต่อสู้เพื่อผืนป่า สร้างคุณค่ากาแฟระดับโลก สร้างอาชีพให้คนในชุมชนในระดับมาตรฐานสากล ในวันนี้ขุนลาวเป็นที่รู้จักบ้าง ชื่อเสียงกาแฟเป็นที่รู้จักมากขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคตอันใกล้ที่นี่คงมีชื่อเสียงทั้งผลิตภัณฑ์และการท่องเที่ยว ดีใจที่ได้มาทำค่ายร่วม มข.-มช. ที่นี่ อาคาร 50 ปี มข.-มช. จะเคียงคู่ชุมชนที่นี่ หากที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวแหล่งใหม่ที่มีชื่อเสียงในอนาคตสิ่งที่ห่วงคือการจัดการของชุมชนเพื่อเตรียมตัวรับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นระบบ การจัดการ คมนาคม ที่พัก ขยะ ฯลฯ เป็นเรื่องสำคัญที่ชุมชนต้องให้ความสำคัญ หรือหน่วยงานภาครัฐที่จะต้องมาช่วยเป็นที่ปรึกษาแก่ขุมชน และกติกาหรือเงื่อนไขที่ชุมชนจะต้องวางไว้ให้นักท่องเที่ยวปฏิบัติตามก็เป็นเรื่องสำคัญ
ย่ำค่ำวันนี้ ชาวค่ายไปทานค่ำที่บ้านพ่อแก้ว แม่ขวัญเกือบทุกคน ถึงเวลานัดหมายก็กลับมาร่วมกิจกรรมสานสัมพันธ์ที่ลานกิจกรรม ครึกครื้น สนุกสนาน เพื่อสานสัมพันธ์ฉันท์มิตร วันนี้ได้ความรู้มากมายในการจัดการพืชผลเกษตร จากพี่บอย บันทึกไว้ไม่หมดไม่ครบมิติ ชุมชนและมหาวิทยาลัยควรจะอยู่เรียนรู้ร่วมกันให้เข้มข้น แบ่งปันซึ่งกันและกัน ความรู้ของนักการศึกษาต้องแบ่งปันชุมชน ภูมิปัญญาของชุมชนต้องได้รับการเก็บบันทึก วิเคราะห์ สังเคราะห์เพื่อนำไปสู่การพัฒนาและกลายเป็นองค์ความรู้ "มีวนา" และ "ขุนลาว" น่าจะพัฒนาไปข้างหน้าอีกมาก ชุมชนที่มีป่าและกาแฟเป็นจิตวิญญาณ คงต้องมีผู้ร่วมอุดมการณ์ ต่อไป


ณ ขุนลาว
27 ธันวาคม 2557