วันจันทร์ที่ 6 พฤศจิกายน 2549
วันนี้ตอนเช้ามีการถ่ายวีดีโอ อบรมคอมพิวเตอร์ “โครงการพัฒนาระบบสารสนเทศ” ที่ตึก100 ปีพระศรีนครินทรา ชั้น 3 ห้องบรรยายสุพร ตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.00 น. ซึ่งผมได้เดินทางไปกับพี่เลี้ยงของผมในวันนี้นั่นก็คือ พี่วิทยา ซึ่งอุปกรณ์หลักๆ ในวันนี้จะประกอบไปด้วยคือ
1.กล้องวีดีโอMini DV
2.ขาตั้งกล้อง
3.จอมินิเตอร์(ไว้สำหรับเช็คภาพ และเสียง)
4.ชุดผลิตวีดีทัศน์เป็น DVD เคลื่อนที่
การถ่ายบรรยายถือว่าเป็นประสบการณ์ใหม่ของผมในที่ฝึกงานนี้ พี่วิทยาสอนผมตั้งแต่การวางกล้อง พี่วิทยาบอกว่า การวางกล้องนั้นถ้ามีพื้นที่ ให้วางขนานกับจอโปรเจคเตอร์ที่ผู้บรรยายใช้ อย่านำไปวางไว้กลางห้องบรรยาย เพราะว่าภาพที่ออกมาจะเป็นมุมทแยง (ในที่นี้คือจอโปรเจคเตอร์อยู่ด้านซ้ายของห้องบรรยายนะครับ) ถ้าจอโปรเจคเตอร์อยู่กลางห้องก็วางกล้องกลางห้องได้ การถ่ายบรรยายนั้นภาพหลักๆ จะจับไปที่จอโปรเจคเตอร์เป็นหลัก จะมีการซูมภาพออกมาจับผู้บรรยายแค่ตอนที่สนทนากับผู้แปลแต่แค่บางครั้งเท่านั้นครับ บางที่ 1 ชั่วโมงจะซูมออกมาครั้งนึงก็ยังมี (ผู้บรรยายเป็นชาวต่างชาติครับ) ในเมื่อกล้องจะจับไปที่จอโปรเจคเตอร์ สิ่งที่สำคัญที่สุดของการถ่ายครั้งนี้ก็คือ white balance (ก็คือทำให้แสงเหมือนกับภาพจริงๆ มากที่สุด เมื่อดูในจอมอนิเตอร์) โดยที่กล้องวีดีโอตัวนี้พี่วิทยาจะตั้ง white balance ไว้หลักๆ 2 ชุดคือ 1. ชุดที่ถ่ายบรรยากาศภายในห้อง 2. ชุดที่ไว้สำหรับจับจอโปรเจคเตอร์โดยเฉพาะ
กลับมาที่การต่อสายสัญญาณครับ การต่อสายสัญญาณนั้น เริ่มจากสายสัญญาณภาพ(สายสีเหลือง)ต่อvideo out จากกล้องเข้า video in กับเครื่องบันทึกDVD จากนั้นก็ต่อ video out จากเครื่องบันทึกDVD เข้ากับ video in ของจอมอนิเตอร์
จากนั้นมาถึงสายสัญญาณเสียงบ้างครับ เนื่องจากสายเสียงของห้องบรรยายนี้ต่อมาจากเครื่องขยายเสียงภายในห้องเรียนแล้ว ก็นำสายสัญญาณเสียงมาต่อเข้า audio in กับเครื่องบันทึกDVD ได้เลยครับ พี่วิทยาบอกว่าสาเหตุที่ไม่ใช้ไมค์โครโฟนจากตัวกล้องก็เพราะว่า เสียงที่ออกมาจะก้อง สะท้อน ฟังแล้วไม่ชัด จึงใช้สายที่ต่อจากเครื่องขยายเสียงภายในห้องบรรยายดีกว่าครับ เป็นอันว่าการต่อสายสัญญาณเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ ไม่มีอะไรยากเลย
เมื่อถ่ายบรรยายมาถึงเวลาประมาณ 12.00 น. ก็พักเที่ยงครับ และกลับมาเข้างานอีกที่นึงเวลา 13.30 น. การถ่ายก็ยังเป็นแบบเดิมกับที่กล่าวข้างต้นครับ เมื่อจบการบันทึกทุกครั้งพี่วิทยาก็สอนการผลิตออกมาเป็นDVD เลยครับ นั่นก็คือการ finalizing เมื่อเลิกบันทึกแล้วต้องทำทุกครั้งนะครับ สาเหตุที่ต้องทำเพราะว่า เพื่อที่เราจะสามารถที่จะนำแผ่นDVD ที่เราบันทึกเสร็จแล้วไปเปิดกับเครื่องเล่นDVD ได้ทุกเครื่อง และเปิดในคอมพิวเตอร์ได้ แต่ถ้าไม่ทำจะไม่สามารถเปิดในเครื่องเล่นDVD ทั่วไปได้จะเปิดได้แค่เครื่องบันทึกDVD ชนิดนี้เท่านั้นครับเมื่อบันทึกเสร็จก็เก็บของและกลับหน่วยโทรทัศน์ ซึ่งก็ตรงกับเวลาเลิกงานพอดีครับ
วันนี้มันก็เป็นประสบการณ์ใหม่ของผม วันนี้ได้คลุกคลีอยู่กับการถ่ายวีดีโอทั้งวันเลย ก็สนุกไปอีกแบบครับ เดี๋ยวผมคงต้องขอจบบันทึกแค่นี้ก่อนนะครับ เดี๋ยวต้องไปทำงานแล้วครับ
จิรอาจ สมิงชัย
ไม่มีความเห็น