การทำงานเปรียบเสมือนเป็นการปฏิบัติธรรมไปในตัว
การทำงานสอนให้ฉันรู้จักตัวเองให้มากขึ้น
รู้ตัวว่า...ตำแหน่งงาน คือ เพียงแค่ใช้ในการทำงาน
อย่าหลงเริงในตำแหน่งและใช้อำนาจกับตำแหน่งที่ได้รับ...
การที่ฉันรู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา...การให้อภัยผู้อื่น
ไม่ว่าจะเป็นผู้มาติดต่อ ผู้บังคับบัญชาและลูกน้องของฉันเอง
การทำงานสอนให้ฉันรู้จักตัวเองว่า...ไม่มีจิตคิดอิจฉาริษยาผู้อื่น
ในขณะที่ผู้อื่นได้ดีกว่าฉัน...
การทำงานสอนให้ฉันรู้สึกยินดีกับผู้อื่น เมื่อผู้อื่นได้ดีกว่า...
การทำงานสอนให้ฉันรู้ว่า...โลกยุคใหม่ต้องมีการเปิดใจรับสิ่งใหม่ ๆ เข้ามา
การทำงานสอนให้ฉันนอกจากปฏิบัติตามระเบียบแล้ว ยังต้องรู้จักหาวิธียืดหยุ่นผ่อนปรน
การทำงานสอนให้ฉันได้รู้จักดูแลเรื่องราวต่าง ๆ ที่เป็นหน้าที่ที่ฉันรับผิดชอบ แทนผู้อื่น
การทำงานสอนให้ฉันระวังคำพูดที่จะใช้ไปในทางไม่ดีและทำให้ผู้อื่นเสียใจและเกิดทุกข์
การทำงานสอนให้ฉันอย่าได้เลือกปฏิบัติเป็นบางคน ควรปฏิบัติอย่างเสมอภาคกัน
การทำงานสอนให้ฉันรู้จักพฤติกรรมของแต่ละคนว่าเกิดมาไม่เหมือนกัน ฉันจึงต้องเข้าใจว่า
"มันเป็นเช่นนั้นเอง"...มากขึ้น
การทำงานสอนให้ฉันรับรู้ว่า...คนเราต้องอยู่กับความเป็นจริงให้มากขึ้น...
การทำงานสอนให้ฉันรู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน
การทำงานสอนให้ฉันมีกิริยาไม่ก้าวร้าวต่อผู้อื่น
การทำงานสอนให้ฉันมีจิตที่เมตตาต่อผู้อื่น
การทำงานสอนให้ฉันใช้หลักคุณธรรมเข้ามาปฏิบัติงาน
การทำงานสอนให้ฉันวางตัวเป็นกลาง ไม่เข้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
การทำงานสอนให้ฉันมีเหตุ มีผล
ฯลฯ
ดังนั้น...การทำงานเปรียบเสมือนให้ฉันได้เกิดการปฏิบัติธรรม...เพราะเรื่องราวบางเรื่องเกิดปัญหาเพื่อให้ฝึกความอดทนในตัวฉัน
ให้ฉันได้แก้ไขและผ่านพ้นมันไปให้ได้ เหมือนกับบททดสอบชีวิตของฉันเอง...เหมือนกับเพื่อให้เกิดการสะสมและสร้างบารมีของฉันเอง...
ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติเข้ามาอ่านบันทึกนี้ค่ะ
บุษยมาศ แสงเงิน
๑๑ มิถุนายน ๒๕๕๗
"การทำงานเปรียบเสมือนให้ฉันได้เกิดการปฏิบัติธรรม"... จริงครับพี่บุษ
ในที่สุด ทุกสิ่งอย่างก็เป็นธรรมะทั้งหมดครับ
ขอบคุณค่ะ คุณ ส. เรียกว่า...ตลอดชีวิตของเราเลยก็ว่าได้ที่ตั้งแต่เกิดไปจนถึงตาย...เราได้เรียนรู้เรื่องการปฏิบัติธรรม...จะมีใครคิดบ้างหรือไม่หนอ???...
ใช่เลยค่ะ คุณ ตลอดชีวิตของมนุษย์ไงค่ะ...ที่เขาบอกว่า การสร้างความดีหรือบารมี ทำให้ก็เฉพาะเมืองมนุษย์...ขอบคุณค่ะ
ขอขอบคุณสำหรับดอกไม้กำลังใจจากทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ