สวัสดีครับ ..
ผมชื่อนายพงศ์พันธ์ ปัญญาแก้ว เป็นนักศึกษาสาขาเทคโนโลยีการศึกษา ตอนนี้ผมอยู่ชั้นปีที่ 4 แล้วครับ
ในวันนี้.. ผมได้มาออกฝึกทดลองสอน ในระดับมัธยมศึกษา ที่โรงเรียนวริชราลัย อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่
โดยโรงเรียนนี้ผมเป็นคนเลือกที่จะมาเอง เพราะอยากรู้ว่าโรงเรียนเอกชน วิธีการสอนมันต่างจากรัฐบาลอย่างไร ?
ผมลยทำการติดต่อกับโรงเรียนก่อน ที่จะนำรายชื่อไปเสนอถึงอาจารย์ที่ปรึกษา ว่าผมมีความต้องการที่จะมาโรงเรียนนี้ ..
ตอนที่ผมไปติดต่อ ผมได้แจ้งความประสงค์ที่ต้องการทดลองสอน ระดับมัธยมศึกษาไป ทางโรงเรียนจึงจัดให้ผมสอนในรายวิชา
ที่เกี่ยวข้องกับสาขาเทคโนโลยีการศึกษา นั้นคือวิชาคอมพิวเตอร์ และงานบ้านงานช่าง
เมื่อตกลงกันแล้วว่าจะสอนเกี่ยวกับเรื่องอะไร ผมก็กลับไปทำแผนการสอนมาเสนอที่โรงเรียน ..
เพื่อให้โรงเรียนทำการตรวจความถูกต้องของแผนการสอน , ก็ได้แก้ไขปรับปรุงบางส่วน
เมื่อถึงเวลาที่ใกล้จะไปสอนแล้ว นั้น ,, ทางโรงเรียนได้ทำการโทรมาแจ้งข่าวให้ทราบ เกี่ยวกับกิจกรรมของทางโรงเรียน
โดยในวันที่ 27 - 29 ทางโรงเรียนได้มีการนำมัธยมศึกษาตอนต้น ไปเข้าค่ายลูกเสือ ที่ค่ายชุ่มจิต จังหวัดเชียงใหม่
ทางโรงเรียนถามความเห็นว่าต้องการที่จะไปร่วมกิจกรรมนี้ด้วยหรือไหม ?
ผมเลยตอบไปว่า .... ตกลงครับ ผมขอร่วมกิจกรรมครับนี้ด้วยครับ ขอบคุณครับ
เมื่อถึงวันที่ 27 มกราคม ผมก็ตื่นแต่เช้าพร้อมกับกระเป๋าเสื้อผ้า ออกเดินทางจากหอพัก สู่โรงเรียนวชิราลัย
เมื่อถึงโรงเรียนผมก็นำกระเป๋าเสื้อผ้าไปเก็บที่รถโรงเรียนได้เตรียมไว้ให้
แล้วผมก็เดินเข้ามาช่วยคุณครูที่ลงทะเบียน สำหรับนักเรียนที่จะไปค่ายลูกเสือ
ผมรู้สึกตื่นเต้นมาก ไม่เคยเข้าค่ายลูกเสือในฐานะครูแบบนี้เลย ><'
เมื่อนักเรียนลงทะเบียนเสร็จเรียบร้อยแล้วนักเรียนก็จะไปนั่งเข้าแถว เพื่อทำการเคราพธงชาติ
และรับฟังคำอวยพรจากผู้จัดการสถานศึกษา ออกเดินทาง ...
เมื่อผู้จัดการสถานศึกษาพูดเสร็จแล้ว ท่านบอกให้นักเรียนทุกคนขึ้นไปไหว้ครูบาศรีวิชัย
(ผมคิดในใจ : ครูบาศรีวิชัยอยู่แถวดอยสุเทพไปไหว้ไกลขนาดนั้นเลยหรอ)
ผมก็เดินตามเด็ก ๆ นักเรียนไปไม่ได้ถามอะไร
เมื่อนักเรียนเดินขึ้นอาคาร ผมก็เดินขึ้นไปด้วย .. ข้างบนอาคารนั้นมีประดิษฐานพระรูปครูบาศรีวิชัย อยู่ด้านบนอาคาร
เมื่อนักเรียนไหว้ขอพรกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ออกเดินทางจากโรงเรียน สู่ค่ายชุ่มจิต ..
เมื่อถึงค่ายครบทุกกลุ่ม ทางวิทยากร (วิทยากร คือ ครูทางโรงเรียน) ได้ทำการต้อนรับนักเรียนลูกเสือ เนตรนารี โดยให้ลอดปากเสือ
เพื่อเข้าสู่ค่ายชุ่มจิต .. และทำการเปิดพิธีในลำดับต่อไป
พอเสร็จพิธีเปิด .. นักเรียนลูกเสือ เนตรนารี ก็เจอศึกหนักแล้ว นั้นคือการเดินทางไกล ไกลถึง 7 กิโลเมตร
นักเรียนลูกเสือ เนตรนารี นักไม่ได้พักกินเลยเลย ,, ต้องเดินทางไกลแล้ว เดินด้วย แวะกินข้าวไปด้วยตามจุดต่าง ๆ
แต่ผมได้เป็นครูจุดสุดท้าย ...
การจะไปประจำแต่ละฐานมันต้องใช้เวลาและต้องรีบวิ่งไปประจำ เผื่อเราจะได้มีเวลาในการเตรียมความพร้อมในจุดต่าง ๆ อีกด้วย
ระยะทางการเดินทางเป็นยังไง # ดูครับ
เมื่อถึงจุดที่หมาย ก็ต้องรีบแต่งตัวให้คุณครูในฐานพระฤาษี ,, นี้คือผมงานของผมและเพื่อนสาว ที่ช่วยกันแต่งตัวให้คุณครูท่านนี้
เมื่อเสร็จกิจกรรมต่าง ๆ แล้วนักเรียนก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำ
...
อาบน้ำเสร็จนักเรียนก็รีบมาประกอบอาหาร โดยผมได้แค่ยืนคุม เพราะโดยสั่งว่าห้ามช่วยนักเรียน 555'
และนี้แหละครับคือ ผลงานอาหารของนักเรียนลูกเสือ เนตรนารี แต่ละหมู่ ที่วิทยากรอย่างเรา ๆ ต้องชิมกัน และให้คะแนน
(ไม่รู้ท้องเสียหรือป่าว 555)
สำหรับในวันนี้ ...
ทำให้ผมได้รู้ว่าการเป็นครูในอนาคต นั้นจะต้องต่อสู้อะไรต่าง ๆ นา ๆ และต้องยอมเสียสละ ยอมอดทนข้ามน้ำ ข้ามภูเขา
เพื่อสอนศิษย์คนหนึ่งให้เป็นคนดีและประสบผลสำเร็จในชีวิตให้ได้
การมาเข้าค่ายลูกเสือ ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายถึงความสนุกเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการสร้างความรัก ความสามัคคีในหมู่คณะ
ฝึกให้เด็ก ๆ นักเรียนรักใคร่สามัคคีกันและกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ,,
----------------------------------------------------------------------------------------------
การเป็นครูในค่ายลูกเสือ กับการเป็นนักเรียนที่มาเข้าค่าย ความรู้สึกมันชั้งต่าง ๆ กันจริง ๆ
สำหรับคืนนี้ .. ฝันดีครับ ราตรีสวัสดิ์ ลูกเสือเนตรนารี ที่รัก :)
พรุ่งเจอกันใหม่ .......
27 / 01 / 57
โห เป็นประสบการณ์ที่น้อยคนจะได้พบครับ ;)...
ป.ล. เป็นบันทึกที่ครบเงื่อนไขดีมากครับ
สวัสดีครับ อาจารย์ Ongkuleemarn
ผมจะนำประสบการณ์ที่ได้นี้เก็บไว้ เพื่อเป็นประโยชน์ในการเรียนรู้ในวันข้างหน้าครับ
ขอบคุณมากครับ ^^
สวัสดีค่ะ คุณพงศ์พันธ์ ปัญญาแก้ว
เป็นบันทึกที่น่าอ่านมากและไม่รู้สึกเบื่อครั้งที่ผ่านมา คุณสุดยอดจริงๆ