หกวันแล้วที่ผู้เขียนเกิดอาการเยื่อบุตาอักเสบ จนทำให้ตาข้างขวาแดงก่ำ จนน่ากลัว ซึ่งแม่บ้านได้ทักตั้งแต่คืนวันอาทิตย์ แต่ผู้เขียนก็เฉยๆเพราะเคยเกิดขึ้นบ่อย
จนเช้าวันจันทร์ก็ไปทำงานตามปกติ ซึ่งกลับไม่ปกติสำหรับคนที่ทำงานเริ่มตั้งแต่ รปภ.หน้าออฟิสแล้วที่ทักว่า ตาไปโดนอะไรมา ผู้เขียนถึงนึกได้ว่าแม่บ้านทักตั้งแต่เมื่อคืน เราเองยังไม่ได้สังเกตุตาตัวเองอีกเลยหรือนี่ แค่มองกระจกผ่านๆเท่านั้นเอง
พอเดินเข้าห้องน้ำส่องกระจกดูเท่านั้น ต้องตกใจ ตาด้านขวาแดงไปครึ่งตา และหลายๆคนในออฟิสต้องบอกให้ไปหาหมอ และหลายคนไม่กล้าสบตา บางคนแกล้งทำท่าทางคล้ายจะรังเกียจ และบางคนร้องเพลงหนึ่งขึ้นมาว่า
"อย่ามองตาได้ไหม...ถ้าเธอไม่แคร์"
ผู้เขียนจึงได้พยายามอธิบายว่า ที่ตาแดงเนี่ยเพราะเยื่อตาอักเสบ ไม่เกี่ยวกับ โรคตาแดงทั่วๆไปที่เกิดจากติดเชื้อไวรัส หรือแบคทีเรีย ที่จะเกิดการติดต่อกับผู้อื่นได้ง่าย บอกพวกเขาไม่ให้กลัวว่าจะติดจากผู้เขียน
แต่น้องๆก็ยังไม่ยอมสบตาอยู่ดี อีกทั้งยังไล่ให้ผู้เขียนไปหาหมอ จนต้องเนรเทศตัวเองออกจากที่ทำงานไปในครึ่งวันนั้น แต่ด้วยช่วงปิดตัวเลขปลายเดือนทำให้ผู้เขียนไม่กล้าที่จะหยุดงาน วันรุ่งขึ้นจึงมาทำงานตามเคย
"อย่ามองตาได้ไหม...ถ้าเธอไม่แคร์"
เสียงเพลงและบรรยากาศของเพลงยังคงใช้ได้อยู่ในวันต่อๆมา เพราะหมอบอกว่าตาจะกลับมาเป็นปกติคือหายแดง ก็จะประมาณ 2 สัปดาห์ โดยได้ยาหยอดตามาหลอดหนึ่ง ได้วิตามินซี มากินตอนเช้าอีกหลายเม็ด
หมอได้อธิบายให้หายกังวลว่า การอักเสบของเยื่อบุตา จนทำให้ตาแดงคล้ายเป็นโรคตาแดงนี้เกิดจาก การเผลอขยี้ตาแรงๆ ทั้งโดยรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว หรือเกิดจากการไอ การจาม การอาเจียนแรงๆ เส้นเลือดฝอยในตาก็อาจแตกได้
และไม่มีสาเหตุจากโรคประจำตัว(ไวรัสตับอักเสบ-ซี)แต่อย่างใด หมอบอกไม่ต้องกังวลกับเรื่องนี้
แต่น้องๆในออฟิสก็ยังร้องเพลงแซวๆกันอยู่ดี เฮ้อ...
"อย่ามองตาได้ไหม...ถ้าเธอไม่แคร์"
.................
30 สิงหาคม 2557
พ.แจ่มจำรัส
หายไวไวนะคะ
อุตส่าห์ฮัมเพลงได้นะคะ
เหมือนมีต้อลม ด้วยนะคะ หลีกเลี่ยงการโดนลม ฝุ่น ละอองพัดเข้าตาด้วยค่ะ
ขอบคุณคุณ หนูรี และคุณหมอ ภูสุภา ครับ
ตอนนี้เริ่มจางลงแล้วครับ
เพียงเธอสบตา...ฮ้า ๆ ...มาให้กำลังใจครับผม
น้องๆ มีแซวกัน หายไวๆ นะคะ