Cloud computing:..เมฆโตได้แม้มองไม่เห็น

       

        เมฆ โตได้แม้มองไม่เห็น  วาทะนี้ เป็นของ เรย์ ออซซี่ (Ray Ozzie) ซึ่งเป็นผู้ที่เข้ามารับตำแหน่งประธานฝ่ายสถาปัตยกรรมซอฟต์แวร์ของ Microsoft ต่อจาก บิล เกตส์ซึ่งออซซี่กล่าววาทะนี้ในงาน เปิดตัวบริการประมวลผลกลุ่มเมฆ หรือ (cloud computing) ของ Windows Azure

       cloud(อ่านว่า คลาวด์)  computing นี้ เป็นแนวโน้มของเทคโนโลยีไอทีในยุคหน้า แต่ว่าในปัจจุบัน มีบริษัทที่วิจัยและพัฒนาระบบcloud computing เพื่อนำเสนอบริการออกสู่ตลาด อย่าง ความร่วมมือของ 3 องค์กร คือ Intel ,Yahoo และ HP ร่วมกับสถาบันวิจัยอีก 3 แห่ง คือ Infocomm Development Authority ในสิงคโปร์ ,มหาวิทยาลัยแห่งรัฐอิลินอยส์ (University of Ilinois) ,Steinbach Centre for Computing ในเยอรมัน

         บางท่านอาจจะสงสัยว่า cloud computing นี้คืออะไร จริงๆแล้ว คำว่ากลุ่มเมฆนี้ เปรียบเสมือน เครือข่ายอินเตอร์เน็ตนั่นแหละค่ะ เคยมีคนเปรียบเทียบไว้ว่าไว้ว่า เครือข่ายอินเตอร์เน็ตที่มีการเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่และเชื่อมโยงไปยังเครื่อง
คอมพิวเตอร์ต่างๆทั่วโลก ก็เปรียบเสมือนกลุ่มเมฆบนท้องฟ้าที่เชื่อมโยงกันเป็นเมฆผืนเดียว ห่อหุ้มโลกทั้งใบไว้

         นอกจากนี้กลุ่มเมฆก็ยังมีการซ่อนเร้นกิจกรรมภายในต่างๆ เช่น การควบแน่น การกลั่นเป็นไอ คือ เราไม่รู้ว่าขณะนี้มันทำอะไรอยู่ แต่จะรู้ก็ต่อเมื่อมีผลลัพธ์ออกมาแล้ว เช่น ฝนตก ฟ้าแลบ ฟ้าผ่า เป็นต้นซึ่งก็เช่นเดียวกับ ระบบประมวลผลของเครื่องคอมพิวเตอร์ ที่ผู้ใช้จะใช้เพียง GUI ในการแสดงผลและรับคำสั่งเท่านั้น และติดต่อกับระบบประมวลผลกลุ่มเมฆ ผ่านทาง device ที่เชื่อมต่อกับ internet โดยมันจะทำกระบวนการประมวลผลที่ซับซ้อนอยู่ภายในระบบแล้วส่ง output ออกมา ทางหน้าจอของผู้ใช้ ให้เสร็จสรรพ