พอเพียงกับการทำนา


ผมได้เรียนรู้แนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยเริ่มที่การทำนาเพื่อเรียนรู้เรื่องอื่นๆต่อยอดในความพอเพียง ครอบครัว พ่อแม่ ลูก สี่ชีวิตทำนาในเนื้อที่แปดไร่โดยไม่กระทำ

                    ชีวิตลูกชาวนาคนพัทลุงอย่างผม ถูกสอน ถูกฝึกฝนให้รักผืนนา รู้คุณค่าของนาที่ทำกินที่มอบต่อจากรุ่นปู่  รุ่นย่า  สู่รุ่นพ่อแม่ ผ่านมารุ่นผมได้ทั้งนาได้ทั้งชีวิตที่เป็นชาวนาแต่เผอิญได้เรียนหนังสือนิดหน่อยและได้เป็นข้าราชการรับใช้ชาติในบทบาทที่กำหนดโดยสายวิชาชีพ  แต่ลึกๆของหัวใจ ยังรักนา รักการทำนา ในนามีทุกอย่างตั้งแต่ข้าว กุ้ง หอย ปู ปลา ผักริ้น  ต้นเอื้อง บัวบกบนคันนา ฯลฯ

                      วันนี้เวลานี้ทุ่งเจ้าพระยา ลุ่มน้ำเจ้าพระยาจมอยู่ใต้ผืนน้ำ นาและข้าวเสียหายอย่างหนัก ความทุกข์ยากเข้ามาเยือนชาวนาอย่างแน่นอนที่สุด  นั่นเป็นผลกระทบโดยตรงแต่ผลกระทบที่น่าจะตามมาคือปีนี้ข้าวจะน้อยลงราคาข้าวในตลาดอาจจะสูงมากกว่าที่คิด คาดว่าจะมีคนเดือดร้อนจำนวนมากจากคำโบราณที่ว่าข้าวยากหมากแพง

                    และวันนี้ความเป็นจริงของผืนนาพัทลุงเราเองก็สูญเสียที่นาไปเป็นสวนยางพาราก็มาก เพราะยางพาราปีนี้ราคาดีมาก มียางแผ่นหนึ่งแผ่นเหมือนมีธนบัตร  100 บาท  มีเศษยางก้อนหนึ่งเหมือนมีธนบัตร  50  บาท ซื้อง่ายขายคล่องเงินสะพัดปลิวไปเป็นรถยนต์ป้ายแดง รถมอเตอไซด์ โทรศัพท์มือถือ และจิปาถะ ฯลฯ นาที่ไม่ปลูกยางพาราก็ปล่อยให้รกร้าง ข้าวที่กินกันอยู่ทุกวันก็ซื้อกันลูกเดียวเพราะเงินมันเยอะ   น้ำยางไหลหยดเต็มจอกเหมือนเหรียญบาทกลิ้งออกมาจากเนื้อไม้ พอตะวันรุ่งก็ไปเก็บแล้วก็จ่ายจนหมด วันไหนฝนตกก็จนเหมือนเดิม ไม่มีการออม ไม่มีการเก็บไว้เลย เรียกได้ว่าตำข้าสารกรอกหม้อกันจริงๆ

                      ผมยังยึดถือคำโบราณบ้าน  ต้องมีข้าว  ผักปลาย่อมหาได้เพราะทุกมื้อมีข้าวเป็นอาหารสำคัญ  อาหารหลัก จากแนวคิดอันนี้ผมได้เรียนรู้แนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยเริ่มที่การทำนาเพื่อเรียนรู้เรื่องอื่นๆต่อยอดในความพอเพียง  ครอบครัว พ่อแม่ ลูก สี่ชีวิตทำนาในเนื้อที่แปดไร่โดยไม่กระทำ เดี๋ยวจะมาเล่าให้ทราบครับ

หมายเลขบันทึก: 56543เขียนเมื่อ 31 ตุลาคม 2006 11:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 00:24 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)

เห็นด้วยครับ

ผมชอบคำพูดของอดีต รมต.คลังท่านหนึ่ง เคยกล่าวไว้ว่า " เงินทอง ของมายา ข้าวปลาสิ ของจริง " 

ผมยกคำของแหลม (พูลศักดิ์ สมบูรณ์)  อรหันต์ชาวนา  อ.กุดชุม  จ.ยโสธร    มาแจมด้วยครับ

"เงินในความคิดของผมน่ะเหรอ  จริงๆ  มัน ก็คือเศษกระดาษธรรมดานั่นแหละ  แต่เราเอามาตีให้มันดูมีมูลค่าเฉยๆ  เงินเป็นสิ่งที่คนอื่นสร้างมา   มันเป็นของที่ปลอมมาก  สิ่งที่เราสร้างปลูกเองต่างหากที่เป็นของจริง"

"เงินมันเคี้ยวได้ที่ไหน  ข้าวต่างหากที่เคี้ยวได้"

ที่มา :  จากหนังสือ  "แหลม   อรหันต์ชาวนา"

  • เชื่อมั่นในชีวิตที่พอเพียง
  • เคยคิดอยากไปทำนา แต่เป็นความหวังของแม่ เลยมาเป็นอาจารย์ ยังรักนาข้าว ปลาในหนอง
  • ทุ่งกว้าง กลิ่นฟางและสาปควายเหมือนเดิมครับ
  • มีภูมิปัญญาชาวบ้านกล่าวไว้ว่า เงินทองเป็นของมายา ข้าวปลาเป็นของจริง
  • ขอบคุณพี่หรอยมากครับผม

เรียนคุณ   chotto

            ผมเห็นด้วย.................ครับ

เรียนคุณ   Thawat

 ผมได้ดูรายการ  คนค้นคน เรื่องราวของแหลม อรหันต์ชาวนา ประทับใจครับ  เงินทองเหมือนงูพิษสะสมมากเลี้ยงไว้มาก นอนกอดอยู่ ไม่ตีงูให้ตายมันก็กัดเราตายครับ  ขอบคุณมากครับ

อ.ขจิต   ครับ

เห็นด้วยอย่างยิ่ง ครับ

มีโครงการหนึ่งที่ผมและน้องๆเยาวชนบ้านปากพลี(เกาะเรียน) ร่วมกันทำเมื่อ 3 ปีก่อน คือโครงการคลอง น้ำ นา ปลาและข้าว สะท้อนแนวคิดการพยายามจะแก้ปัญหาชุมชนบ้านเกิด โอกาสหน้าจะเล่าให้ฟังครับ

รออ่านครับ เคยไปที่ปากพลีด้วยครับ ขอบคุณมากครับ
  • เข้ามาเพื่อให้กำลังใจคุณอนุกูลค่ะ

อ.ขจิต....................อำผมหรือเปล่า  เล่าให้ฟังหน่อย

                                                             พี่หรอย

ในฐานะคนพัทลุงเหมือนกันเข้าใจดี เพราะที่บ้านก็ไม่ได้ทำนาแล้ว น้องสาวบอกว่าทำก็ไม่คุ้ม ไว้โอกาสหน้าจะชวนพี่หรอยมาลปรรกับเจ้าหน้าที่พอช ที่สนงพัทลุงนะคะ หลายคนยังเป็นมือใหม่จะตั้งวง ทำความเข้าใจกันในวันที่  13 พ.ย นี้ ถ้าว่างก็เชิญด้วยนะคะ

เรียน.....คุณพัชพอช

  ยินดีมากครับทีได้ ลปรร กันครับ

  ขอดูภาระกิจที่ทำงานก่อนนะครับ.......แต่ด้วยความเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขคนพัทลุง จะชวนทีมงานไปร่วมด้วย ขอทราบกำหนดการเวทีคร่าว ๆ ครับ

ไม่ได้เจอกันนานแล้ว ได้ยินแค่ข่าวคราว สบายดีนะคะ (ดูจากรูปที่โพสไว้ สมบูรณ์เชียว ) ว่างเมื่อไหร่จะไปเที่ยวพัทลุงนะคะ ( เลน้อย )

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท