วันที่ 7 มิถุนายน 2557
ดิฉัน ชวนสามี ลูกชายคนที่สอง และพี่สาวไปเยี่ยมแม่ที่นครนายกกัน ช่วงนี้พี่สาวพอมีเวลาเลยตั้งใจจะรับแม่มาอยู่ที่กรุงเทพฯ สักพัก เพื่อให้น้องสาวและคนดูแลแม่ได้พักจากการดูแลผู้สูงอายุไปทำภารกิจอื่นบ้าง จึงนัดน้องชายคนเล็กให้เอารถตู้ไปรับแม่ที่บ้านด้วย ลูกชายคนที่สองเพิ่งกลับจากอเมริกามาไม่นาน ยังไม่ชินกับการขับรถที่บ้านเรา เลยถือโอกาสนี้ซ้อมมือขับรถไปบ้านยายเอง
เราออกจากบ้านที่กรุงเทพฯ ตอนสายๆ หลังกินอาหารเช้าแล้ว การเดินทางสะดวกเหมือนทุกครั้ง
เราใช้เส้นทางกาญจนาภิเษกไปเข้าถนนเลียบคลองรังสิต-นครนายก
ระหว่างทางยังเห็นดอกหางนกยูงสีสดใสสวยงามเป็นระยะ เมื่อใกล้ตัวเมืองนครนายกและระหว่างทางจากดงละครไปที่บ้านแม่เห็นรังนกกระจาบมากมายอยู่บนต้นไม้ริมถนน
แม่ดูตัวเล็กลง แต่แข็งแรง ลุกขึ้นนั่งเองได้ คุยรู้เรื่องบ้างหลงบ้าง เมื่อชวนไปกรุงเทพฯ แม่รีบตกลงบอกว่าไปแล้วเรียกหาคนดูแลให้มาจัดข้าวของให้
อากาศที่บ้านแม่ไม่ร้อนมาก ลมพัดพอสบาย น้องสาวซื้อปลาดุกท้องนาเอาไว้ เราจึงทำแกงเผ็ดปลาดุกใส่กล้วยดิบ และปลาดุกย่างให้ลูกชายที่กำลังอยากกินพอดี น้ำแกงหวานจากกะทิที่ขูดและคั้นสดๆ ไม่ต้องใส่น้ำตาลเลย เนื้อปลาในช่วงนี้ค่อนข้างเหนียวต้องเคี่ยวนานหน่อย ปลาดุกที่ย่างก็มีไข่เต็มท้อง
แกงเผ็ดปลาดุกใส่กล้วยดิบ
ปลาดุกย่างร้อนๆ
อิ่มจากอาหารกลางวันเราก็เข้าสวนเหมือนเคย ทิวทัศน์ท้องทุ่งนาที่ยังไม่มีต้นข้าวก็สวยงามไปอีกแบบ เสียงนกร้องเซ็งแซ่ มีนกตัวใหญ่ๆ บินผ่านหัวไป น้องสาวบอกว่าเป็นนกปากห่าง ถ่ายรูปฝูงนกในทุ่งนาได้ แต่ไม่ชัดเพราะอยู่ระยะไกล
เห็นทิวเขาอยู่ไกลๆ ภาพชินตาตั้งแต่เป็นเด็ก
ในสวนมีลมพัดแรงจนรังนกกระจาบแกว่งไกว ลูกชายอยากได้รังนกกระจาบเอาไปฝากเพื่อนที่จะเอาไว้ในพิพิธภัณฑ์ โชคช่วยเราเจอรังนกร่วงอยู่ใต้ต้นมะขามเทศ 2 รัง เลยได้เก็บเอามา
รังนกกระจาบบนต้นมะขามเทศ ส่วนที่หญ้ายังมีสีเขียวๆ เป็นส่วนที่นกทำการซ่อมแซมต่อเติมรังเก่า
รังรูปร่างแบบนี้น้องสาวบอกว่าเป็นรังของนกตัวผู้ ถ้ามีกระเปาะเป็นรังของนกตัวเมีย (วางไข่ได้)
เราตัดกล้วยน้ำว้าได้ 3 เครือ แซะหน่อไม้ได้หลายหน่อ ส่วนมะพร้าวน้ำหอม ช่วงนี้มีแต่ลูกที่แก่ไปและอ่อนไป
กล้วยเครือนี้สุกคาต้น
หน่อไม้ เราเขี่ยใบใผ่ออกก็จะเห็นหน่อไม้ที่เพิ่งแทงขึ้นมา
บ่ายแก่ๆ น้องสาวเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ให้แม่ เราก็เอาแม่นั่งรถเข็นออกมาขึ้นรถตู้ของน้องชาย แม่มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส เมื่อถามว่าจะไปไหน ก็บอกว่าจะไปต่างประเทศ
แม่ (อายุเกิน 100 ปีแล้ว) นั่งบนรถตู้
เราออกเดินทางจากบ้านแม่มุ่งหน้ากรุงเทพฯ ดิฉันทำหน้าที่ขับรถเพราะลูกชายขอหลับ เรามุ่งหน้าไปรังสิตไปขึ้นทางด่วนที่ทางไปปทุมธานี ผ่านเมืองทองธานีไปลงทางด่วนที่ถนนงามวงศ์วาน ระหว่างที่อยู่บนทางด่วนฝนตกนักมากจนแทบมองไม่เห็นทาง แต่ก็เพียงครู่เดียว ไปถึงบ้านพี่สาวฝนก็ซาแล้ว
พี่สาวเล่าว่าแม่นั่งคุยมาตลอดทาง ไม่บ่นเวียนหัว แต่เมื่อถึงแถวคลองห้าบ่นเมื่อยเอวเจ็บเอวบ้าง เมื่อมาถึงบ้านพี่สาวเห็นลูกหลานอยู่กันหลายคน แม่ก็บอกว่าไม่กลับบ้าน (ที่นครนายก) แล้ว อยู่ที่นี่มีหมู่ (เพื่อน) มาก แม่คงเหนื่อยที่นั่งรถนานจึงนอนหลับไปพักใหญ่ ตื่นขึ้นมากินข้าวได้ แถมยังกินทุเรียนไปด้วย
เราทำอาหารเย็นกิน ต้มหน่อไม้ที่แซะมาจากสวนใส่กระดูกหมู น้ำพริกผักสด และกับข้าวที่พี่สาวทำติดบ้านไว้
วัลลา ตันตโยทัย
บันทึกเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2557
...ด้วยความชื่นชม มากๆค่ะ...ท่านอายุยืน สุขภาพแข็งแรงมากนะคะ
คุณยายดูสดชื่นมากเลยนะคะ
รังนกกระจาบเยอะจังค่ะ