จากการที่ทีมงานเราเห็นความทุกข์จากการเจ็บปวดในช่องปากผู้ป่วยที่มารับยาเคมีบำบัด
เราจึงหาวิธีดูแลผู้ป่วย
จึงเป็นที่มาของงานวิจัยเรื่องนี้
งานวิจัยเรื่อง
ผลการใช้แนวปฏิบัติการพยาบาลเพื
(Effect of Clinical Nursing Practice Guideline to Prevent and Relieve Oral Mucositis in Head and Neck Cancer Patients Received Chemotherapy*
สุกัญญา จันหีบ** พย.บ อุบล จ๋วงพานิช พย.ม.***
จากการที่ผู้ป่วยมารับยาเคมีบำบัด พบช่องปากอักเสบ ทีมงานเราเคยนำ evidence base ในการดูแลช่องปากในผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับยาเคมีบำบัด โดยให้ผู้ป่วยอมน้ำแข็งก่อน 5 นาที อมต่อเนื่อง 30 นาที อมทุก 2 ชั่วโมง ครั้งละ 5 นาที บ้วนปากด้วยน้ำเกลือ แปรงฟันด้วยแปรงสีฟันที่อ่อนๆนุ่ม
แต่ยังพบว่า มีช่องปากอักเสบ โดยเฉพาะผู้ป่วยมะเร็งศีรษะและลำคอ พบประมาณ ร้อยละ 70
เราจึงต้องหาแนวปฏิบัติใหม่
โดยไปหางานวิจัยใหม่ๆในกลุ่มผู้ป่วยกลุ่มนี้ว่า มีวิธีใดจะทำให้ป้องกันช่องปากอักเสบได้
พบว่า เราใช้วิธีเดิมดังที่กล่าวมาแล้ว
แต่ต้องเพิ่มเทคนิกที่ดี เราทำวิดิทัศน์วิธีแปรงฟัน วิธีอมน้ำแข็งและมีคู่มือไว้อ่าน
การแปรงฟัน แปรงโดยใช้บลาสเทคนิค
ใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของเกลือ
บ้วนปากด้วยน้ำเกลือหลังอาหารทุกครัง
ส่วนเพิ่มเติมคือ ดื่มนมหรือนมถั่วเหลือง
อมน้ำแข็งโดยให้น้ำแข็งเลื่อนไปมาในช่องปาก เพื่อให้ความเย็นกระจายไปทั่วทั้งปาก
พบว่า วิธีการแบบนี้สามารถป้องกันและลดช่องปากอักเสบได้เพิ่มขึ้นจากเดิม
บทคัดย่อ
ในปี 2553 หอผู้ป่วยเคมีบำบัด พบอัตราการเกิดช่องปากอักเสบในผู้ป่วยที่ได้รับยาเคมีบำบัด ร้อยละ 60 ในปี 2554นำผลวิจัยมาใช้ในการดูแลช่องปากผู้ป่วยที่ได้รับยาเคมีบำบัด โดยให้อมน้ำแข็ง ทุก 2 ชั่วโมงครั้งละ 5 นาที พบอัตราการเกิดช่องปากอักเสบ ร้อยละ 45.45 ซึ่งส่วนใหญ่พบในผู้ป่วยมะเร็งศีรษะและลำคอร้อยละ 70.91ทำให้ผู้ป่วยเจ็บปวดและรับประทานอาหารได้น้อย มีการศึกษา พบว่าการดูแลช่องปากอย่างถูกวิธีและให้อมน้ำแข็งก่อนให้ยาเคมีบำบัด 5 นาที อมต่อเนื่อง 30 นาที ทุก 2 ชั่วโมง โดยเคลื่อนก้อนน้ำแข็งทั่วทั้งปากและดื่มนมพร่องมันเนย เช้าเย็น สามารถป้องกันช่องปากอักเสบได้ดียิ่งขึ้น จึงต้องการศึกษาผลการใช้แนวปฏิบัติการพยาบาลเพื่อการป้องกันและบรรเทาการเกิดช่องปากอักเสบในผู้ป่วยมะเร็งศีรษะและคอที่ได้รับยาเคมีบำบัด
วัตถุประสงค์การวิจัย
เพื่อเปรียบเทียบร้อยละการเกิดช่องปากอักเสบในกลุ่มที่ได้รับการดูแลตามแนวปฏิบัติฯกับข้อมูลการเกิดช่องปากอักเสบก่อนการใช้แนวปฏิบัติฯ และศึกษาพฤติกรรมการดูแลช่องปาก
ระเบียบวิธีวิจัย
วิจัยกึ่งทดลอง กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับยาเคมีบำบัดตามเกณฑ์ที่กำหนด คำนวณได้ 33 คน เก็บข้อมูล ตุลาคม 2555– กันยายน 2556โดยพยาบาลดูแลตามแนวปฏิบัติการพยาบาลเพื่อการป้องกันและบรรเทาการเกิดช่องปากอักเสบในผู้ป่วยมะเร็งศีรษะและคอที่ได้รับยาเคมีบำบัด มีขั้นตอนคือ ประเมินช่องปากตาม WHO และให้ความรู้โดยให้ดูวิดิทัศน์เรื่อง การดูแลช่องปากฯ เช่น วิธีอมน้ำแข็ง การแปรงฟันด้วยเทคนิคบาสส์ การบริหารช่องปาก เป็นต้นและให้คู่มือการดูแลเพื่อป้องกันช่องปากไว้ให้ศึกษาและให้การพยาบาลผู้ป่วยตามแนวปฏิบัติฯและ ติดตามประเมินช่องปากทุกวัน ขณะได้รับยาเคมีบำบัดรวมทั้งประเมินพฤติกรรมการดูแลช่องปากที่บ้าน เมื่อผู้ป่วยมาตามนัดครั้งต่อไป
ผลการศึกษา
พบว่ากลุ่มที่ได้รับการดูแลตามแนวปฏิบัติฯ ไม่พบช่องปากอักเสบ ร้อยละ 83.03
สำหรับกลุ่มที่ได้รับการดูแลตามปกติไม่พบช่องปากอักเสบ ร้อยละ 54.55
จะเห็นว่า...
กลุ่มที่ได้รับการดูแลตามแนวปฏิบัติฯ อัตราการเกิดช่องปากอักเสบน้อยกว่า ร้อยละ 27.48 และการเกิดช่องปากอักเสบเกรด 1และเกรด 2ในกลุ่มที่ได้รับการดูแลตามแนวปฏิบัติฯพบร้อยละ 9.7 และ 2.42
กลุ่มที่ได้รับการดูแลตามปกติ พบร้อยละ 25 และ 20.45
จะเห็นว่าอัตราการเกิดช่องปากอักเสบทุกระดับภายหลังการดูแลตามแนวปฏิบัติฯลดลงเมื่อเทียบกับข้อมูลการเกิดช่องปากอักเสบในกลุ่มที่ได้รับการดูแลตามปกติ และพฤติกรรมการดูแลช่องปากของผู้ป่วยฯ อยู่ในระดับดีมากทั้งรายด้านและโดยรวม โดยพฤติกรรมการดูแลตนเองโดยรวม ค่าเฉลี่ย 29.35 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.08
การนำผลวิจัยไปใช้ประโยชน์จากงานประจำ
หอผู้ป่วยฯได้นำผลวิจัยไปใช้ในการดูแลผู้ป่วยต่อเนื่อง ทำให้ลดความทุกข์ทรมานจากความปวดในช่องปากรับประทานอาหารได้ดี ผู้ป่วยมารับยาได้ตามแผนการรักษาของแพทย์ได้ และมีการขยายผลการวิจัยไปใช้กับผู้ป่วยมะเร็งศีรษะและลำคอทั้งหมดภายในโรงพยาบาล รวมทั้งเผยแพร่ให้กับโรงพยาบาลอื่นที่มาศึกษาดูงานและเผยแพร่ทางเวปไซด์
บทเรียนที่ได้รับ
ผู้ป่วยฯ สามารถดูแลช่องปากได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีคู่มือและวิดิทัศน์การดูแลช่องปาก ทำให้ป้องกันการเกิดช่องปากอักเสบได้ ดังนั้นพยาบาลสามารถนำแนวปฏิบัติไปใช้ได้ง่ายและปฏิบัติได้เป็นรูปแบบเดียวกัน ซึ่งจะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตผู้ป่วยได้อีกด้วย
ปัจจัยแห่งความสำเร็จ
พยาบาลสามารถนำแนวปฏิบัติไปใช้ในการดูแลผู้ป่วยมะเร็งศีรษะและคอที่ได้รับยาเคมีบำบัดได้อย่างต่อเนื่อง และผู้ป่วยฯให้ความร่วมมือเนื่องจากสามารถปฏิบัติตามได้ง่ายและป้องกันการเกิดช่องปากอักเสบได้อย่างแท้จริง ทำให้ผู้ป่วยไม่ทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวดในช่องปาก
มีประโยชน์มากเลยครับไม่เพียงแต่คนป่วย
คนทั่วๆไปก็ปรับใช้ได้ครับพี่แก้ว
พี่แก้วสบายดีไหมครับ
สวัสดีค่ะ ดร ขจิต
ใช่ค่ะ คนธรรมดาก็นำไปใช้ได้
เวลาในปากเป็นแผล ให้บ้วนปากด้วยน้ำเกลือ
อมน้ำแข็งก็ได้
วันนี้ 31 พค 57
เขียนรายงานวิจัยฉบับเต็ม เสร็จ พร้อมส่ง 2 มิย 57
ดีใจจังทีมงานได้รางวัลปีนี้ค่ะ
ประกาศโครงการพัฒนางานประจาสู่งานวิจัยระดับประเทศ ที่ ๐๐๓/๒๕๕๗ เรื่อง ผลการตัดสินรางวัลผลงาน R2R ดีเด่น ประจาปี ๒๕๕๗
รางวัลผลงาน R2R ดีเด่น กลุ่มงานบริการระดับตติยภูมิ
ID127 ผลการใช้แนวปฏิบัติการพยาบาลเพื่อการป้องกันและบรรเทาการเกิดช่องปากอักเสบในผู้ป่วยมะเร็งศีรษะและคอที่ได้รับยาเคมีบาบัด โดย สุกัญญา จันหีบ สังกัด หอผู้ป่วยเคมีบาบัด 5จ แผนกการพยาบาลบาบัดพิเศษ งานบริการพยาบาล โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จังหวัดขอนแก่น และคณะ