วันนี้นำเนื้อหาจากหนังสือเลมหนึ่งมาถ่ายทอดค่ะ
“อายุมิใช่เป็นเพียงตัวเลข”
“Don’t grow old but grow up” (ชื่อเดิมคือ"อย่าแก่ลง แต่จงเติบโตขึ้น") เขียนโดยมิสซิส เดล คาร์เนกี แปลและเรียบเรียงโดย เศียรเศวต
จัดพิมพ์โดย สำนักพิมพ์ P.S.GROUP
เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้บอกถึงเคล็ดลับที่จะทำให้โตขึ้นด้านความคิด ปัญญาและจิตใจตามอายุที่เพิ่มขึ้น มี17 บท ทุกบทมีตัวอย่างและหยิบยกสถานการณ์มาประกอบค่ะ
บทที่ 1 อย่าเตะเก้าอี้
ก้าวแรกเราต้องรับผิดชอบตนเอง ยอมรับความผิดพลาดและเผชิญกับผลที่จะตามมา อย่าโทษคนอื่น
บทที่ 2 ลูกตุ้มถ่วงชีวิต
สิ่งที่เราอาจมองเป็นลูกตุ้มเช่นปัญหา อุปสรรคแม้แต่อายุเอง เอามาเป็นเครื่องกระตุ้น ส่งเสริมกำลังใจ ไม่บ่นว่าเหตุการณ์ต่างๆเอาอุปสรรคมาให้เรา
บทที่ 3 หลัก5ประการ
การยอมรับการสูญเสีย เราต้องก้าวไปข้างหน้า เคราะห์กรรมมิได้เป็นสิ่งที่ร้ายกาจเสมอไป มีหนทาง5ประการเอาชนะหรืออยู่เหนือเคราะห์กรรมคือ ต้อนรับสิ่งที่หนีไม่พ้น ให้เวลาเยียวยา ปฏิบัติบางอย่างเพื่อต่อสู้ความเดือดร้อนยุ่งยาก ง่วนอยู่กับการช่วยเหลือคนอื่น จงใช้ชีวิตทั้งหมดของเราอย่างดีทีสุดขณะยังมีลมหายใจอยู่และจงนึกถึงสิ่งต่างๆ ที่ยังคงเป็นของเราอยู่
บทที่ 4 ศรัทธาคือรากฐาน
หลายคนผ่านเคราะห์ร้ายมาได้เพราะมีศรัทธาต่อการไม่ยอมจำนน
บทที่ 5 วิเคราะห์ก่อนปฏิบัติ
ไม่หุนหันพลันแล่น หรือด่วนตัดสินใจอะไร การหยั่งรู้ รอบรู้ รอบคอบ
บทที่ 6 คำพูด...เปลี่ยนแปลงชีวิต
การมีจิตใจเป็นผู้ใหญ่ ย่อมมีสมรรถภาพในการปฏิบัติสิ่งใดสิ่งหนึ่งทันทีเมื่อจำเป็น อย่ากลัวที่ต้องตัดสินใจ อย่ากลัวการรับผิดชอบที่จะตามมา
บทที่ 7 รู้จักตนเอง
รู้จักตัวเอง เพื่อรอบรู้ในเรื่องความมีจิตใจเป็นผู้ใหญ่ ยอมรับนับถือคนอื่น สำนึกในความเป็นมนุษย์ของเราตลอดเวลา ทำความรู้จักมักคุ้นกับตัวเราเอง มีมุมเงียบสงบของตนเอง ทำลายความเคยชินและค้นหาว่าสิ่งใดให้ความพึงพอใจแก่เราอย่างลึกล้ำ
บทที่ 8 ชอบตนเอง
ทำนุบำรุงลักษณะนิสัยดีงามที่สุดของเราให้เป็นประโยชน์ อย่าวิตกกังวลอยู่แต่เรื่องความพลาดพลั้งและ ความบกพร่องในอดีต เราอาจทำสิ่งต่างๆม่สมบูรณ์ได้เป็นเรื่องธรรมดา เราต้องชอบตนเอง เคารพตัวเอง หาความสนุกเพลิดเพลินด้วยตัวของเราเอง
บทที่ 9 เป็นตัวของตัวเอง
เชื่อมั่นในตนเอง แค่มีคนไม่เห็นพ้องกับเรา เราอย่าเข้าใจว่าเราเป็นฝ่ายผิดเสียแล้ว บ่อยครั้งที่การคล้อยตามมีสาเหตุมาจากความหวาดหวั่น
บทที่ 10 อย่าก่อความรำคาญ
กล่าวถึงเทคนิคการสนทนาที่น่าเบื่อ เช่น พูดถึงลูกหลานหรือสัตว์เลี้ยงโดยไม่รู้จักจบสิ้น หนีจากจุดสนทนา แข็งทื่อเป็นท่อนไม้ พูดแต่สิ่งที่ตนนิยมเท่านั้น โต้แย้งอย่างไม่ยอมลดละในสิ่งที่หยิบยกขึ้นมาสนทนา เป็นผู้มองสิ่งต่างๆในแง่ร้ายตลอดกาล
บุคคลที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ด้วยจิตใจที่พัฒนาแล้ว สามารถสนทนาเกือบทุกเรื่องโดยไม่ทำความรำคาญให้คู่สนทนา
บทที่ 11 การผจญกับสิ่งที่น่าตื่นเต้นในชีวิตผู้ใหญ่
การศึกษาและการปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น การลงทุน การพัฒนา พัฒนาจิตใจ พัฒนาสติปัญญา พัฒนานิสัยการอ่าน เป็นพฤติกรรมที่น่าตื่นเต้น กระโจนเข้าสู่การผจญภัยแห่งการศึกษาเล่าเรียน
บทที่ 12 ความว้าเหว่
เมื่อมีการสูญเสีย ถ้าเราจะเอาชนะความว้าเหว่เราต้องสลัดเงาดำทมึนแห่งความสมเพชตนเองทิ้งเสีย มีความกล้าสู่มิตรภาพใหม่ๆ พบปะผู้คน มีความเฉลียวฉลาดในการใช้ชีวิต
บทที่ 13 ความน่าพิศวงของมนุษย์
มนุษย์มีปะปนกันไป เราต้องใคร่ครวญ เข้าใจธรรมชาติ สมรรถภาพของบุคคล มองภาพรวม ไม่ด่วนสรุปคน "นกนางแอ่นบินมาตัวเดียวมิได้หมายถึงฤดูร้อนกำลังมาถึง" บุคคลที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่จะมองเห็นซึ้งและยอมรับพื้นฐานความดีคนอื่น
บทที่ 14 ทำไมผู้อื่นจะต้องขอบคุณ?
เคล็ดลับความสุข การรักผู้อื่นด้วยความสุจริตใจ มีวิธีสร้างมิตรภาพ ผูกมิตรที่ดี ใส่ใจบริการ มุ่งมั่นการให้มากกว่ารับ มีเทคนิคการพูดต่อหน้าคนอื่น ความรักเป็นรากฐานความก้าวหน้าของมนุษย์และความสัมพันธ์ของเรากับเพื่อนมนุษย์เป็นเครื่องวัดความเจริญของจิตใจ
บทที่ 15 กลัวความแก่
วัยชราสร้างแรงกระตุ้นและพลังก่อประโยชน์ของเราเอง เราทำลายความหวาดกลัวอันไร้ประโยชน์ จดจ่ออยู่เฉพาะการปฏิบัติตนในสิ่งที่จะพัฒนาความเติบโตของจิตใจและความเจริญของวิญญาณ
บทที่ 16 อยู่ให้ถึง100ปี
คนอายุยืนมักจะมีการปฏิบัติตนด้านปรับปรุงบุคลิกลักษณะ การปรับปรุงอารมณ์ให้ดี มีเสรีภาพในการดำรงชีวิต เป็นมิตรกับคนทั่วไป ชอบและรักงานของตน มีสุขภาพดีพอควร สนใจอย่างยิ่งต่อความเป็นไปของชีวิต สามารถดูแลตนเองได้และสนใจในการดำรงชีวิตยิ่งกว่าจะหวาดกลัวความตายมีโอกาสมีชีวิตยืนยาว
บทที่ 17 อย่าหลงใหลในเก้าอี้โยก
การทำงานเป็นหลักการเบื้องต้นแห่งการดำรงชีวิต มีสุขภาพดีและเกิดประโยชน์ ทำให้เราแก่ช้าลง การมีนิสัยชอบทำงาน พาตัวเราหลุดพ้นความเครียด การทำงานด้วยมือหรือด้วยสมองเป็นพลังอันทรงอำนาจที่สุดของธรรมชาติในการดูแลเราให้มีอายุมากด้วยจิตใจที่เติบโตแล้ว ส่งเก้าอี้โยกคืนและทำตัวเป็นคนมีภาระยุ่งอยู่เป็นประจำ
อ่านแล้วได้เตือนตน
หลายข้อเรามีแล้ว หลายข้อเราละเลยและหลายข้อเราทำอยู่
เปิดโลกกว้างทางปัญญา อ่านหนังสือวันละนิด จิตแจ่มใสค่ะ
_สวัสดีครับ...
_เป็นหนังสือที่น่าอ่านมากนะครับ
_ขอบคุณบทสรุปสั้นๆได้ใจความ....จากบันทึกนี้ครับ
_เปิดโลกกว้างทางปัญญา....
_ขอบคุณคร้าบ....
ขอบคุณมากค่ะคุณเพชรน้ำหนึ่ง
วันหยุดได้ค้นหนังสือดีๆมาปัดฝุ่น อ่านรอบสอง ดีค่ะ อ่านคราวนี้ได้บันทึกไว้
ขอบคุณมากค่ะอาจารย์อ.นุ
อาจารย์ Wasawat Deemarn
และคุณมะเดื่อค่ะ
แค่เห็นบทสรุปก็น่าสนใจและอุ้ม อยากอ่านฉบับจริงค่ะ