บันทึกส่งท้ายปีเก่า บอกข่าวเล่าเรื่องกิจกรรม ของ ครูหยิน ได้รับเชิญเป็นวิทยากรแบบสายฟ้าฟาด ให้จัดกิจกรรมค่ายให้กับโรงเรียนขนาดเล็ก ของอีกอำเภอหนึ่งในจังหวัดตรัง ในวันที่ 26 ธันวาคม 2557
จึงได้วางแผนจัดทีมงานในทันที ด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบค่าย Learning by doing ให้กับเด็กที่ขาดโอกาส ในช่วงเวลา 3 ชม.ของกิจกรรมไม่น่าเชื่อว่า นักเรียนมีความสุข สนุกสนาน และเปลี่ยนทัศนะคติที่ดี ทำให้เขารู้สึกว่า วิทยาศาสตร์ไม่ยากอย่างที่คิด...
</span>
ในท่ามกลางความเหน็ดเหนื่อย แต่เห็นผลลัพท์ที่คุ้มค่า กลับมากินยา แล้วพัก 3 ชั่วโมง ก็หายเป็นปลิดทิ้งจึงเป็นพลัง และแรงบันดาลใจในวิชาชีพครู...และได้เรียนรู้ว่า.เด็กแต่ละคน.ก็เหมือนดั่งผ้าขาว ที่รอการแต่งแต้ม..สีสันต์ จากครู.. อึ้งมากที่สุดคือเด็กเหล่านี้ไม่เคยมีโอกาสได้เรียนรู้ในรูปแบบนี้เลย..เขาประทับใจมาก
และมีความอยากเรียนรู้ วิทยาศาสตร์มากขึ้น..ในมุมมองของครูหยินจึงมองว่าครู..เป็นหัวใจสำคัญ การพัฒนาการศึกษาต้องปรับตัวหลักสูตรให้ใกล้ตัว และ ปรับวิสัยทัศน์ของครู สร้างครูให้มีจิตวิญญาณ มีความสามารถ และพร้อมที่จะอุทิศตนเอง รักวิชาชีพครูโดยแท้ น่าจะเป็นหนทางแก้ที่ดี ทำอย่างไรให้เด็กไทยไปถึงฝั่งฝัน
ครูมิใช่ช่างปั้นอันวิจิตร
แต่ต้องคิดวาดวางกางแผนผัง
ครูมิใช่นายทุนหนุนกำลัง
ต้องเก็งทั้งขาดทุนตุนกำไร
ครูมิใช่พ่อค้านายพาณิชย์
ดีดลูกคิดคาดการณ์ด้านไหนไหน
แต่ยังเป็นผู้ค้าอย่างเต็มใจ
ยอมขาดทุนตลอดไปชั่วนิรันดร์
ครูมิใช่นักปกครองช่ำชองศึก
แต่ก็คึกคะนองปกป้องขั้น
ครูมิใช่นักวิชาการเชี่ยวชาญครัน
แต่โชกโชนด้วยผูกพันวิชาการ
ครูมิใช่นักแสดงโลกแสงสี
แต่สวมบททุกที่ด้วยอาจหาญ
ครูมิใช่ผู้กำกับผู้บงการ
แต่เฉียบขาดในแผนงานการบัญชา
Cr.http://www.mettadham.ca/teacher's%20poem1.