“ของฝากจากโรงพยาบาล”
เมื่อตอนต้นปีใหม่ที่ผ่านมา แม่ต้อยได้รับกล่องขนาดใหญ่ส่งมาจากจังหวัดเชียงใหม่ ผู้ส่งกล่องของขวัญนี้มาให้คือ ครูเทพศิริ สุขโสภา ศิลปินระดับชาติ ซึ่งเป็นกัลยาณมิตรคนหนึ่งของแม่ต้อย
ข้างในกล่องคือหนังสือที่ชื่อว่า “ ของฝากจากโรงพยาบาล” ซึ่งเป็นการรวบรวมผลงานภาพวาดของบรรดาเหล่าแพทย์ พยาบาลและบุคลากรทุกระดับ ที่เข้าร่วมโครงการ ศิลปะชูใจ หนึ่งในกิจกรรมของ spiritual Healthcare
ในหนังสือเล่มนี้รวบรวมภาพวาดไว้ประมาณเกือบร้อยภาพ น่าแปลกที่ทุกภาพมีความคล้ายคลึงกัน คือเป็นรูปธรรมชาติ ทุ่งนา ป่าทึบ บางภาพเจิดจ้าสดใส บางภาพสีหม่นน่าเศร้าไปตามจินตนาการของผู้วาด
อันที่จริงในงานประชุมวิชาการในปีที่ผ่านมา แม่ต้อยได้เคยจัดนิทรรสการภาพวาดของบรรดา แพทย์ พยาบาลที่ใช้ชีวิตส่วนหนึ่งเป็นศิลปินมาให้ดูชมกันบ้างแล้ว
แนวคิดการใช้สุนทรียศาสตร์ในโรงพยาบาลนี้ เป็นส่วนหนึ่งที่เราต้องการให้ผู้ที่ทำงานในโรงพยาบาล ได้คิดค้นศักยภาพและความสามารถบางอย่างในตัวตนออกมา
การวาดภาพทำให้คนมีจิตใจที่เป็นสมาธิ มีความละเอียดอ่อน สามารถเชื่อมโยงตัวเองเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ รวมทั้งเห็นความงดงาม ของทุกสิ่งและถ่ยทอดออกมาได้อย่างอ่อนโยน
เป็นการเพิ่มพลังในทางบวก มองทุกสรรพสิ่งในทางที่ดีได้
แม่ต้อยเคยไปดูงานที่ต่างประเทศ แนวคิดนี้ได้นำมาใช้ในโรงพยาบาลอย่างเป็นระบบ ผู้ป่วยสามารถนำรุปวาดของตนเองมาติดที่ฝาผนังของโรงพยาบาล อย่างสวยงาม แม้ว่าเจ็บป่วยทางกาย และความสามารถที่มีอยุ่ไม่ได้เจ็บป่วยตามไปด้วยนี่นา
นี่คือการใช้มิติแห่งจิตใจผ่านระบบการดูแลคนไข้ ผ่านงานด้านศิลปะเช่นนี้
ที่มากกว่านั้นคือหากผู้ป่วยคนอื่นมาเห็นรูปบนฝาผนัง แล้วเกิดชอบใจ ก็สามารถหยิบเอาไปได้เลย เพียงแต่หารูปใหม่มาทดแทน และแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบเท่านั้น วิธีการเช่นนี้เท่ากับเป็นการสร้างความผูกพันระหว่าคนไข้ และดรงพยาบาลได้อีกทางหนึ่ง
ที่เมืองไทย แม่ต้อยเคยไปเยี่ยมโรงพยาบาลที่เข้าร่วมในโครงการนี้ ก้ได้เห็นว่ามีหลายแห่งที่นำภาพวาดอันงดงามของชาวโรงพยาบาล ติดไว้บนฝาผนังพร้อมชื่อของผู้วาด
“ หมอวาดรูปเก่งจริงๆน้อ “ คนไข้บางคนถึงกับอุทาน เพราะไม่เคยคิดฝันว่าคุณหมอที่วันๆสาละวนแต่การตรวจ การรักษา จะสามารถวาดภาพได้สวยงามขนาดนี้
อย่างน้อยๆ ความรู้สึกที่มีต่อแพทย์ พยาบาลก็เปลี่ยนไปนะ แม่ต้อยว่า และเปลี่ยนไปในทางที่ดีมากๆด้วย
ในหนังสือเล่มนี้นอกจากภาพวาดที่น่าประทับใจแล้ว ครูเทพท่านยังได้เขียนข้อความสั้นๆประกอบในแต่ละรูปด้วย แม่ต้อยจะขออนุญาตครูเทพศิริ นำมาขยายต่อสักภาพนะคะ
“ ภูเขาอาจะเข้ม หรือหวานซื่อ
มีไอขาวตรงกลางระหว่างภูเขา
ตรงนั้นอาจจะมีอ่างน้ำที่ป่าเขากักเก็บไว้
ไกลลิบ ทิวเขาสีครามสดใสกว่าสีใด
ใต้ฟ้าสีเทา วาดให้เห็นใกล้ไกล
ให้รู้สึกหายใจโล่ง ลอยได้
มีสีอยู่ในทุกสิ่ง ทุกภาพเป้นเงาของใจ
ใครคนวาด ขุ่นหรือใส อาจตรงข้าม
สีในภาพ เป็นความสุขของคนวาด”
ภาษาสวยของครูเทพ อ่านแล้วมีความสุข สร้างจินตนาการได้มากมายยิ่งนัก
ในท้ายเล่ม ครูเทพ ใช้ประสบการณ์ในโรงพยาบาล เล่าเรื่องสั้นๆอย่างน่ารัก พร้อมด้วยภาพการ์ตูน ที่เคยสอนแบบง่ายๆ วิ้ดด บูม ...
“ ผู้เฒ่าอายุ 80 ปีนั่งรถเข็นมาเจาะเลือด
ไม่มีเสียงบ่น รอนาน ใจดี
หมอเจาะเลือดแล้วยังขอบคุณหมอ ยิ้ม และไหว้
เป็นความน่ารัก น่าเคารพนับถือ
บ่งบอกถึงความเจริญทางวัฒนธรรมของคนรุ่นนั้น”
แม่ต้อยอยากบอกว่าในโรงพยาบาล มีเรื่องราวความดี ความงามในทุกที่ หากเรามีความละเมียดละไม และใคร่ที่จะสัมผัส
ไม่ทุ่มเทกับสิ่งๆต่างๆจนละเลย เรื่องราวที่ไม่ใช่แก่น หรือสาระของความเป็นมนุษย์ที่บางครั้งก็อยู่ที่ตรงหน้าเรานั่นเอง
ในวันนี้แม่ต้อยต้องขอขอบคุณ ครูเทพศิริ สุขโสภา ที่ได้มาเติมเต้มให้กับพวกเราชาวโรงพยาบาล และมีของฝากอันล้ำค่าให้กับพวกเราทุกๆคน
สวัสดีคะ
ดวงสมร บุญผดุง
คงมีโอกาสได้วาดรูปให้แม่ต้อยบ้างสักวัน....คิดถึงค่ะ
สวัสดีคะ น้องอรพรรณ
อยากให้ถึงวันนั้นเร็วๆจังคะ
รัก
แม่ต้อย
ภาพสวยมากเลยครับ
ผมกำลังปลูกผักกับนักเรียน
งาน HA สนใจไหมครับ
จะไปช่วยเป็นวิทยากร
การปลูกผักแบบดาวล้อมเดือนและใช้น้ำน้อย(16)
เป็นผักปลอดสารพิษครับ
ขอบคุณแม่ต้อยมากๆครับ