ความสุข ที่ปลายจมูก
คนเราส่วนใหญ่ จะมีความเชื่อที่ว่ามีเงินทองมากยิ่งมีสุขมาก เงินบันดาลได้ทุกอย่าง ซึ่งคำนี้เป็นสิ่งที่แน่นอนโดยส่วนมากของมนุษย์เรา แต่ถ้าเราลองกลับมาดูตัวเราเองว่า ทำไมเราถึงต้องซื้อเสื้อผ้าใหม่ทุกครั้งที่เห็นร้านเสื้อผ้า ทั้งๆ ที่เราก็มีเสื้อผ้าเป็นร้อยๆ ตัวอยู่แล้ว ทำไมถึงไม่หยุดซื้อรองเท้าเสียที ทั้งๆ ที่มีรองเท้าเป็นสิบๆ บางคู่ก็แทบจะไม่ได้ใส่หรือไม่ก็ใส่ไม่กี่ครั้ง
หรือว่า...สิ่งที่เรามีแล้วนั้น ทำให้เรามีความสุขได้มากกว่าสิ่งใหม่ที่เราเพิ่งจะได้มา นั้นมันไม่ใช่เลย กลับกลายเป็น เรามักมีความสุขจากการได้มากกว่า ความสุขจากสิ่งที่มีอยู่ ที่สำคัญมีอยู่แล้วก็ยังอยากได้มาใหม่ ซึ่งพอเวลาผ่านไปของใหม่ก็จะเป็นของเก่าในที่สุด และเราก็ยังต้องการของใหม่อยู่เรื่อยๆ ไป ความสุข จากการได้สิ่งนั้นมาครอบครอง แต่เป็นทุกข์ในการรอและพยายามไขว่คว้าสิ่งนั้นให้ได้มาซึ่งเราจะหาความสุขจากสิ่งของใหม่ๆ ที่ต้องการอยู่เรื่อยๆ ได้จริงหรือ ผู้ที่พึ่งความสุขชนิดนี้ย่อมไม่รู้จักพอและพอดี และนั้นเองมันก็หมายถึงเงินที่ต้องอาศัยมันมาซื้อ สิ่งเสพเพื่อให้ความสุขชนิดนี้ จึงต้องแสวงหาเงินไม่รู้จักหยุดหย่อนในที่สุด เหนื่อย ลองคิดดูว่าเราจะต้องมีเงินเท่าใดถึงจะทำให้เรามีความสุขได้...และเมื่อไหร่ เราจะรู้จักคำว่า “พอ” และหยุดอยู่กับสิ่งที่เรามีอยู่และมีความสุขกับมัน
ชีวิตที่รู้จักพอย่อมมีความสุขกว่าชีวิตที่ดิ้นรนไม่หยุดและมีเวลาสำหรับชีวิตตัวเองได้สร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ให้กับชีวิตของตัวเองรวมถึงคนรอบข้างอีกมากมาย แทนที่จะตั้งหน้าตั้งตาหาเงินไล่ล่าซื้อความอยากอยู่ล้ำไป คุณภาพชีวิตของเราจะเจริญงอกงามมากขึ้นและมีความสุขมากขึ้นด้วย
ที่มา หนังสือความสุขอยู่ที่ปลายจมูก
ผู้เขียน พระไพศาล วิสาโล
ผู้อ่าน อาจารย์สุกัญญา สว่างนิพันธ์ สาขางานคอมพิวเตอร์ธุรกิจและวิชาชีพ
ขอบคุณครับ และหากเราได้"อยู่กับปัจจุบัน"ได้จริงเราก็จะมีความสุขได้แน่ครับ