จาริกบุญหลังคาโลก : ปราสาทสีเงินในหุบเขาพญาครุ
นอกจากการเดินภาวนารอบภูเขา
ปราสาทสีเงินในหุบเขาพญาครุฑ ชื่อเป็นภาษาทิเบตว่าชุงลุง
คณะเราได้ไปวัดกู้เกียมโบ หรือกูรเกียม (Gurugyam/
ยังไม่มีนักธรณีวิทยาระดับโ
เราโชคดีมีมูลนิธิพันดารานำ
ระหว่างทางที่เดินขึ้นเขาเพื่อไปชมและนมัสการสิ่งศักดิ
เมื่อลงจากเขา เราได้พบคุณยายคนหนึ่งกำลัง
มีความสุขจากการจาริกบุญกับทริปนี้จริง ๆ
นำบุญมาฝากทุกคนค่ะ
สถานที่น่าไปมาก
แต่ดูเหมือนว่า ไม่คอยมีต้นไม้เลยนะครับ
ชอบใจคุณยาย เดินทางไกลมาก
ขอบคุณพี่กุหลาบมากๆครับที่เขียนให้อ่าน
ขอบคุณอาจารย์ ชยพร และอาจารย์ขจิตมากค่ะที่ให้ความสนใจบันทึกนี้ สถานที่เก่าแก่มากค่ะ เป็นยุคก่อนประวัติศาสตร์ สมัยอาณาจักรชางชุง ทิเบตตะวันตกเต็มไปด้วยภูเขา แต่ไม่ค่อยมีต้นไม้ พื้นดินแข็งมาก และแห้งแล้ง มีเพียงบางส่วนที่เป็นทุ่งหญ้าสำหรับเลี้ยงสัตว์ค่ะ ผักไม่ค่อยมี เขาทานเห็ดเป็นส่วนใหญ่ค่ะ คนไทยแทบไม่ได้มาแถบนี้กันเลยค่ะ นักท่องเที่ยวมักเป็นชาวรัสเซียเป็นส่วนใหญ่ค่ะ
อารยธรรมเก่าแก่มาก ๆ นะคะ ศรัทธาของผู้คนเข้มข้นสูงยิ่ง ฟ้าใส
เมฆสวย ปานสวรรค์นะคะ ขอบคุณมากค่ะสำหรับเรื่องราวดี ๆ และภาพสวยทุกภาพค่ะ
ขอบคุณมากค่ะคุณหมอธิ ศรัทธาของชาวทิเบตทำให้พี่หันมามองตัวเราเอง และละอายใจเหมือนกัน ว่าสิ่งที่ว่าเราเคารพ รัก และศรัทธา และมีความเชื่อนั้น เราได้ปฎิบัติอย่างไร เพื่อความไม่ประมาท จึงเริ่มปฎิบัติอย่างมากขึ้นค่ะ อยู่บนที่สูง ท้องฟ้าสวยมาก อากาศบริสุทธิ์ เหมือนไปล้างปอดเลยค่ะ :)
สถานที่สวยงามมากๆๆ นะคะ .... ขอบคุณมากค่ะ เสมือนได้ไปเที่ยวด้วยเลยนะคะนี้
ขอบคุณค่ะอาจารย์เปิ้ลที่เข้ามาเยี่ยมชม และมอบกำลังใจ สถานที่โบราณเก่าแก่มาก แต่ยังงดงามอยู่ค่ะ
ภาพถ่ายสุดยอดค่ะ สวยมาก อยากไปบ้างแล้ว ถ้าปีนป่ายไม่ไหว เราพักรอได้ไหมคะ เขาจะย้อนกลับทางเดิมหรือเปล่า ส่วนมากไม่ย้อนนะคะ ทำให้ไม่กล้าเสี่ยงไปเลยค่ะ ธิเบต เนปาล ภูฏาน นี่ไม่มีบุญได้ไปแน่ขอบคุณมากค่ะที่เขียนให้อ่านอย่างเห็นภาพ ได้ความรู้สึกคล้ายไปเองเหมือนกันค่ะ
ขอบคุณอาจารย์ ดร.กัลยามากค่ะที่ชอบภาพถ่ายและเรื่องเล่า อยากให้อาจารย์ไปเห็นจังค่ะ เพราะอาจารย์ชอบสถานที่แบบนี้ ทิเบตยังใหม่ต่อนักท่องเที่ยวมาก ถ่ายรูปง่าย ไม่มีใครยืนเกะกะใคร นอกจากพวกเรากันเอง จุดที่ยากที่สุดคือการเดินรอบเขาไกลาส 52 กิโลเมตร ใช้เวลาเดิน 3 วันเต็มค่ะ หากเดินไม่ไหวก็มีม้าให้ขี่เป็นบางช่วง แต่ต้องจองม้าล่วงหน้า กลางทางไม่มีม้าสำรองค่ะ คนที่รู้สึกไม่สบาย เดินไม่ไหว คงต้องพักที่เชิงเขารอกลุ่ม 3 วันจนกว่าเขาจะเวียนรอบ การเดินภาวนาเขาจะเดินเวียนขวาเหมือนการเวียนเทียน จะไม่ย้อนกลับมาทางเก่าค่ะ ส่วนสถานที่อื่น ๆ ตลอดเส้นทางไม่ยากค่ะอาจารย์ ค่อย ๆ เดินไป เรื่อย ๆ แต่หากเราป่วยระหว่างเดินทาง เช่นแพ้ความสูง จะทำให้เราลำบาก ร่างกายจะอ่อนเพลียมาก ปวดศีรษะ ปวดกระบอกตา บางคนก็ไม่เป็นอะไรเลย โดยทั่วไป ร่างกายจะปรับตัวได้เองค่ะ ก่อนไปก็ออกกำลังกายบ้างเล็กน้อย ไม่ต้องหักโหม ขอบคุณค่ะอาจารย์
สวยงาม น่ามาเที่ยวมากจริงๆ น้องกุหลาบทำบุญไว้มากนะคะจึงได้มาที่ดีๆ แบบนี้
คลับคล้ายคลับคลาว่า ดร.กฤษดาวรรณ เคยเขียนหนังสือเกี่ยวกับธิเบตใช่มั๊ยคะ พี่จะลองไปค้นๆ มาอ่าน
ใช่ค่ะพี่นุ้ย แต่เดิมอาจารย์สอนอยู่ที่คณะอักษรศาสตร์จุฬา เป็นผู้เชี่ยวชาญภาษา วัฒนธรรมทิเบต และพุทธศาสนา วัชรยาน เคยตามเสด็จพระเทพไปทิเบตเมื่อหลายปีก่อนด้วย เสื้อสีเทาค่ะ ปัจจุบันลาออกและอุทิศตนให้กับพุทธศาสนา วัชรยานเต็มตัวค่ะ