Back to Be blogger -ประเมินสถานการณ์-ไอ้เด็กแสบ-ย่ำแย่


Back to Be blogger -ประเมินสถานการณ์-ไอ้เด็กแสบ-ย่ำแย่

ก่อนที่จะเริ่มร่ายยาว นี่มันเจ็ดโมงสี่สิบของเช้าวันศุกร์แล้วนะ

เอาน่า ขอเขียนก่อน แล้วเดี๋ยวไป

เสียงแห่งความฟุ้งซ่านเหล่านี้มันมักจะดังมาฟัดกันเล่นในหัวเสมอๆ

บางทีนั่งฟังก็เบื่อมันนะ บางทีก็สนุก แต่เมื่อไหร่ที่ไม่เห็นแล้วไปตามใจพวกมัน

ต้องใช้คำว่า ตายหล่ะหว่า หรืออาจจะสุภาพน้อยกว่านี้ 

ไอ้เด็กแสบ มันฟังดูน่ารักไป ( แก่ปูนนี้มันก็ไม่เด็กแล้วนี่หว่า ลืมไปทุกทีว่า หัวหงอกนานละ)

เวลาพูดถึง ความชั่วของตัวเองนี่ มันช่างสรรหาอะไรที่มัน ดูนิ่มนวลมากเลยนะ

แต่ช่าง.....มัน

ตื่นมาเช้านี้นั่งทบทวน เส้นทางการเขียนบันทึกของตนเอง

การเข้ามาเขียนใน G2K ก็ด้วยการให้โอกาสฝึกฝนพัฒนาจิตใจ

ครู Ka Poom ท่านให้โอกาส

ไม่ซิเริ่มเข้ามาด้วยนิสัยดื้อรั้น

ท่านสงสาร จึงให้ลองฝึกหัดการเขียนบันทึก เล่าเรื่องตนเอง

ผ่าน mail ก่อน กลับไปนั่งอ่านตอนนี้ review ชีวิตและเรื่องราวของตนเอง

ต้องบอกว่า มันเขียนอะไรของมันวะ

น้ำทั้งนั้น ไร้สาระ เอาแต่ใจตนเอง ตัวกูตัวเป้งๆ

แต่ท่านก็เมตตาอ่าน

งานเขียนของหนู สะท้อนนิสัย เอาแต่ใจตัวเอง ชัดมาก

อ่านไม่หมดหรอกค่ะ มันน่าเบื่อ

หันกลับมาใน G2K.

ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ ๆ

พอกัน ตามใจฉัน ชัดเจน

หนักเข้าไปสะท้อนอะไรอีก

ความไม่สม่ำเสมอ 

นี่ไง

มันเป็นกับทุกๆเรื่องในชีวิต

คร่ำครวญ. สร้างภาพ ตอแหล ขี้โมโหขี้น้อยใจ เรียกร้องความสนใจ ไม่รับผิดชอบ

นี่คือ ปัญหา ใหญ่มาก ที่ทำให้ต้องมาเป็นทุกวันนี้ต้องมาวิ่งแก้ไข

สถานการณ์ชีวิตเปลี่ยนไปมาก

ทั้งๆที่ถูกจับถอดความยุ่งยากซับซ้อนและความไร้สาระออกไปจากชีวิตด้วยความเมตตาของครูได้มาก

ถ้าต้องมาห่วง แต่งตัวสวย นั่งรถโก้ เต้นโชว์ ตามงานเหมือนเมื่อก่อน

ปัญหาที่เข้ามาในชีวิตตอนนี้ ไม่ถูกหันมองแน่ๆ แล้วก็จะยังมานั่งเป็นบ้ากับความคิดชั่วๆ

และการไม่ยอมรับความจริงของตนเอง

แล้วมาหันมาพยายามแก้ไขปมชีวิต ณ ตอนนี้แน่ๆ

นี่ไงที่ท่านชี้ว่า

ถ้าไม่เอามาฝึก ย่อยยับไปนานแล้ว อาจจะมีคนหมดลมเพราตรอมใจไปหลายคน

ตอนนี้เห็นละ ปัญหา แต่มันยังไม่ทุ่มเทลงแก้ เพราะใจ มันอยากหนี ทั้งๆที่ตัวมันวิ่งเข้าหา

นี่ก็อีกหล่ะ

ครูให้โจทย์นี้มาแก้ตั้งนานฺ.........เอ้ย

ไม่ยอมแก้ไข..วันนี้บอกได้แค่ สมน้ำหน้า

ประเมินสถานการณ์

ตอนนี้จัดว่า ย่ำแย่ เลวร้าย

เหมือนคนเป็นมะเร็งแล้วไม่ยอมรับ

ประมาณว่า ยอมเข้ารับการประเมินสุขภาพทุกอย่าง

ยอมให้ทำ แมโมแกรม ตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ ทำ MRI แล้วแต่อะไรที่หมอจะแนะนำ

ยอมพา กายไป แต่ใจยังต่อต้าน

แต่ขอให้ส่งผลมาที่บ้าน ไม่ขอรับทราบทุกช่องทาง ตาใจมันปิด มันเจ็บแสบจริงๆ

แล้วก็เอาซองผลการตรวจให้นอนนิ่งอยู่ตรงนั้นแหละ

แต่โรคร้ายก็ยังคง รุดหน้าไปเรื่อย

ขณะที่คนรอบข้าง พยายามช่วย บอกแนวทางสอนวิธีรักษาเยียวยา

แต่มันเหมือนกับ ใจ นี้ ปิดกั้น ตนเองออกจากความจริง

ณ ตอนนี้ ใจก็ยัง ถามตนเองอยู่

เมื่อไหร่จะยอมรับความจริง

ทางออกมันมี

เดินไปสักที

จะมามัวนั่งทำตัว ห่วยๆ แย่ๆ ถ่วงๆเพื่ออะไร

ประโยชน์ตนไม่มี ประโยชน์ผู้อื่นไม่บังเกิด โอ้ย

เขียนบันทึกจะจบแต่ใจยังแน่นปึ๊ก

คือคำตอบว่า ไม่เสร็จ

เหมือนกดนวดรักษา กดลงไปกล้ามเนื้อยังแน่น

ถ้าตรงนี้ยังไม่อ่อนก็จะยังแก้ tigger point. ไม่ได้ เอาไงดี

เสียงแม่ออกดังขึ้น "ออยเส้น"

ไล่เรียงนวดเบาๆรอบๆจุดเชื่อมโยง มันคือ อะไรในชีวิต คำตอบคือ หน้าที่ ข้อวัตร สิ่งที่ปฏิบัติเป็นประจำ

แนวทางที่ครูบาอาจารย์ชี้ไว้

สรุป ถอนหายใจ แล้วก็ หายใจ

คือทางออก แล้วมีอะไรที่ต้องทำก็ทำไป 

หมายเลขบันทึก: 566695เขียนเมื่อ 25 เมษายน 2014 08:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 เมษายน 2014 08:29 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท