ฉันก็มีความฝันมาตั้งแต่เด็กๆ ฝันว่าอยากเป็น "คุณครู" ตอนนั้นก็แค่ความเป็นเด็ก ความฝันก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ จนได้เข้ามาเรียนหนังสือเรียนจนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 แต่ตอนนั้นไม่ได้ฝันว่าอยากเป็นครู แต่ฝันว่าอยากเป็น "ทนายความ" อยากเรียนนิติศาสตร์ แต่ทางครอบครัวอยากให้เรียนครูเลยต้องมาเรียนครู แต่พอเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัย เรียนคณะครุศาสตร์ ตอนแรกๆก็ไม่ค่อยอยากจะเรียนเท่าไหร่แต่เพื่อความฝันของทางครอบครัว แต่พอเรียนมาถึง ปี3 ปี4 ได้ไปสังเกต ทดลองสอน ทำให้ความฝันนั้นเปลี่ยนไปเลย เพราะการที่เราได้เข้าไปอยู่ในโรงเรียน การที่มีเด็กมาเคารพนับถือเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจที่สุด และเป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้เลยถ้าไม่มาเรียน จากการที่ได้เรียนมหาวิทยาลัยนี้ สอนอะไรหลายๆอย่างการปรับตัว การเข้าสังคม และการเรียน การพบปะผู้คนมากมาย การทำกิจกรรมในมหาลัย การที่เรามาเรียนในมหาวิทยาลัยเราต้องคอยช่วยเหลือตัวเองเป็นส่วนใหญ่ เพราะเราโตแล้วควรที่จะมีความรับผิดชอบ อาจารย์ในมหาวิทยาลัยจะไม่คอยมาจี้งานเหมือนที่เราเรียนชั้นมัธยม มาเรียนในมหาวิทยาลัยสอนให้รู้จัก ความรับผิดชอบต่่อหน้าที่ ตรงต่อเวลา การพูดจาต่างๆ และตอนนี้ฉันก็จะได้ออกไปฝึกสอนที่โรงเรียนเป็นเวลา 1 ปี ความฝันจะเริ่มเป็นจริงแล้ว เรียนจบ รับปริญญา ทำงานเป็นครู ให้คนในครอบครัวมีความสุข ว่าฉันก็ทำได้ตามที่เขาตั้งใจไว้
มหาวิทยาลัยสอนอะไรหลายๆ อย่างกับตัวเรา ขึ้นอยู่ที่ว่าเราจะเก็บเกี่ยวสิ่งดีๆ เข้าหาตัวเราเองหรือไม่ จากปี1- ปี4 ดิฉันได้อะไรหลายๆอย่าง ได้เพื่อน ได้ความรับผิดชอบ ได้ความรู้ ได้ประสบการณ์ที่จะไม่มีอีกแล้ว จากนนี้ไปเราก็จะต้องออกไปทำงาน ไปหาประสบการณ์ข้างนอกอีกหลายๆ อย่าง และอีกไม่นานชีวิตนักศึกษาก็จะจบลงไป ชีวิตในวัยทำงานก็มาแทน แต่ฉันก็จะได้ใช้ชีวิตนักศึกษาอย่างเต็มที่แล้ว ชีวิตนักศึกษาเป็นชีวิตที่หาประสบการณ์ได้มาก
ไม่มีความเห็น