อันที่จริง ก็หวังดีแต่ประสงค์ร้ายมานานแล้วล่ะ เพียงแต่ว่า วันนี้กำลังหนักข้อขึ้นทุกวัน ผมเห็นจนชินชา รู้สึกเบื่อจึงออกมาคิดมาเขียน จะได้ไม่มายึดติดว่า ที่เห็นและเป็นอยู่เป็นสิ่งที่ถูกต้อง หรือบางทีอาจถูกต้องแล้ว แต่ผมคนเดียวที่มองว่าไม่สมควรให้เกิดขึ้น ในวงการบริหารจัดการศึกษาไทย
เราอ้างที่จะพัฒนาโน่นนี่นั่น ที่มันห่างไกลเด็กด้อยโอกาสเหลือเกิน เราไม่พยายามแก้ปัญหาที่แท้จริง แต่จะเดินหน้าอย่างหลงทาง ในเส้นทางเก่า ผู้บริหารระดับสูงก็น่าจะรู้ หรือบางทีรู้แล้วและก็ทำเหมือนๆกัน จนเป็นธรรมเนียมที่เคยชิน
คำว่า ใครๆเขาก็ทำกัน..อันตรายมาก ถ้ายังไม่รู้จักคิด นึกขึ้นมาได้ก็รู้สึกขอบคุณ ท่าน"ประธาน" ที่เป็นนักเขียนแถวหน้าของโกทูโนว์ ท่านให้ความเห็นในบันทึกของผม ความว่า..ปัญหาใหญ่อยู่ที่คอรับชั่นเป็นตัวทำลายระบบการศึกษาที่สำคัญยิ่ง..จริงครับ ยิ่งคอรับชั่นเชิงนโยบาย..ไม่มีใครกล้าแตะต้อง ทำกันมานาน จนเห็นดีเห็นงามกันไป..อันตรายครับ
อย่างเช่น เขตพื้นที่ ให้ผู้บริหารตอบรับ ว่าจะไป หรือไม่ไป ในโครงการพัฒนาบุคลากร เป้าหมายหลัก คือนำพาข้าราชการที่จะเกษียณอายุราชการไปจัดกิจกรรมมุทิตาจิต แสดงความรักและเคารพในคุณูปการของผู้ที่จะเกษียณ อะไรก็ว่าไป
ใครไม่ไป..ต้องให้เหตุผลด้วย เนื่องจาก....ผมเขียนไปว่า "ผมอยู่โรงเรียนตลอด ๗ วันพัฒนาตน พัฒนางานตลอดเวลาอยู่แล้ว จึงไม่ประสงค์ที่จะไปพัฒนานอกสถานที่..." เขียนไปอย่างนี้จริงๆา
เขตจะนำผู้บริหาร ครูและบุคลากร ไปพัฒนาฯ ที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี ถามว่าพัฒนากันแบบนี้กันมากี่พันครั้งแล้ว ใช้งบประมาณของทางราชการครั้งละเป็นแสน..ถามว่าถ้าทุกเขตทำกันแต่แบบนี้ มันจึงเป็นเรื่องที่สอดรับกับผลสัมฤทธิ์ของเด็กไทยใช่หรือไม่ ใช้งบเยอะ พัฒนาบ่อย แต่ไม่เกี่ยวกับนักเรียนเลย... ก็ยังทำกันอยู่ได้
ผมไม่เชื่อหรอก..ว่าไปศึกษาดูงาน หรือเชิญวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิไปให้ความรู้ที่เกาะเต่า ถ้าจะทำเช่นนั้น จัดกันที่เขตฯ พัฒนากันจริงๆไม่ต้องเหนื่อย ประหยัดและได้ความรู้มากมาย..ไม่ดีกว่าหรือ
เมื่อไหร่จะพอเพียงกันเสียที จัดเลี้ยงเกษียณอายุราชการกันแบบง่ายๆแต่งดงาม ไม่ต้องทำโครงการบังหน้า สงสารเด็กตาดำๆ ที่ยังอ่านไม่ออกนับแสนคน ..ผมจึงคิดว่า คอรับชั่นเชิงนโยบาย(ที่จะพัฒนาคน) ของการศึกษาในวันนี้ เป็นเรื่องที่หวังดี แต่ประสงค์ร้าย..อย่างชัดเจน
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๑๘ สิงหาคม ๒๕๕๗
จัดไปแบบนี้ทั่วประเทศเลย
มิน่าผู้บริหารไปสุราษฯกันหลายจังหวัด
555
อยากให้คนจะเกษียณของเราช่วยกันแนะนำแนวทางที่ควรทำให้กับระบบบ้างนะคะ ท่านเหล่านั้น (ที่มีคุณภาพขน่าจะมีไม่น้อยนะคะ) น่าจะอยากส่งความรู้ ความสามารถตัวเองต่อ การใช้งบประมาณแบบนี้เขาไม่มีการประเมินความคุ้มค่าคุ้มทุนกันบ้างเลยหรือนะคะ น่าแปลกใจจริงๆระบบบ้านเรานี่
"เขตจะนำผู้บริหาร ครูและบุคลากร ไปพัฒนาฯ ที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี ถามว่าพัฒนากันแบบนี้กันมากี่พันครั้งแล้ว ใช้งบประมาณของทางราชการครั้งละเป็นแสน..ถามว่าถ้าทุกเขตทำกันแต่แบบนี้ มันจึงเป็นเรื่องที่สอดรับกับผลสัมฤทธิ์ของเด็กไทยใช่หรือไม่ ใช้งบเยอะ พัฒนาบ่อย แต่ไม่เกี่ยวกับนักเรียนเลย... ก็ยังทำกันอยู่ได้" สมัยผมอยู่ที่ตราดเห็นบ่อยกล่มดูงานที่นักการเมืองชอบจัดพาไปส่วนใหญ่คือเที่ยวนั้นเอง ไม่ทราบใครเลียนแบบใคร? มันเป็นกรรมของประเทศที่มีพลเมืองเห็นแก่ประโยชน์ตัว มากกว่าส่วนรวมจนคิดไม่เป็นใช่หรือไม่ครับอาจารย์
เป็นโรคติดต่อที่ระบาดหนักในแวดวงการศึกษามานาน และก็จะระบาดต่อไป ตราบใดที่เจ้านายเหนือหัวโรงเรียนยังมีค่านิยมแบบเก่าๆ เหน่ื่อยใจครับเรื่องนี้
เรื่องของเรื่อง มาจากหน่วยเหนือมีงบเหลือเฟือ จนใช้ไม่ทัน เราจึงถูกใช้เป็นเครื่องมือช่วยผลาญงบ นี่แหละเป็นเหตุให้ครู+ผู้บริหารกลายเป็นแพะรับบาปของสังคม
เหนื่อยตัว...สู้ตาย...แต่...เหนื่อยใจ....หมดแรง...!
ไม่ได้แวะเวียนมาทักทาย เพราะ...เหนื่อยใจ...หมดแรงใจ...ไม่อยากคิดอ่ะนะ...!
..เอางบประมาณไปผลานเล่น ... การประเมินผลคือ ..ได้ไปเที่ยว 555