ทบทวนชีวิตใน ๒ สัปดาห์ ๑๐ – ๒๓ ตค. ๔๘
เป็น ๒ สัปดาห์ที่เต็มอิ่มด้วยการเรียนรู้และการทำงานเช่นเคย
· สองสัปดาห์นี้ สคส.
ทำงาน KM ให้แก่วงการศึกษาถึง ๔ เรื่อง ได้แก่ (๑)
จัดตลาดนัดความรู้ให้แก่เครือข่าย มรภ.
(ผมไม่ได้ไปร่วม) (๒) หารือกับ ศ. ดร. สมหวัง
พิธิยานุวัธน์ ผอ. สมศ. และคณะ เรื่อง KM 2 ชั้น คือ KM ใน สมศ.
และ KM ในเครือข่าย (๓) หารือกับ รองเลขาธิการ สอศ.
ศรีวิการ์ และคณะ เรื่อง KM 3 ชั้น คือ KM สำหรับโครงการยากจน,
KM สำหรับสำนักงาน สอศ., และ KM สำหรับสถานศึกษาในสังกัด
สอศ. (๔) ให้สัมภาษณ์คุณวรสิทธ ใจงาม บรรณาธิการข่าว
และคุณฐานทัพ อินทอง ผู้สื่อข่าววารสาร “วงการครู”
ของสถาบันฐานวิชาการ (www.thanedu.com)
เรื่องการจัดการความรู้สำหรับครู สำหรับลงในวารสาร
วงการครู ประจำเดือน พย. ๔๘
·
เข้าร่วมการสัมมนาใหญ่และคุณภาพสูงมากถึง ๒ รายการ คือ BRT 9
กับการสัมมนา “นักวิจัยใหม่พบเมธีวิจัยอาวุโส สกว.” จัดโดยฝ่ายวิชาการ
สกว.
อิ่มเอมทั้งความรู้และปิติสุข
ปิติสุขอันเกิดจากงานที่ริเริ่มไว้ขยายผลและออกผลอย่างน่าชื่นใจ
·
มีความสุขมากกับความสำเร็จของทีมงาน สคส. ในการนำเสนอผลงานปี ๒๕๔๘
ต่อคณะกรรมการนโยบาย ในวันที่ ๒๑ ตค. ๔๘
ในรูปแบบใหม่
คือให้ทุกคนได้เป็นผู้นำเสนองานที่ตนดำเนินการ
หรือเกี่ยวข้อง เพื่อให้คณะกรรมการได้ประจักษ์ผลของ
KM ใน สคส. ต่อการสร้างคน
ทำให้ลุงสุรินทร์ตั้งข้อสังเกตว่าทุกคนนำเสนอด้วยความมั่นใจและถามด้วยความทึ่งว่าความมั่นใจหรือความสามารถนี้ได้มาอย่างไร
คำตอบก็คือ มาจากการทำ KM ภายใน สคส. เอง
ในการนำเสนอครั้งนี้ เราเสนอแบบนวัตกรรมยกกำลังสาม
คือ (๑) เสนอร่างรายงานประจำปี แบบ
ใหม่ คือไม่ใช่เพียงแค่เป็นรายงานประจำปีของ
สคส. แต่เป็นรายงานสถานภาพของ KM ของประเทศ
ไทยด้วย (๒) นำเสนอการค้นพบใหม่ๆ
วิธีการใหม่ๆ หรือข้อวิเคราะห์/คำอธิบายใหม่ๆ เกี่ยวกับ KM
(๓)
นำเสนอโดยผู้ปฏิบัติงาน (“คุณกิจ” ) ตัวจริง
ให้เห็นพลัง KM ของ “คุณกิจ”
เราจะต้องมีการเลี้ยงฉลองกัน
เพราะนำเสนอได้ดีเยี่ยมกันทุกคน
ทำให้เกิดความคิดว่า ในรายงานประจำปี ๒๕๔๙
นอกจากให้ภาคีเขียนเรื่อง KM ของตนแล้ว
จะให้พนักงานของ สคส. สรุปกิจกรรม KM แต่ละด้านด้วย
· มีความสุขที่ได้เห็น KM
ผู้ประกอบการทางสังคมรุ่นเยาว์ดำเนินไปด้วยดี
โดยที่ สคส. เข้าไปทำกระบวนการให้เพียงครั้งเดียว
และกลุ่มผู้เข้าร่วมไม่ยอมรับรูปแบบการ ลปรร. ของ สคส.
เสียอีก แต่ได้คิดวิธีการรวมกลุ่ม ลปรร.
ของตนเอง เกิดการนัดหมายจัดเวที ลปรร.
กันเอง
วิวัฒนาการรูปแบบไปเรื่อยๆ มีเวทีครั้งที่ ๒
ที่แก่งกระจาน เพชรบุรี ครั้งที่ ๓
ที่เชียงใหม่ และจะมีการจัดเวทีครั้งที่ ๔
ในพื้นที่ภาคตะวันตก
แม้ว่ากลุ่มนี้จะไปร่วมประชุมนานาชาติ
“ผู้ประกอบการทางสังคมรุ่นเยาว์พบผู้ประกอบการทางสังคมรุ่นใหญ่”
ที่ญี่ปุ่นในลักษณะกึ่งถูกหลอกกึ่งจริง
แต่ก็ได้เรียนรู้มาก
ยิ่งทำให้เกิดความคิดที่เป็นตัวของตัวเองมากยิ่งขึ้น
(เดิมก็มีมากล้นอยู่แล้ว)
· เกิดการก้าวกระโดด
(breakthrough)
ในการขับเคลื่อนเครือข่ายภาคีการจัดการความรู้ท้องถิ่น
ภาคีเกิดความเหนียวแน่น เกิด
self-organization ในการร่วมมือกัน
คราวหน้าจะร่วมกันวางแผนพัฒนา “คุณอำนวย”
· เกิดแนวความคิด
ในการจัดการประชุมภาคี KM
ในหน่วยราชการอย่างสม่ำเสมอ ๒ – ๓
เดือนต่อครั้ง จะเริ่มประชุมครั้งแรกวันที่
๒๔ พย. ๔๘
· เขียนบทความ
“ปฏิวัติการเรียนรู้ : พลังเสริมระหว่างความรู้ฝังลึก
กับความรู้แจ้งชัด” เสร็จ
สำหรับนำเสนอในการประชุมโต๊ะกลมไทย – สหรัฐ ด้านการศึกษา จัดโดย สกศ.
ร่วมกับ ม. ธุรกิจบัณฑิตย์ จัดที่ ม. ธุรกิจบัณฑิตย์ วันที่ ๗ –
๘ พย. ๔๘ โดยผมนำเสนอวันที่
๘ บทความนี้จะนำขึ้นเว็บ kmi
หลังการประชุม
· เขียน PowerPoint
“การพัฒนาภาวะผู้นำ ด้วยพลัง ๘ ทิศ” เสร็จ
สำหรับนำเสนอในการประชุมปฏิบัติการพัฒนาบุคลากรของสถาบันวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ
คณะแพทยศาสตร์ มน. ในวันที่ ๕ พย. ๔๘
หลังการประชุมจะนำขึ้น เว็บ kmi เช่นเดียวกัน
·
พบสถานที่พักผ่อนหย่อนใจใกล้บ้านที่ผมชอบมาก
คือวังปลาในแม่น้ำเจ้าพระยาหน้าวัดบางพัง
ทางวัดมีอาหารปลาขาย
มีคนมาเลี้ยงปลาไม่ขาดสาย แต่คนก็ไม่แน่นเกินไป
มีที่นั่งเล่นชมวิวแม่น้ำ
ลมแม่น้ำโชยเย็นสบาย
และมีนกนางแอ่นจำนวนมากบินโฉบแมลงเรี่ยผิวน้ำ
บรรยากาศวังปลาวัดบางพัง ปลาขึ้นมาแย่งอาหาร ส่วนใหญ่เป็นปลาสวาย
วิจารณ์ พานิช
๒๔ ตค. ๔๘
กราบเรียน อาจารย์ หมอ วิจารณ์ พานิช
ผมขออนุญาตแสดงยินดี ต่อความสำเร็จของ "สคส ๔๘" ด้วยครับ ไม่ทราบอาจารย์ จะส่งเอกสารให้ผมศึกษาได้ใหมครับ เนื่องจากวัน พุธ ที่ ๒๖ ตุลาคม ๔๘ ทาง ทีมงาน"จัดการความรู้ ของ มหาวิทยาลัยขอนแก่น" จะมีการปรับทีมรวม ระหว่างทีม UKM กับ "กพร_KM" จะได้เป็นแนวทาง หรือ ทิศทางในการพัฒนาต่อไปครับ
ด้วยความเคารพ
JJ