สหกรณ์จ่ายเงินปันผลสูงสุดเป็นผลดีที่สุดกับสมาชิกจริงหรือ


 เมื่อพูดถึงการดำเนินธุรกิจโดยทั่วไปแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ การลงทุน และทุนที่สำคัญ ในบรรดาทุนของสหกรณ์ ที่จะขาดไม่ได้เห็นจะเป็น ทุนเรือนหุ้น ที่สมาชิกผู้เป็นเจ้าของจะต้องร่วมลงทุน ตามกฎหมายกำหนดไว้ ให้สมาชิกทุกคนต้องถือหุ้นอย่างน้อยหนึ่งหุ้น ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าหุ้นขั้นต่ำในราคา 10 บาท แต่ทั้งนี้สมาชิกคนหนึ่งจะถือหุ้นได้ไม่เกินร้อยละ 20 ของหุ้นทั้งหมดที่มีในสหกรณ์ เพื่อกระจายความเป็นธรรมในการลงทุน และป้องกันผู้ที่มีเงินในอำนาจทุนมาทำลายสหกรณ์ โดยหลักการหุ้นของสหกรณ์ เป็นเพียงเงินลงทุนในการทำธุรกิจเพื่ออำนวยประโยชน์แก่สมาชิกให้ได้รับความเป็นธรรมใน โดยทำกำไรพอคุ้มทุน ไม่ได้มุ่งกำไรสูงสุดหรือการค้าหากำไรจากการลงทุน เห็นได้จากข้อบังคับสหกรณ์ได้กำหนดไว้ว่าจะจ่ายเงินปันผลก็ต่อเมื่อมีเงินส่วนเกิน หรือ กำไรสุทธิ โดยหลักการแล้วระบบเศรษฐกิจสหกรณ์จะไม่มีการรับรองการจ่ายเงินปันผลไว้ล่วงหน้า เหมือนระบบทุนนิยม ที่มีการทำธุรกิจเพื่อแสวงหากำไรมาแบ่งปันกัน ในรูปของเงินปันผล จึงมีการรับรองการจ่ายเงินปันผลล่วงหน้าให้ผู้ถือหุ้นทราบ ดังนั้นความน่าจะเป็นตามหลักการแล้ว ถึงแม้สหกรณ์จะมีกำไร เมื่อสิ้นปีบัญชีแล้ว สหกรณ์ก็ไม่สามารถจะปันผลได้ตามอำเภอใจ แต่ต้องจ่ายเงินปันผลตามที่กฎกระทรวงบัญญัติไว้ ซึ่งปัจจุบันอนุญาตให้จ่ายเงินปันผลได้ไม่เกินร้อยละ 10 ต่อปี ตามประเพณีปฏิบัติสหกรณ์ควรจะจ่ายเงินปันผลไม่เกินร้อยละของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำที่จ่ายให้กับผู้ฝากเงิน ถ้าสหกรณ์รับรองปันผลไว้สูงสุด ก็เท่ากับสหกรณ์จะต้องนำเงิน 10 % นี้ไปคิดรวมเป็นต้นทุนค่าใช้จ่ายจะทำให้กำหนดราคาดอกเบี้ยเงินกู้สูงขึ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 แน่นอน จะไม่เป็นคุณต่อสมาชิกส่วนใหญ่ ด้วยเหตุนี้ถ้ารวมตัวกันเป็นสหกรณ์เพื่อช่วยกันและกันแล้ว สมาชิกที่ดีจึงไม่ควรเรียกร้องที่จะได้เงินปันผลสูงสุด แต่ควรลดความได้เปรียบลงเพื่อช่วยเหลือสมาชิกส่วนใหญ่ที่ต้องกู้เงิน ให้ได้รับเป็นธรรมเรื่องดอกเบี้ย สมาชิกทุกคนต้องหมั่นทำธุรกิจกับสหกรณ์ หลายๆ รูปแบบ เช่น การถือหุ้น การฝากเงินอย่างสม่ำเสมอ การกู้ยืมเงิน ก็จะทำให้ทุกคนได้รับความเป็นธรรมจากการดำเนินการสหกรณ์ ดังตัวอย่าง นายกอ ถือหุ้น แต่ไม่กู้เงิน และไม่ฝากเงิน นายขอ ถือหุ้น ฝากเงิน แต่ ไม่กู้เงิน ส่วนนายคอ ถือหุ้น ฝากเงิน และกู้ยืมเงิน สหกรณ์จ่ายดอกเบี้ยเงินฝากร้อยละ 3.50 และคิดดอกเบี้ยเงินกู้ร้อยละ 6 สำหรับสมาชิกที่กู้เงิน ณ บัญชีวันสิ้นปีบัญชี สหกรณ์มีกำไร ที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี ก็จะอนุมัติจัดสรรเงิน ให้จ่ายเงินปันผลร้อยละ 6 และเงินเฉลี่ยคืนร้อยละ 2.50 สมาชิกทั้ง 3 คนจะได้รับเงินจากการจัดสรรผลประโยชน์ไม่เท่ากัน

จากตารางจะเห็นว่า นายคอสมาชิกทีทำธุรกิจกับสหกรณ์หลายรูปแบบจะได้รับเงินผลประโยชน์ตอบแทนดีกว่า นายกอและนายขอสมาชิกที่ทำธุรกิจอย่างใดอย่างหนึ่งกับสหกรณ์ เมื่อทราบเช่นนี้แล้ว สมาชิกจะเลือกตัดสินใจอุดหนุนธุรกิจกับสหกรณ์อย่างไร ถึงจะได้ประโยชน์สูงสุด

หมายเลขบันทึก: 569242เขียนเมื่อ 28 พฤษภาคม 2014 08:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 กันยายน 2014 23:24 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

...คนที่รู้ในเรื่องนี้ ก็สามารถเพิ่มเงินปันผลได้มากกว่าสมาชิกคนอื่นนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท