The more that you read,The more things you will know. The more that you learn,The more places you'll go. "ยิ่งคุณอ่านมากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งรู้มากเท่านั้น และยิ่งคุณเรียนรู้มากเท่าไหร่ คุณก็จะมีที่ให้ไปมากขึ้นเท่านั้น" ขอหยิบยกคำกล่าวของ ดร.ซุส นักเขียนชาวอเมริกัน ซึ่งมองว่าการอ่านเป็นสิ่งสำคัญ อ่านมากรู้มากเหมือนได้เดินทางท่องเที่ยวไปในโลกกว้าง การอ่านมีความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิต เพราะการอ่านเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาบุคคล ช่วยให้เกิดความงอกงามทางสติปัญญา และมีส่วนผลักดันให้สังคมเจริญก้าวหน้าไปได้เร็วขึ้น การอ่านทำให้คนฉลาด รู้จักคิด และมีโลกทัศน์กว้าง ยิ่งในปัจจุบันความเจริญทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นยุคข้อมูลข่าวสารที่ไร้พรมแดน มีความรู้ใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมายที่จะช่วยให้การดำรงชีวิตของมนุษย์สะดวกสบาย มีความปลอดภัยและมีความสุข การอ่านเป็นสิ่งสำคัญมากและเป็นกิจกรรมที่จำเป็นต้องทำอย่างสม่ำเสมอ เพราะการอ่านได้ดีหรือไม่ดี อ่านช้าหรือเร็วย่อมมีผลกระทบโดยตรงต่อประสิทธิภาพและผลสัมฤทธิ์ต่อการเป็นนักอ่านที่มีคุณภาพ (http://www.School.net.th/schoolnet/tarticle/articles_member_read.php?article_id=587) การอ่านเป็นการศึกษาด้วยตนเองให้มีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ ขณะอ่านต้องมีการจดเลคเชอร์ จดบันทึก และรู้จักการบริหารเวลา จึงจะทำให้การอ่านมีประสิทธิภาพ
การอ่านจึงเป็นทักษะที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อการศึกษาหาความรู้ และพัฒนาชีวิต เป็นสิ่งมหัศจรรย์ในชีวิตก็ว่าได้ เพราะนอกจากจะทำให้เกิดความรู้แล้วยังก่อให้เกิดความสนุกสนานเพลิดเพลิน และส่งเสริมให้มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ได้แนวคิดในการดำเนินชีวิต การอ่านจึงเป็นหัวใจของการศึกษาทุกระดับ และเป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้เรื่องต่างๆ การอ่านอย่างมีประสิทธิภาพจึงต้องอาศัยการเรียนรู้ด้วยตนเองอย่างมีหลักการ การเลคเชอร์ การจดบันทึก ตลอดจนถึงการบริหารเวลาดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น นอกจากนี้ผู้อ่านต้องมีสมาธิแน่วแน่ ตั้งใจอ่านมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน มีความอดทนต่อการอ่านสามารถอ่านได้นาน มีวิจารณญาณในการอ่าน มีความซาบซึ้งและมีอารมณ์ร่วม และการอ่านเป็นทักษะที่สามารถฝึกฝนได้ ดังที่ บัณฑิต ถิ่นคำรพ (http:// web.kku.ac.th/~bandit/Manuscpt/S_CAW.htm) ได้กล่าวไว้ว่า “ยิ่งใช้ ยิ่งชาญ ยิ่งนาน ยิ่งล้ำเลิศ"