การต่อสู้ที่ไม่สิ้นสุดของประชาชนกับอำนาจ…..โดย ส.ศรัณ

                                                                        

ข้าพเจ้าเห็นการต่อสู้มากมายของคนในสังคมนี้ ทั้งการต่อสู้เพื่อตัวเอง เพื่อคนอื่น เพื่อสิ่งแวดล้อม เพื่อลูกหลาน เพื่อบ้านเมือง เพื่อเงิน ฯลฯ สุดท้ายเพื่อตัวเอง การต้อสู้ที่ข้าพเจ้าเห็นล้วนแล้วแต่ต้องใช้พลังแห่งความเชื่อและศรัทธา รวมถึงความกล้าที่จะเดินออกมาแสดงตัวให้คนทั่วไปเห็นว่า “เจตนาคืออะไร”

เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2557 ข้าพเจ้าได้ติดตามการต่อสู้ของคนกลุ่มหนึ่งที่รวมตัวกันเพื่อทวงสิทธิของเขาในการเป็นเจ้าของพลังงานที่แท้จริงไม่ใช่นายทุนที่คอยสูบเลือดของประชาชน โดยผ่านกลไกรัฐแบบที่ผ่านมา ซึ่งพวกเขาได้ประกาศตัวเองที่ลานจัตุรัสหน้าหอนาฬิกาเทศบาลนครหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ในนาม “เครือข่ายขาหุ้นปฏิรูปพลังงาน” โดยมีเจตนารมณ์ในการเดินเพื่อทวงสิทธ์ครั้งนี้ โดยใช้สโลแกนที่ว่า “เดินวันละโยด เพื่อประโยชน์คนทั้งชาติ” จากจุดสตาร์ท คือ อำเภอหาดใหญ่ ไปยังกรุงเทพมหานคร ซึ่งระยะทางกว่า 1,400 กิโลเมตร กำหนดเป้าหมายเดินวันละ 1 โยด เท่ากับ 16 กิโลเมตร

บรรยากาศตั้งแต่เช้าก็เริ่มมีตัวแทนจากเครือข่ายและประชาชนทยอยรวมตัวกัน ขณะเดียวกันในบริเวณนั้นก็ได้มีการจัดเวทีให้ความรู้เรื่องพลังงาน และผ้าผืนใหญ่ที่ตัดเป็นรูปตัวปลา ให้ขาหุ้นร่วมเซ็นชื่อเพื่อนำไปกรุงเทพฯ และมีผ้าสีเขียวอีกผืนให้ขาหุ้นที่ร่วมเดินทาง ประทับรอยเท้าไว้ด้วย สร้างความสนใจให้กับผู้คนที่ผ่านไปมาบริเวณหน้าหอนาฬิกาเป็นจำนวนมาก และหลังจากนั้นตัวแทนทั้งหมดก็ร่วมกันร้องเพลง “โบ๋ไม่บาย” นำโดยแสง ธรรมดา และศิลปินปักษ์ใต้ ก่อนจะให้ตัวแทน จ.สงขลา สตูล กระบี่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และชุมพร พูดคุยเรื่องพลังงานและผลกระทบ (ข้อมูล/ภาพ จาก ASTVผู้จัดการรายวัน)

หลังร่วมร้องเพลง นายประสิทธิชัย หนูนวล ผู้ประสานงานเครือข่ายขาหุ้นปฏิรูปพลังงาน อ่านแถลงการณ์ ฉบับที่ 1 ว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีนโยบายคืนความสุขให้คนไทย ขณะที่การปฏิรูปประเทศได้บรรจุไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับชั่วคราว พ.ศ.2557 มาตรา 27 ให้มีสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ศึกษาและเสนอแนะเพื่อให้เกิดการปฏิรูปด้านต่างๆ โดยการปฏิรูปพลังงานอยู่ในประเด็นที่ 7 ซึ่งมีความสำคัญยิ่งต่อความสุขของคนไทย (ข้อมูล/ภาพ จาก ASTVผู้จัดการรายวัน)

ดังนั้น เพื่อสนับสนุน คสช. คณะรัฐบาล และ สปช. รวมทั้งแสดงเจตนารมณ์สนับสนุนการปฏิรูปพลังงานอย่างถูกต้อง และเป็นธรรม ขาหุ้นปฏิรูปพลังงาน ซึ่งประกอบด้วยประชาชนในภาคใต้ ภาคกลาง ภาคอีสาน ภาคตะวันออก จึงได้ออกเดินรณรงค์ให้ความรู้กับประชาชน ว่าทำไมต้องปฏิรูปพลังงาน และนำเสนอการปฏิรูปที่ตั้งอยู่บนฐานของข้อเท็จจริง ไม่เป็นประโยชน์ต่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง และนำเสนอประเด็นเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ ดังนี้
1.ขอให้เปลี่ยนระบบสัมปทานปิโตรเลียมเป็นระบบแบ่งปันผลผลิต เพื่อให้ประเทศได้ประโยชน์สูงสุด ซึ่งได้พิสูจน์จากนานาประเทศว่า จะทำให้ได้ความเป็นเจ้าของปิโตรเลียมคืนมา
2.ขอให้จัดตั้งบริษัทแห่งชาติควบคุมปิโตรเลียม ให้ประชาชนได้ใช้ก่อนในราคาที่เป็นธรรม

3.ขอให้แบ่งพื้นที่ปิโตรเลียม และพื้นที่ผลิตอาหาร การท่องเที่ยวให้ชัดเจน เพื่อการพัฒนาที่สมดุล

4.ขอให้ปลดโรงไฟฟ้าถ่านหินจากแผนผลิตพลังงานไฟฟ้า เหมือนที่นานาประเทศกำลังปฏิบัติ เพื่อความปลอดภัยด้านสิ่งแวดล้อม และสุขภาพ

5.ขอให้ผลักดัน พ.ร.บ.พลังงานหมุนเวียนโดยเร็ว เพื่อให้เกิดความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้า (ข้อมูล/ภาพ จาก ASTVผู้จัดการรายวัน)

หลังจากนั้นแกนนำทั้งหมดได้เดินเพื่อให้ความรู้ แก่พี่น้องประชาชนโดยรอบแล้วเดินไปตามถนนเพชรเกษมเพื่อมุ่งหน้าสู่เป้าหมายวันแรกคือ อำเภอบางกล่ำ ท่ามกลางการประสานงานจากหน่วยงานรัฐว่า มทบ.ที่ 42 มีคำสั่งให้ยุติการเดินรณรงค์ทันที เนื่องจากขัดคำสั่ง คสช.ที่ห้ามชุมนุมทางการเมืองแต่ทั้งหมดไม่ยอมรับในคำสั่งด้วยให้เหตุผล “จะยึดแนวทางสันติ อหิงสา และใช้สิทธิเสรีภาพตามกรอบรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว และขอยืนยันว่า กิจกรรมนี้ทำขึ้นเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติ ไม่ได้ทำลายความมั่นคงของชาติแต่อย่างใด” และแล้วการเดินรณรงค์ในวันแรกของพวกเขาก็มาถึงเป้าหมาย ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ ที่จะใช้พักค้างคืน แม้ตลอดเส้นทางการเดินรณรงค์ครั้งนี้จะมีตำรวจ สภ.หาดใหญ่ และ สภ.บางกล่ำ รวมทั้งเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรอง ติดตามมาดูตลอดทาง

หากมองในแง่ดีก็คงเป็นการเอื้ออำนวยความสะดวก ไม่ใช่การจับผิดแต่อย่างไร หากไม่มีการรวบตัวแกนนำในวันที่สองของการเดินจนเป็นข่าวใหญ่โตของวันพุธที่ 20 สิงหาคม 2557 กับ ทำให้มองได้ว่าการต่อสู้ของประชาชนกับอำนาจรัฐที่มองยังไงก็ค้านกันระหว่างคนฐานล่างกับคนข้างบน ที่มองและเห็นปัญหาไม่เหมือนกัน ......การต่อสู้นี้จึงไม่มีที่สิ้นสุดหากยังไม่ฟังคนที่เจอปัญหาเพื่อนำข้อมูลไปแก้ไขปัญหา ประชาชนอย่างเรา ๆ ก็คงต้องช่วยกันเพื่อให้พลังงานที่เราบ่นกันทุกวันว่า ทำไม “แพง” อย่าปล่อยให้เขาเหล่านี้ต่อสู้เพียงลำพังเพราะเขาสู้เพื่อคนทั้งชาติ