มองตนเอง ๓


ตั้งคำถามกับตนเอง

ตั้งคำถามกับตนเอง

วันเวลาผ่านโดยมาให้หวนคิดย้อนมองถึงตนเองอีกครั้งซึ่งตนเองในครั้งนี้เเละทุกๆครั้งก็มีทั้งความมั่นใจ ไม่มั่นใจ เเน่นอน ไม่เเน่นอน ในเรื่องราวต่างๆ เเต่ถ้ามองในมุมของอนาคต ในมุมความฝันเเล้ว เราเองเเน่นอนในความฝันนี้มาร่วม 6 ปี เเล้ว ตั้งเเต่ชั้นประถมศึกษาจนถึงเดี๋ยวนี้ ชั้น ม.6 ระหว่างทางเเห่งสายฝัน ถูกผลักดันทั้งจากภายนอกเเละภายใน หันมาเริ่มที่จะตั้งคำถามกับตนเองเเบบง่ายๆ ว่า ...

1.ความฝันที่เราได้มานี้นั้น คือ อะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร
คำตอบ - ความฝันของฉันนั้น คือ ครู ส่วนวิชาที่ชอบมากๆ คือ สังคมศึกษา ฉะนั้นเเล้วจึงอยากเป็นครูสอนวิชาสังคมศึกษา ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อชั้นป.6 ที่ประทับใจครูท่านหนึ่ง ซึ่งเกิดจากเเรงจูงใจที่ได้เห็นก่อน ต่อมาเกิดเเรงบันดาลใจขึ้นในช่วง ม.1 ที่เห็นเเละชอบ เห็นว่าตนเองชอบ ว่าตนเองทำได้ดี เกิดเเรงบันดาลใจขึ้นช่วงนี้

2.เป้าหมายในชีวิตเรานั้นคืออะไร เมื่อถึงเป้าเเล้วจะทำอะไรต่อไป
คำตอบ - เป้าหมายในชีวิตของฉัน คือ การเป็นครู โดยสอนเด็กๆให้มีความรู้(ด้านสังคม วัตถุ สิ่งเเวดล้อม เเละวัฒนธรรม) เเละทักษะ(การทำงาน การสื่อสาร การเรียนรู้ทั้งตนเองเเละสังคม ฯ) พูดง่ายๆคือจะไม่สอนเพียงในห้อง4เหลี่ยม อยากให้เด็กๆไปเรียนรู้ปัญหาเเล้วเเก้ไข เมื่อถึงเป้าหมายนั้นจริงๆก็จะไม่หยุด จะทำต่อไป โดยจะพัฒนางาน พัฒนาสังคมต่อไป

3.ทำไมถึงสนใจในสาขาวิชานี้
คำตอบ - เพราะครูเป็นความฝันของเราที่เกิดขึ้นจากเเรงจูงใจจากครูท่านหนึ่ง มาสู่เเรงบันดาลจากด้วยตนเอง ส่วนสังคมศึกษานั้นเป็นวิชาที่เราชื่นชอบ

4.จะเรียนในสาขาวิชานี้ต้องมีทุนอะไรบ้าง
คำตอบ - ทุนที่ฉันควรจะมีการการเรียนสาขาวิชานี้เเละการเป็นครูเหมือนกัน ได้เเก่ ความรู้ในเชิงเนื้อหาสังคมศึกษาอันประกอบด้วย กฏหมาย ศาสนา ภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ฯ เเละความรู้ในเชิงกระบวนการสอน การสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ สื่อการสอน วิธีการดำเนินการสอน (อันนี้จะเรียนรู้จากกิจกรรมฯ) นอกจากนี้เเล้วทุนอีกอย่าง คือ ทักษะในด้านการโค้ชชิ่งเด็กๆ การเสริมทักษะทางใจ โดยผมมีเเนวทางของตนเอง คือ การพัฒนากาย พัฒนาใจ เเละพัฒนาการคิดของเด็กๆ

5.เมื่อเรียนจบเเล้วจะไปทำอะไรที่ไหน
คำตอบ - เมื่อเรียนจบเเล้วนั้น ฉันเองจะเที่ยวหาสอบบรรจุ เพื่อเป็นครูตามที่ได้ตั้งเป้าหมายชีวิตกับตนเองเอาไว้ ในระหว่างทางหากมีงานหรือกิจกรรมดีๆที่จะเสริมทักษะเเละความรู้ของเรา ก็จะใช้เวลาช่วงนี้ ไปเรียนรู้ก่อนที่จะได้เป็นครูร่วมด้วย

6.วางแผนชีวิตอย่างไร
คำตอบ - ฉันเองนับตั้งเเต่วันนั้นที่ยังไม่ค่อยชัดเจนสักเท่าไหร่มาถึงวันนี้เเน่ใจเเล้ว ว่าเมื่อถึงจุดสูงสุดเเล้ว เราจะดำรงต่อไป โดยมีช่วงอายุที่ได้คิดๆ ไว้ คือ
ช่วงอายุ 19-24 จะเรียนต่อครูในมหาวิทยาลัยใกล้บ้าน ระหว่างนั้นจะเสริมทักษะของตนเองไปร่วมด้วยในด้านที่ตนเองสนใจ
ช่วงอายุ 24-28 จะสอบเข้าทำงาน
ช่วงอายุ 29 จะบรรจุ ณ โรงเรียนใด โรงเรียนหนึ่ง
ช่วงอายุ 29-60 จะพาเด็กๆไปเรียนรู้ปัญหาสู่ปัญญา ระหว่างนั้นก็จะเรียนรู้ไปพร้อมกับเด็กๆ พาเด็กๆทำโครงการ โครงงาน กิจกรรม เสริมความรู้ในเเง่สังคม ร่วมเข้าไปด้วย
ช่วงอายุ 60-70 หากมีโอกาสอยากใช้ชีวิตนอกราชการไปหาทุน หรือ รวบรวมทุน เพื่อสร้างมูลนิธิเพื่อการศึกษาเล็กๆให้กับเด็กๆที่ประสบปัญหา 4 อย่าง ของบ้านเรา ได้เเก่ ปัญหาความยากจน คนพิการ เด็กเร่ร่อน(ขาดหลักฐาน) ฯ
ช่วงอายุ 70 UP - ไม่เที่ยงเเท้เเน่นอน เเต่หลังจากนั้น จะอยู่กับลูกๆหลานๆ บริหารจิต เตรียมพร้อมสู่ โลกหน้า ...

7.ทำไมต้องวางแผนชีวิตเเบบนี้
คำตอบ - เพราะฉันเห็น "ความจริง" ที่เกิดขึ้นในโลกนี้ ที่หากตามทรรศนะของฉันเเล้วนั้นจะมีวงจรอยู่ 4 อย่างที่อยู่รอบตัวเราเกิดจากการทำงานกับเด็กๆ จากการมองตนเอง จากการฟัง ได้เเก่ วงเเรกคือเราเกิดมา วงที่สองเป็นโลกกาที่เต็มไปด้วยความทุกข์ วงที่สามหรือเราสามารถลิขิตชีวิตเราได้ให้บรรเทาความทุกข์เหล่านั้น เเละวงที่สี่เป็นหลุมที่ทำให้เราตกหลงทางไป ... หากเรารู้เเล้ว ควรจะช่วยผู้อื่นให้พ้นทุกข์ ฉันสนใจเรื่องการศึกษา อยากให้เด็กไทยมีมุมมองด้านการศึกษาเเละโลกทัศน์ที่กว้างขึ้น ให้การศึกษาออกมาจากด้านใน ไม่ใช่ยัดเข้าไปจากด้านนอกเพียงอย่างเดียว .. จุดนี้เองที่ทำให้ฉันวางเเผนชีวิต ของฉันอย่างนี้ ... "เราต้องทำมันให้ได้" ...
ขอขอบคุณ ครูเพ็ญศรี ใจกล้า ครูสุกัญญา มะลิวัลย์ ฯ เเละเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกๆคน จากนี้ไป เรื่องราวต่างๆนานา ตลอดระยะเวลา 18 ปี้เเรกของชีวิตนี้ ฉันจะขอเก็บมันไว้ในความทรงจำตลอดไป ว่า ครั้งหนึ่งฉันเคย นั่งเล่นกับเพื่อนๆ เคยทำงานการพัฒนาชุมชน เคยทำกิจกรรมทั้งในโรงเรียนเเละนอกโรงเรียน เคยมานั่งเล่น นั่งคุยงานร่วมกันเเละกัน ทั้งสุขเเละทุกข์ ล้วนมีคุณค่า ... ขอขอบคุณทุกๆคนจากใจจริง ...



หมายเลขบันทึก: 581769เขียนเมื่อ 5 ธันวาคม 2014 20:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 ธันวาคม 2014 20:01 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ได้อ่านแล้ว อายุขนาดนี้ถือว่า ออมวิชาความคิดได้อย่างไม่น่าเชื่อ..ตอนพี่อายุขณะนี้ ยังไม่รู้เลยว่า อะไรคือความรู้ อนาคต และโลกทัศน์ อนาคตประเทศไทยอยู่ที่หนูแล้วหละ..อยากได้ร่วมงานจัง ชอบแนวคิด..แต่ต้องรอเวลาพิสูจน์ความมั่นคงนะ ขอให้ฝันหนูจงสำเร็จ และขอบใจที่ให้แง่คิดดีๆ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท