เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาไม่มีหยุดนิ่ง


มีคนกล่าวว่าผู้ที่ติดตามเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เปรียบเหมือนสุนัขล่าเนื้อ

             คอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นทุกที มองไปทางไหนก็จะเห็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์แทบทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นการคิดเงินตามร้านสะดวกซื้อต่างๆ การคีย์ข้อมูล การตกแต่งภาพ และอีกสารพัด

             นอกจากนี้ จะเห็นได้ชัดเจนว่าเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ไม่มีหยุดนิ่ง เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ยกตัวอย่างก่อนนี้เราใช้โปรแกรม Microsoft Office เวอร์ชัน 97 กัน แต่ต่อมาก็มีการเปลี่ยนมาใช้เวอร์ชัน 2000, XP, 2003 กัน และล่าสุดก็เป็น Office 2007

             ไม่ได้หมายความว่าเวอร์ชันเก่าๆ ใช้งานไม่ได้ แต่คนที่ใช้เวอร์ชันเก่าๆ อาจประสบปัญหาการไม่เข้ากันของเวอร์ชัน คืออาจเปิดไฟล์ที่ได้รับมาจากคนที่ใช้เวอร์ชันใหม่ๆ ไม่ได้ หรือได้แต่มีการเลื่อน ต้องเสียเวลาแก้ไข

             นั่นหมายความว่า ปัจจุบันคนส่วนใหญ่ใช้เวอร์ชันอะไร ก็ควรเปลี่ยนมาใช้เวอร์ชันนั้น (ถ้าเป็นไปได้) เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาต่างๆ

             คำพูดที่กล่าวว่า "ผู้ที่ติดตามเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เปรียบเหมือนสุนัขล่าเนื้อ" ก็คงถูกต้องอย่างยิ่ง เพราะเทคโนโลยีนี้เปลี่ยนเร็วมากจริงๆ ผ่านไปไม่กี่เดือน ก็มีอะไรใหม่ๆ ออกมากันแล้ว ต้องคอยติดตามตลอด เห็นด้วยมั้ยครับ

           

หมายเลขบันทึก: 57761เขียนเมื่อ 7 พฤศจิกายน 2006 18:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 16:16 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)
          เห็นด้วยนะครับ ใช้คอมก็ต้องติดตาม จะได้รู้ว่ามีอะไรใหม่ๆ ไง อิอิ
           ฉันว่านะ คอมพิวเตอร์มีทั้งเกิดและดับ อะไรที่ทำมาแล้วมีคนใช้ ขายได้ ก็มีการพัฒนากันต่อไป ส่วนไอ้ที่ไม่เป็นที่นิยม ก็หาย  ไม่เสมอไปหรอกค่ะที่จะพัฒนาไปหมดซะทุกโปรแกรม :)
        เห็นด้วยกับคุณ Bgirl ครับ ไม่ได้พัฒนาซะทุกโปรแกรมหรอกครับ  คุณ in4boy คงหมายถึงโดยรวมๆ ละมัง 

มันเป็นเรื่องของธุรกิจด้วยครับ การที่ผู้ผลิตซอฟแวร์ออกเวอร์ชั่นใหม่ ๆ ออกมา ก็เพื่อเสนอขายของใหม่ โดยมีฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่อำนวยความสะดวกเพิ่มขึ้นอีก  กรณีอย่างชุด Office ของไมโครซอฟ เป็นเรื่องที่น่าปวดหัวมากจากการไม่เข้ากันระหว่างเวอร์ชั่นใหม่และเก่า เนื่องจากมีการใช้งานกันอย่างกว้างขวาง ย่อมมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันอยู่ตลอด เช่น File *.doc, *.xls, *.ppt  เป็นต้น  โดยผู้ที่ใช้เวอร์ชั่นใหม่ ๆ ย่อมได้เปรียบ เพราะสามารถรับเวอร์ชั่นเก่า ๆ ได้ทั้งหมด แต่ก็สร้างปัญหาให้ผู้ที่ใช้เวอร์ชั่นเก่า ๆ อีกเช่นกัน  นอกเสียจากว่าจะสั่งบันทึกข้อมูลให้เป็นรูปแบบของเวอร์ชั่นเก่า (ซึ่งสามารถทำได้ แต่ไม่ทำ อาจเพราะไม่รู้ หรือไม่อยากยุ่งยากในการสั่งบันทึก รวมทั้งกลัวว่ารูปแบบพิเศษของเวอร์ชั่นใหม่ที่ต้องการนำเสนอจะหายไป)   แต่หากย้อนกลับไปดูโปรแกรมที่ไม่มีผู้ใช้กันอย่างแพร่หลายและใช้ในวงจำกัด เช่น PageMaker ซึ่งเท่าที่รู้จัก จะเริ่มตั้งแต่เวอร์ชั่น 4 มาจนถึง 7.5 และ 8 (ถ้าจำไม่ผิด) เป็นโปรแกรมที่ใช้เกี่ยวกับสิ่งพิมพ์  ปัจจุบัน บางโรงพิมพ์ ยังใช้เวอร์ชั่น 4 อยู่ ซึ่งจากการที่ได้พูดคุยกัน เค้าบอกว่า เท่าที่เค้าใช้งานอยู่ก็เพียงพอแล้ว ฟีเจอร์ใหม่ ๆ มันเกินความต้องการในการทำต้นฉบับของเค้า หากเค้าเปลี่ยนเวอร์ชั่นใหม่ ซึ่งต้องซื้อมาในราคาเกือบหลักแสน แล้วยังต้องเปลี่ยนเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อให้สามารถทำงานกับเวอร์ชั่นใหม่อีก เพียงแค่จะนำมาใช้กับงานเดิม ๆ  คงไม่คุ้มค่า....  เหมือนอย่างผม ที่ตอนนี้ โปรแกรม Photo Shop ผมก็ใช้แค่เวอร์ชั่น 5.5 เพราะเพียงพอต่อการใช้งาน และไม่กินกำลังเครื่องมาก อีกทั้งเมื่อส่ง File ออกไป ก็ไม่สร้างปัญหาให้กับผู้รับ

ดังนั้น ผมคิดว่า หากเรายิ่งวิ่งตาม ก็ยิ่งไม่มีที่สิ้นสุด แถมยังต้องปรับปรุงฮาร์ดแวร์ของเราเพื่อให้รองรับการทำงานของโปรแกรมเวอร์ชั่นใหม่อีก   น่าจะมองดูในส่วนที่เพียงพอต่อการใช้งาน น่าจะดีกว่า    เข้ากับยุคเศรษฐกิจพอเพียงด้วยนะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท