๑๘ - ๒๐ เมษายน ผมไม่ได้ไปโรงเรียนเลยสักวัน ต้องไปเก็บตัว ถูกกักบริเวณโดยคำสั่งของเขตพื้นที่ต้นสังกัด ๒ คืนกับ ๓ วัน ได้นอนคืนละ ๕ ชั่วโมง ทำงานแข่งกับเวลาและต้องใช้สติปัญญา บวกกับความรอบคอบเป็นที่สุด
ไปทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการออกข้อสอบ คัดเลือกข้าราชการครู ตำแหน่งครูผู้ช่วย โดยเขตฯมอบให้ผู้บริหารโรงเรียนเพียง ๔ คน ปฏิบัติหน้าที่ที่รับผิดชอบค่อนข้างหนักรู้ตัวว่าต้องปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวเพียงวันเดียว เตรียมตัวเกือบไม่ทันเขาบอกว่าลับมากเดินทางถึงเขต ต่อด้วยรถตู้ของเขต ตอนแรกคิดว่าเขาจะพาผมไปออกข้อสอบในโรงแรมหรือรีสอร์ท ปรากฎว่าเป็นโรงเรียน แต่เป็นโรงเรียนที่พร้อมและมีสิ่งแวดล้อมที่สวยงามมาก
ผมออกข้อสอบวิชาความรู้ความสามารถทั่วไป ซึ่งมีระเบียบกฎหมายและความรอบรู้เกี่ยวกับจรรยาบรรณวิชาชีพและพื้นฐานภาษาไทย ตลอดจนวิชาพื้นฐานการศึกษาเกี่ยวกับวิจัยและนวัตกรรมการศึกษา
การออกข้อสอบครั้งนี้ เขตให้ออกเยอะและง่ายไว้ก่อน โดยมีคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญคัดกรองอีกครั้งหนึ่ง คัดเลือกเสร็จแล้วจึงส่งพิมพ์ เมื่อพิมพ์เสร็จแล้วก็นำมาตรวจทาน ปรับปรุงแก้ไขแล้วส่งถ่ายเอกสารตามจำนวนของห้องสอบและผู้เข้าสอบ
เจ้าหน้าที่ของเขต นำวัสดุอุปกรณ์ที่ต้องใช้ออกข้อสอบมาอย่างครบครัน มากมายจริงๆ ทั้งคอมพิวเตอร์ เครื่องปริ๊น กระดาษฯลฯ รวมทั้งเครื่องถ่ายเอกสารอย่างดี ที่เช่ามาจากร้านในเมือง เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องต้องดูแลทั้งระบบครบวงจร แทบไม่ได้พักผ่อน ออกไปไหนไม่ได้ โทรศัพท์ถูกเก็บโดยประธาน(รองฯผอ.เขต) ฝ่ายอาหารเครื่องดื่ม ทำหน้าที่ไม่มีบกพร่อง
ผมถามถึงค่าใช้จ่าย ที่ใช้ออกข้อสอบครั้งนี้ ตั้งแต่ต้นจนจบจนถึงวันที่ประกาศผลการสอบ เขตบอกว่าถ้ารวมการตรวจข้อสอบด้วยคอมพิวเตอร์ด้วยแล้ว ทั้งหมดต้องใช้เงินมากกว่า ๒ แสน ในการนี้..เป็นที่รู้กันว่าถ้าจัดการออกข้อสอบเองแบบนี้ จะยุ่งยากและเหนื่อยมาก รวมทั้งใช้เงินมากกว่าการสอบโดยใช้ข้อสอบจากส่วนกลาง
ผมไม่รู้หรอกว่าข้อสอบจากส่วนกลางเป็นอย่างไร บ้างก็บอกว่า สพฐ.ให้อาจารย์มหาวิทยาลัยเป็นคนออก ซึ่งโดยมากก็จะเป็นราชภัฎฯต่างๆ ก็เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่าจะออกยากมากๆเป็นประจำทุกปีและทุกเขต ลงทุนสอบเสียเงินเสียเวลากันไปแล้ว ได้ครูผ่านเกณฑ์ขึ้นบัญชีเพียงนิดเดียว ไม่พอใช้และไม่คุ้มค่า
ลูกชายผม เจอกับตัวเอง บอกว่าเป็นข้อสอบเชิงวิเคราะห์ ต้องคิดลึกเกือบทุกข้อ ใครที่ไม่มีประสบการณ์ในการสอบและหรือดูหนังสือไม่เจาะลึก รับรองทำไม่ได้แน่ ลูกชายแค่ท่องจำ จึงยังทำได้ไม่ดีพอ ผมไม่เสียใจถ้าลูกจะผิดหวังกับการสอบ แต่ก็ขอให้เขาได้บทเรียนเพื่อเตรียมตัวใหม่ต่อไป
ชอบใจ..ที่ท่านรองฯผอ.เขต ประธานที่ควบคุมการออกข้อสอบ ท่านบอกว่า เขต ๔ ของเราขาดครูมาก เราต้องได้ครูไว้สอนหนังสือ ทั้งวิทย์ คณิต อังกฤษ ไทย สังคม ปฐมวัย ถ้าข้อสอบง่ายหรือไม่ยากจนเกินไป คนเก่งก็สอบได้ คนไม่เก่งก็สอบได้ อย่างไรก็ตามทุกคนจบปริญญาตรี และทุกคนก็มีความมุ่งมั่นตั้งใจไปตามศักยภาพของแต่ละคน การคัดเลือกด้วยข้อสอบ..วัดคนเก่งคนดีได้ระดับหนึ่งเท่านั้น เขาจะเป็นครูที่สมบูรณ์ได้ ก็ต่อเมื่อเขตและโรงเรียนต้องพัฒนาเขาต่อไป ตั้งแต่วันทราบผลการสอบ โดบส่งเข้าอบรมสัมมนาพัฒนาเขาก่อนส่งลงสู่ห้องเรียน ให้เขารู้ระเบียบปฏิบัติ อุดมการณ์และจรรยาบรรณวิชาชีพ แนวการปฏิรูปการเรียนรู้และคุณธรรมจริยธรรม ตลอดจนกฎกติกามารยาทที่จำเป็น...
ฟังแล้ว..ชื่นใจจริงๆ แสดงว่า..ว่าที่ครู..คนชั้นปัญญาชน ย่อมพัฒนาได้..แล้วทำไมจึงออกข้อสอบกันให้มันยากนัก..ให้โอกาสเขาสักหน่อยไม่ได้หรือ..กว่าจะได้เป็นครู..ช่างยากเย็นเสียจริงๆ
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๒๐ เมษายน ๒๕๕๗
นึกถึงบรรยากาศที่เคยไปออกข้อสอบ สอบครูผู้ช่วยเหมือนกัน เหมือนถูกควบคุมตัวยังไงยังงั้น กิน นอน
นั่ง ฯลฯ อยู่ภายในบริเวณที่กำหนดเท่านั้น ห้ามติดต่อกับโลกภายนอก...จนกว่า ผู้เข้าสอบจะสอบเสร็จ
จึงจะถูก "ปล่อยตัว " .... กิจกรรมหลังออกข้อสอบเสร็จจึงมีแต่ กิน คุย กิน นอน...และเปิดสำนักหมอดู
เป็นที่ครื่นเครงกันไปเลย...