วันที่2ของอาทิตย์ที่ 3 เปลี่ยนไป


ที่ 2 ของอาทิตย์ที่ 3

เริ่มต้นด้วย ตอนเช้าที่ต่อเนื่งจากการเริ่มต้นใหม่ของเมื่อวาน ออกจากทางจงกรมแล้วมาทำวัตรค่อยเข้านอน มาตอนเช้า จิตใจยังส่อแววความหมง

สติตั้งไม่ทัน ทำอาหารถวายพระ รับข้าวเสร็จ ครูเมตตาให้ไปซื้อของ เป็นการซื้อของที่ยาวนานมากกับตนเอง

แค่ตั้งใจว่า ครั้งที่แล้ว ได้ไม่ครบ ครานี้ครบแต่ช้า สาเหตุมาจาก ไปหลายที่ อีกประเด็นคือไปคนละสาขาที่ครูบอก ทำไมหล่ะ การตอบสนองมักเป็นแบบนี้บ่อยครั้ง มีโทสะเกิดขึ้นปะทุเป็นระยะ ๆเป็นความร้อนรนที่จุดไฟเผาตนเองแบบเดิม ๆ พอไม่มีสติมันก็จะทำแบบนี้ เพราะมันอยากดีแล้ว ดีไม่ได้ เปิดดู time line ที่ครูเมตตาแชร์มาให้ มันร้องไห้เลยว่า ใช่ค่ะ ข้างในมันคับแค้นใจตนเอง เหมือนเราเกลียดใครสักคนแค่นึกถึงแล้วโทสะก็จะปะทุ แล้วที่มันเจ็บใจคือ มันก็อยู่ข้างใน ครูเมตตามาให้คำตอบว่า กิเลสกับธรรมก็อยู่ในหัวใจดวงเดียว คำนี้อ่านแล้วทำให้น้ำตาไหลพราก ซื้อของเสร็จ ใจไม่หายร้อนรน ส่งข้อความไปกราบเรียนรู้เหมือนสารภาพความช้า ใจค่อยๆเย็นลงแต่ก็มีร้อนรนอยู่ พอไปรับครีม เสียงใสๆและใจที่บริสุทธิ์ของครีม ทำให้ข้างในหนูรู้สึกมีพลัง จากความหมองคลายลง ใจเลิกร้อน ยอมรับมากขึ้น พอมาถึงวัด ใจไม่แสดงอาการผวา แบบกลัวความผิดที่ได้ทำ แต่มันก็ยังหมองอยู่มาก พอขอโอกาสครูมาซักมุ้งกรด นั่งนึกกิจกรรมที่ตั้งใจจะทำในสำนักแม่ชี ลองใช้ น้ำหมักมาขัดกุฏิ ทำความสะอาด เพราะสัวเกตที่แม่ ๆทำที่ศาลา 4 ได้ผล แม้อันนี้จะทำเอง ก็น่าจะพอได้ พอเห็นว่า ใช้ได้ จึงลองขัดกุฏิ ระเบียงและข้างนอก ใจวนไประลึกถึงพระพีาชายที่เล่าถึงการปฏิยัติครูบาอาจารย์ เป็นการฝึกฝน มาระลึกถึงครู ทั้งกุฏิ ทั้งอะไร แทบไม่ได้ทำให้ หนูจะรอใครหล่ะ ทำไมไม่ทำ หนูไม่ทำแล้วใครจะทำ ลงมือขัดทั้งข้างนอกข้างใน ระลึกขึ้นมาตอนไป ขัดสีที่หน้าประตูวัดป่าธรรมอุทยานหลายปีก่อน ขัดๆไปสีมันออกยากมาก เริ่มมีการบ่น ท่านเปรยให้ฟังว่า "นี่ขนาดสี มองเห็นมันยังขัดยากเลย นับประสาอะไรกิเลส เห็นก็ยังไม่ค่ยอจะเห็นมันจะขัดง่ายได้ยังไง" จัดแจงขัดทำความสะอาดรองเท้า นึกทบทวน นี่ไงอะไรดี ๆ ที่คิดเองได้แล้วทำ เหมือนกิจกรรมนั่นๆ ช่วยซ่อมแซมใจตนเอง จากที่หมองก็มีพลัง ลิสต์กับตนเองไว้หลายอย่าง แต่ความสามารถในการจัดการทำงานให้เสร็จทันเวลาแบบกระชับ ยังอ่อนเพราะไม่ค่อยยอมฝึกฝน ครู เมตตาให้ไปนวดให้ รู้สึกว่า ข้างในมีพลัง แล้วไม่นานหลวงปู่มา ครูนำทุกคนกราบหลวงปู่ ทุกครั้งที่ที่ได้ฟังธรรมจากหลวงปู่พร้อมครู จะรู้สึก เบิกบานอิ่มเอม วันนี้ท่านเมตตาพูดคุยทักทายกับทุกคนอย่างเป็นกันเอง ได้หัวเราะได้ยิ้มกับเรื่องราวที่ครูกราบเรียนหลวงปู่และเรื่องเล่าเป็นธรรมที่ท่านเมตตา ใจหนูตอบรับเรื่อง "อย่าประมาทอกุศลเล็ก ๆ อย่าประมาทกุศลเล็ก ๆ" เพราะที่ผ่านมาพลาดท่าเสียทีก็เพราะ ประมาทเรื่องเหล่านี้เเหละ หลังจากนั้นก็พยายาม ครูเมตตาให้เป็นธุระไปซื้อของให้อีกรอบ ครูทำอาหารคัฟเค้กถวายพระ ให้หนูช่วยเตรียมเครื่องผัดกระเพราสำหรับเด็กๆ แล้วให้ตีอนเด็กๆมาอาบน้ำ เข้ามาข้างใน ใบไม้เพียบ ได้โอกาสกวาดตาดแบบเวอร์ชั่นกระชับ มีเด็กๆช่วยอีกแรง ให้เด็กๆ รีบออกไปทอดไข่ ครูเข้ามาอาบน้ำ ให้หนูลัางของ แล้วสักพักครูก็เมตตา ทำผัดกระเพราะให้เด็กๆทาน เป็นการทานทีดูมีชีวิตชีวามากๆไม่เหลือเลยในถาดมีแต่น้ำ หนูเอาข้าวลงคลุกเลี้ยง หมาแมวสรุปเกลี้ยงเลย หนูเชื่อกับตนเองว่า ใครที่ได้ทานอาหารฝีมือครูเขาจะมีความสุข ข้าวก้นบาตรครูทุกวันๆ ถ้าเหลือจะเอาให้ สุนัขชื่อ หางซันที่ดุมาก แต่หลังๆมา มันเงียลง ไม่เห่าแบบที่คนผวา อาจจะเป็นอุปทานส่วนตัว แต่ดูมันว่าง่ายขึ้นค่ะ แล้วครูก็มาทำอาหารถวายพระต่อ เหมือนหนูนั่งดูครู วิ่งมารธอน ด้วยการทำประโยชน์ต่าง ๆ เมนูแล้วเมนูเล่า น่าทานทั้งนั้นแบบที่คนเห็นน้ำลายสอ เด็กก็มีความสุขที่ได้ทำกิจกรรมต่างๆที่ป้วนเปี้ยนข้างๆแม่ครู ใจหนูเบาลง แต่พอบอกว่าจะช่วยครูห่อแซนวิช แล้วไปดูป้าตึ่งหมักไก่แทน ใจข้างในจากสบายๆ หมองเลย ทั้งๆที่ครูไม่ได้ว่าอะไร ครูก็ทำกิจกรรมต่อเนื่องไป แต่เป็นอะไรที่อาสาเอง แล้วใจตนเองก็ไปใส่ใจเรื่องอื่น แค่นี้ก็ทำให้ข้างในหมองได้ เข้ามากุฏิทำวัตรเสร็จ หนูก็หลับกว่าจะตื่นมาก็ตีหนึ่งครึ่ง เป็นอีกวันที่ใจเปลี่ยนแปลง หมองได้ฟื้นได้และก็ยังหมองได้อีกค่ะ ข้าว

คำสำคัญ (Tags): #ทบทวน#ภาวนา
หมายเลขบันทึก: 561264เขียนเมื่อ 9 กุมภาพันธ์ 2014 05:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 กุมภาพันธ์ 2014 05:32 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท