นายหัว
นาย เจ้าชาย ณ เมืองห้วยแร่

​ประกายฝันในวันที่มืดมิด


ประกายฝันในวันที่มืดมิด

ผมพบตัวเองจมอยู่ในลำคลองหน้าบ้าน จมแช่อยู่เป็นเวลานาน ร่างกายไม่ขยับสั่นไหว จิตใจล่องลอยสู่ห้วงเวิ้งว้างอันไกลแสนไกล สภาพดูแล้วไม่ต่างจากซากศพหรือท่อนไม้ ไม่ใช่ว่าจะเกิดเหตุร้ายอันใดกับผม เพราะผมกระทำมันเอง ผมอยากจะแช่น้ำจมตัวให้นานๆ เพื่อว่าความเย็นฉ่ำจากลำตะคลองนี้จะแทรกซึมซับใจและช่วยบรรเทาความทุกข์ยากที่เกิดขึ้นแก่ครอบครัวผม

บ่าวเห้อ! แม่เรียกผมอีกคราหนึ่งเหมือนอย่างเคย แม่ห่วงผมอย่างกะอะไรดี ห่วงมากๆเลย จนผมไม่ได้ห่างไปไหนไกล หรือแอบไปถเลไถลก็คงหมดสิทธิ์ เขตหวงห้ามของผมคงเป็นแค่ในหมู่บ้านเท่านั้นเอง ผมยังจำได้ดีว่าแม่ใช้ให้ผมซักผ้าตั้งแต่อยู่ชั้นประถมที่ 3 จนวันนี้จบชั้นประถมที่ 6 ผมรู้ซึ้งเลยอย่างหนึ่ง คือเรื่องความสะอาดและการดูแลรักษาตัวเอง รู้ยังไง ก็ถ้าผมไปเล่นสกปรกกระโดดน้ำคลอง เสื้อผ้าผมคงเละ ผมก็ต้องซักเอง เป็นกุศโลบายที่แม่ใช้ให้ดูแลตัวเองบริการตัวเองตั้งแต่เด็กๆ ถึงผมจะโคตรเบื่อ แต่มันก็รู้สึกดีไปอีกแบบหนึ่ง

ครอบครัวของผมเป็นครอบครัวที่ยากจนข้นแค้น ไล่กันมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย มรดกที่มอบให้ลูกหลานก็คือ ความยากจนนี่แหละ ดูที่ท่าแล้วผมคงต้องรับมรดกเป็นทายาทหมื่นล้านความยากจน มันเท่ให้ตายสิพับผ่า

ผมก็เป็นเด็กคนหนึ่งที่มีความฝันมีความทะเยอทะยานเหมือนมนุษย์เด็กทั่วๆไป มนุษย์เด็กเข้าใจได้ว่าคือจะมีสมอง มีจินตนาการที่โลดล้ำ อยากกินอยากเที่ยว อยากมีคนเอาใจใส่ อยากมีคนรับฟัง อยากได้โน้นอยากได้นี่อยากได้นั่น อยากๆแล้วก็อยาก ฝันของผมนะเหรอ ดูท่าแล้วมันเป็นฝันกลางวันซะมากกว่า พูดตรงเข้าไปอีกเป็นฝันร้ายจะถูกต้องกว่า แต่ผมก็ไม่เคยคิดที่จะหยุดฝัน เพราะความสุขที่ผมมีอย่างเดียว ก็คือ ความฝัน ฝันของผมที่แม้แต่ความยากจนหรือพลังใดๆจะมาพรากจากผมไม่ได้

ผมฝันจะเรียนต่อมัธยม!!!

พูดแล้ว ฝันแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นคงเป็นภาพเลือนรางที่อาจจะมองเห็นได้ คงเป็นเรื่องการเข็นครกขึ้นภูเขาเป็นแน่แท้ แม่คงไม่มีปัญญาจะส่งผมเรียนหรอก พ่อก็แค่คนกรีดยางจนๆคนหนึ่ง จะเอาเงินทองที่ไหนกันมาส่งผมเล่าเรียนได้ ดูแล้วไม่มีทาง จะเรียนมัธยมในตัวอำเภอค่าใช้จ่ายก็สูงลิบ พูดแล้วก็เหนื่อย กะไอ้แค่เรื่องปากเรื่องท้องแต่ละวันบ้านเราก็อดมื้อกินมื้อจะแย่อยู่แล้ว ฝันดูริบหรี่ ผมเศร้าเป็นหมาคอตก

ทุกครั้งที่ผมท้อ ผมจะกระโดดลงคลองไปแช่น้ำ ผมคิดว่าผมจะแบกเอาความยากจนและความทุกข์ทนของครอบครัวลงไปด้วย ลงไปชำระล้างให้หมดจด ให้มันไหลละลายหายไปกับลำตะคลองแห่งนี้ เป็นคติของผมที่ผมย้ำกับตัวเองเสมอ แม้ว่าปัญหาจะมีมากมายเพียงใด ยังไงก็ต้องสู้ต้องชน เราก็แค่คนเล็กๆคนหนึ่งในโลกอันกว้างใหญ่บูดเบี้ยวใบนี้ จะไปแบกความทุกข์โศกเศร้าจะไปแบกให้มันบ้าตายสติแตกไปทำไม จะไปพึ่งน้ำกระท่อมยาบ้ายาอีไปทำไม คิดแล้วผมว่ามันโง่งมเข้าไปใหญ่มันโคตรสิ้นคิดสมองกลวง

ผมยังจำได้ในวันที่ผมใกล้จบชั้นประถมที่ 6 มันเป็นช่วงยามเย็นอัสดง เป็นเวลาที่ความร้อนแรงของแสงที่สาดส่องมาทั้งวันอ่อนตัวลงแล้ว เป็นกิจวัตรเดิมๆที่หมุนเวียนให้ต้องกระทำทั้งธรรมชาติและครอบครัวผม ที่มีดวงอาทิตย์ขึ้นแล้วก็ตก ครอบครัวผมก็เหมือนกัน เข้ากรีดยางพาวัวออกไปล่ามในทุ่ง ยามเย็นก็พาเข้าคอก วันนั้นแม่ลากวัวเข้าคอกอย่างเคยทุกๆวัน จัดแจงก่อไฟใส่หญ้าตักน้ำให้วัวตัวโตกิน วัวตัวนี้เป็นทรัพย์สินใหญ่ของบ้านเรารองจากสวนยาง เราจึงรักและดูแลมันเสมอมา ผมเดินเข้าไปหาแม่ แล้วพูดกับแม่ “ แม่ครับบ่าวจะจบ ป. 6 แล้ว บ่าวอยากเรียนต่อครับแม่ บ่าวจะเรียนต่อได้ม้ายครับ” ในหัวอกความเป็นแม่ก็รักลูกเสมอ แม่ยิ้มออกมา แต่สายตาช่างดูเศร้าพิกล แม่พูดออกมาจนผมฟังแล้วยิ่งสะเทือนใจ “ เรามันจน จะส่งเรียนส่งอะไรมันลำบากบ่าวเห้อ เราจะหาเงินทองที่ไหนได้เหรอ พ่อเอ็งกรีดยางทำงานสารพัดได้มาวันละไม่กี่ร้อยบาท ไม่มีเงินเดือนอย่างใครเขา เราจะทำอย่างไรได้ ลำพังมีข้าวกินในแต่ละวันมันก็ดีเท่าใดแล้ว” ผมคอตกน้ำตาแทบไหล จนมีเสียงสวรรค์ที่แม่พูดออกมา ผมแทบจะกระโดดโลดเต้น แต่ก็หยุดไว้ เพราะไม่งั้นแล้ววัวตัวโตคงขวิดไส้แตกเป็นแน่เลย “ แม่จะหาวิธีดู ได้ข่าวว่ามีโรงเรียนขยายโอกาสชั้นมัธยม 1-3 อีกตำบลถัดไป ให้ได้เรียนไปก่อนแล้วกัน แม่จะพยายามขอช่วยลุงกำนันญาติเอ็งให้ไปถามรายละเอียดูให้ ให้ได้เรียนไปก่อน ต่อไปในชั้นมัธยมปลายก็ค่อยว่ากันอีกที” จนแล้วจนรอดผมผมก็เรียนจบมัธยมตั้นชั้นปี 3

พอจะเข้าช่วงมัธยมปลายครอบคัวของผมมีรายได้มีอันจะกินเพิ่มขึ้น จากราคายางพาราและวัวที่ออกลูกหลานเป็นครึ่งโหล ขายไปๆขายวัวส่งผมเรียน ผมก็ได้เรียนต่อมัธยมปลาย ผมคิดนะว่าถ้าผมหยุดฝันและหมดหวัง ผมคงไม่ได้เรียนต่อแน่ๆ ถ้าคิดไปอย่างที่ชาวบ้านตาสีตาสาคิดกันชีวิตคงจบเอวัง พูดไปก็น่าคิดนะ ว่าเรียนไปก็เท่านั้น ตายไปก็พาอะไรไปไม่ได้ ผมคิดว่าเค้าคงไม่เข้าใจ แต่จะไปบอกไปห้ามไม่ให้เค้าคิดเข้าเชื่อคงไม่ได้ เมื่อมองมาดูครอบครัวผมในหมู่บ้านที่อยู่นี่ มองดูครอบครัวและตระกูลผม ญาติพี่น้องฝ่ายพ่อฝ่ายแม่ไม่มีใครเลยที่ร่ำเรียนกันสักคน บ้างก็กรีดยาง บ้างก็ออกทะเลออกเรือประมง วัยรุ่นหน่อยก็ติดยากันงอมแงมหรือไม่ก็แต่งงานแต่งการกันตั้งแต่อายุน้อยๆ14-15 ปี ผมก็สงสัยว่าทำไมเค้าคิดกันแบบนั้น กว่าจะเข้าใจได้ก็นานพอสมควร เพราะอะไรนะหรือ เพราะเป็นสิ่งที่เค้าเชื่อเค้าศรัทธากันไง เป็นคุณค่าที่เค้ายึดถือกัน เป็นการให้คุณค่าที่เค้าให้กัน โดยยึดถือเรื่องเงินๆทองเป็นหลัก มีเงินมีทองเรื่องอื่นก็ไม่เป็นไรแล้ว เรื่องเรียนจะเรียนไปทำไมก็มีเงินแล้ว เรียนไปก็ไปหาเงิน ไม่ต้องเรียนดีกว่า ทำงานๆทำงานไปให้ได้เงินมากๆให้เป็นเศรษฐี ให้มีบ้านใหญ่ๆโตๆ มีรถขับหรูๆ มีที่ดินกว้างใหญ่ไพศาล คนจะนับหน้าถือตา พอผ่านไปสักพักก็ลงสมัครผู้ใหญ่บ้านหรือ อบต. นี่เป็นความคิดของชาวบ้าน คิดแบบบ้านๆ ก็ว่าไปห้ามเค้าคิดคงไม่ได้ ไปเถียงดูสิ มีหวังโดนถีบ

ผมตั้งปณิธานไว้ว่า ผมจะเป็นคนแรกในตระกูลและนามสกุลนี้ จะเรียนจบปริญญาตรีให้ได้ แม้ว่ามันจะยากเย็นแสนเข็ญอย่างไรผมก็จะเรียนจบให้ได้เลย ในช่วงที่อยู่ชั้นมัธยมปลาย เพื่อนร่วมรุ่นหลายคนโดนไล่ออกหลายคนมาก เพราะมีเรื่องชกต่อยกัน หรือไม่ก็เรื่องเหล้าเรื่องยา แม่บอกผมเสมอว่า “ ตั้งแต่เล็กๆจนใหญ่ ที่แม่เรียกแม่ถามบ่อย ไม่ใช่อะไร ก็แม่เป็นห่วง กลัวว่าลูกจะไปกินเหล้าเมายา กลัวว่าลูกจะตามเพื่อนและเสียผู้เสียคน แม่จึงได้ห่วงไงเล่า” ผมจึงพยายามฝืนอารมณ์ตัวเองตลอดเวลา ในหลายๆช่วงเวลาที่อยู่ในโรงเรียนเพื่อนก็พาหนีเรียนหนีเที่ยว ออกไปซิ่งรถ ในบางคราก็แอบหนีออกไปแทงสนุกเกอร์ มันก็โชคดีแท้เหลือเกิน ที่ไม่เคยโดนฝ่ายปกครองตามจับได้เลย ถ้าโดนจับได้ผมคงเสียใจหนัก ยิ่งกว่าเสียอีกถ้าเป็นแบบนั้นแม่คงทุกข์ระทมหนักแน่เชียว

กว่าจะจบมัธยมปลายได้ช่างยากลำบากแสนเข็ญ แต่ก็จบมาได้ด้วยดี เป้าหมายต่อไปคือการเข้าเรียนต่อมหาลัย ผมตั้งธงไว้ในใจอีกรอบจากหลายๆรอบที่ผ่านมา ผมและสมัครพรรคพวกจะพร้อมใจไปเรียนรามคำแหง เรียนไปทำงานไป แม่ก็ไม่ลำบากลำบนส่งผมเรียน ไปอยู่เมืองฟ้าเมืองกรุง วันหนึ่งจบมาได้มีงานการทำ หวังไว้ว่าจะดูแลแม่ได้ดีต่อไป

มันเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิตวัยรุ่น เมื่อจบมัธยมปลาย เพื่อนผมในห้องหลายๆคนทีเดียวที่ทยอยกันแต่งงาน หนึ่งงาน สองงาน สามงาน สี่งาน จนถึงแปดงานที่ผมไปหมด ดูเขามีความสุขหน้าตายิ้มแย้มพร้อมที่สร้างครอบครัวใหม่ มันก็ดีนะ แต่ผมคงไม่รีบร้อน ตั้งใจไว้ว่าเรียนให้จบก่อนแล้วจะหาคู่ครอง ก็ไม่รู้ว่าใครจะเอาเราบ้าง น่าคิดนะครับ

ระหว่างช่วงรอเวลาที่จะขึ้นไปเรียนรามคำแหง ผมมีเวลาว่าง 3 เดือน ผมจึงเดินหน้าหาหน่อกล้วยตามชายป่าชายเขาแถวบ้านมาปลูกรอบๆบ้าน ปลูกตามตลิ่งคลอง ปลูกตามคูน้ำ ปลูกตามริมถนนทางเข้าหมู่บ้าน นึกๆดูมันก็ขำดี คนมองเราว่าคิดเหมือนดาบยิ้มนักปลูกต้นไม้ ไม่ใช่เลย ผมคิดเองทำเอง ก็แค่คิดตรงกันเท่านั้น คนในหมู่บ้านหาว่าผมบ้า ใครๆก็พูดแล้วออกอาการขำ ก็ดูสิ ในหมู่บ้านเลี้ยงวัวเลี้ยงควายไว้เพียบเลย มันจะโตกันกี่ต้นเชียว ไม่โตไม่เป็นผลอะไร ไร้เหตุผลเสียเวลาล่ำเวลา ผมก็ปลูกๆๆต่อไป ไม่ใช่อะไรก็ผมชอบกล้วย และมีเวลาว่างเยอะ ก็ลองทำอะไรตามที่ใจชอบดู ประเดี่ยวไปอยู่กรุงเทพไปร่ำไปเรียนคงไม่มีเวลาได้ทำได้คิดอะไรแล้ว

ผมแอบได้ยินแม่คุยกับน้าสาว แม่เป็นห่วงผมมาก ห่วงว่าผมไปกรุงเทพแล้วจะไปหลงแสงสีจนเสียผู้เสียคน ยิ่งน้าสาวมาเล่าให้แม่ฟังว่าหลานชายแกเรียนไป 8 ปีกว่า ยังไม่จบกลับบ้านมาเลย และลูกชายของป้าจิที่ปากซอยหน้าหมู่บ้าน เรียนไป 3 ปี ติดยางอมแงม ทั้งๆที่แต่ก่อนไม่เคยกินเหล้าสูบบุหรี่เลย หายไปนานไม่กลับบ้านมาเลย ไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไร ครอบครัวก็ทุกข์ใจเหลือเกิน ผมดูหน้าแม่สีหน้าเป็นกังวล

1 เดือน ก่อนที่จะไปเรียนรามคำแหง แม่ตัดสินใจบอกผม ว่าให้ผมไปสอบเอ็นทรานส์ดูสักที เผื่อว่าจะได้มหาลัยใกล้ๆบ้านเรา ให้อยู่แถวหาดใหญ่ นคร สงขลา สุราษฎร์ก็ยังดี เราคนสงขลาอยู่ใกล้ๆไปมาหาสู่ได้ ไม่ต้องให้คิดถึงกันจนเหงาหงอย ผมก็เลยถามแม่ “ แม่มีเงินจะส่งผมเรียนมหาลัยเหรอแม่ ค่าใช้จ่ายเยอะเลยนะ สอบมหาลัยใกล้บ้านเราได้คงต้องใช้คะแนนสูง จะสอบได้เปล่าก็ไม่รู้ แล้วถ้าผมสอบได้ละแม่ 55 ”

“ แม่จะขายวัวส่งแกเรียนให้หมดคอกเลย ป่ายางสวนยางแม่จะบอกให้พ่อเอ็งสงเคราะห์โค่นยางเสีย ขายไม้ยางไปแล้วปลูกใหม่ เงินที่ได้มาคงส่งแกเรียนได้จนจบมหาลัย” ผมอึ้งกับคำแม่กล่าว แม่คงห่วงผมมาก ไม่อยากให้ผมไปไหนไกล อยากให้อยู่ใกล้ๆ เอาไม่ให้ไกลไปจากสงขลาก็ได้แล้ว จะได้ฝากปลาเค็มกับข้าวเหนียวหน้ากระทิไปให้ได้ก็ยังดี มันก็ของโปรดผมไงแม่ทราบดี

ผมมีแรงฮึดขึ้นมาทันที แรกเริ่มเดิมทีคงคิดว่าต้องไปเรียนรามคำแหงเป็นแน่แท้แล้ว มาแบบนี้ก็ลองดูสักตั้ง 1 เดือนพอดิบพอดี ก่อนสอบเอ็นทรานส์ อ่านหนังสือให้มันตาแตกกันไปเลย รอประกาศผลสอบอีกแปปนึง ถ้าได้ไม่ได้ยังไงในเวลาอันใกล้นี้ รามคำแหงยังรอเราอยู่ดี มันไม่มีอะไรจะเสีย ก็ลองสู้สักตั้งนึง

สอบผ่านไปแบบมึนๆจนถึงวันประกาศผลสอบเอ็นทรานส์ ผลสอบได้คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรต สงขลา ( ม.ทักษิณ จังหวัดสงขลาในปัจจุบัน) แม่ดีใจมาก ผมก็ดีใจ ครอบครัวก็ดีใจ วันนี้ผมสอบเข้ามหาลัยได้แล้ว เป็นวันหนึ่งที่ผมทำสำเร็จ ให้มันรู้กันไปเลยว่าตระกูลเรามีคนเรียนจบปริญญาแล้วโว้ย ผมทำได้แล้ว

ขณะที่ความดีใจมันล้นปรี่ออกมา ผมลองคิดใคร่ครวญถามตัวเอง ถ้าวันนั้นในอดีตผมติดยาหล่ะ ถ้าวันนั้นในอดีตผมขี้เกียจ ถ้าวันนั้นในอดีตผมชั่วผมไม่ดีผมเป็นอันธพาล ผมจะมีวันนี้ได้มั้ย

มันเป็นเรื่องเก่าๆภาพเก่าๆภาพเล่าความทรงจำกับวัยวันเก่าๆของผมเมื่อหลายสิบปีก่อนที่ผ่านมา จนวันนี้ผมมีงานการทำที่ดี มีครอบครัว มีลูกๆที่น่ารัก มีคนนับหน้าถือตา มันเพราะอะไรนะหรือ ที่ผมมีวันนี้ได้เพราะอะไร? เพราะอะไรที่ผมไม่ยอมจำนนไม่ยอมจมอยู่กับความมืดมิดมืดดำที่แฝงอยู่ ไม่ว่าจะมาในรูปของความยากจน ไม่ว่าจะมาในรูปของอวิชชาต่างๆ มันก็ผ่านพ้นฝ่าฟันมาได้หมด มันเพราะอะไร? เพราะการที่ผมไม่เคยหยุดคิดหยุดฝัน ทำทุกอย่างให้เต็มที่ มันเป็นพลังงานที่ยิ่งใหญ่ ดีที่สุดที่พระเจ้าประทานให้มา และมันก็สามารถชนะทุกสิ่งทุกอย่างได้ วันนี้ผมพิสูจน์มาแล้ว ว่าทฤษฏีอย่าหยุดฝันมันใช้ได้จริง

ครับๆลืมไปเลยลืมบอกไป มีอีกอย่างที่ผมทำสำเร็จ ก็จนถึงวันนี้ตั้งแต่ปากซอยยันท้ายซอย รวมไปถึงหน้าบ้าน ริมคลอง กล้วยที่ผมปลูกไว้ตั้งแต่สมัยวัยรุ่น บัดนี้ขึ้นพรึบเต็มเลยครับ เมื่อวานแม่ยังโทรมาบอกเลย ว่าเซียนนกกรงหัวจุกและร้านกล้วยทอดทั่วตำบลมาสั่งจองจนคิวยาวเลย อาทิตย์หน้าคงต้องพาหลานไปเยี่ยมยายแล้วซิ นึกถึงภาพกล้วยบวชชี ปลาเค็มทอด ข้าวเหนียวหน้ากระทิ น้ำลายไหลกันเลยทีเดียว

.................................................................................................................................................................................

(เรื่องราวที่กล่าวมา เป็นการบันทึกประสบการณ์และเรื่องเล่าที่มาจากเรื่องจริงของบุคคลคนหนึ่งที่ไม่ประสงค์ออกนาม และผู้เขียนได้เพิ่มเติมสอดแทรกเนื้อหา ข้อคิดเพื่อให้งานเขียนสมบูรณ์ยิ่งขึ้น)

ด้วยมิตรภาพและรอยยิ้มไร้รส..ที่ขอมอบให้ท่าน

เจ้าชาย.

8//7/57

หมายเลขบันทึก: 573269เขียนเมื่อ 26 กรกฎาคม 2014 15:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 26 กรกฎาคม 2014 15:35 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท