สวัสดีครับพบกับกระผม IT man คนเดิม วันนี้ในตอนเช้าพวกเราแบ่งกลุ่มและลงชุมชนเพื่อไปทำ intervention กันครับ วิธี intervention ของพวกเราก็เหมือนที่อธิบายให้พี่อสม.ฟังนั่นแหละครับ คือการให้ความรู้ การปรับทันคติและการสาธิตวิธีออกกำลังกายด้วยยางยืด ซึ่งเราจะเน้นสิ่งไหน เราก็จะประเมินกันเป็นรายบุคคลไปครับ ชาวบ้านทุกคนก็ให้ความร่วมมือมากเลยครับ ฟังพวกเราอธิบายอย่างตั้งอกตั้งใจเลยทีเดียว
หลังจากลงไปทำ intervention กันเสร็จ ตอนบ่ายพวกเราก็รอพบกับอาจารย์อุไรครับ จุดประสงค์ที่อาจารย์อุไรมาครั้งนี้นอกจากจะมาเยี่ยมพวกเราแล้ว อาจารย์ก็จะมาฟังโครงการที่เราจะทำในชุมชนกันครับ ซึ่งหลังจากที่เราอธิบายแล้วว่ากลุ่มเป้าหมายของพวกเรามีเพียง 7 คน เพราะฉะนั้น intervention ของพวกจะมีลักษณะคล้าย home health care คือจะเจาะจงเป็นรายบุคคลไปเลย intervention ของแต่ละคนก็จะไม่เหมือนกันเสียทีเดียวครับ อาจารย์อุไรก็คิดว่าเข้าท่าดีและให้ข้อเสนอแนะว่าควรทำกลุ่ม controlled DM ด้วยจะดีหรือไม่ จุดประสงค์เพื่อให้พวกเขาสามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้ดีต่อไป อาจจะจัดเป็น one day event ก็ได้ ต้องขอบคุณอาจารย์อุไรมากๆเลยครับ อ้อ... อาจารย์อุไรซื้อพิซซ่ามาฝากตั้ง 2 ถาดแน่ะ อร่อยมากๆเลยครับ
อาจารย์อุไรบอกว่าวันนี้มีชุมนุมที่โรงพยาบาลพระปกเกล้า ให้พวกเราไปร่วมชุมนุมได้ พวกเราไม่รีรอเลยครับ บึ่งรถไปโรงพยาบาลทันทีเลยครับ หึหึ ก็คนมันรักชาตินี่นา :)
IT man ง่วงแล้วล่ะครับ ขอตัวไปนอนก่อนนะครับเพราะพรุ่งนี้ต้องลงชุมชนต่อ ฝันดีครับ :)
การทำงานชุมชน ถึงแม้จะทำเรื่องเดียว
แต่ด้วยลักษณะชุมชน
วิถีชุมชนและศักยภาพที่แตกต่างกันของชุมชน
ทำให้การแก้ไขปัญหาต้องมีวิธีการที่หลากหลาย
แต่ในชีวิตจริงบ่อยครั้งที่เราจะแก้ปัญหาโดยใช้แบบสำเร็จรูปหรือกึ่งสำเร็จรูป
กับทุกชุมชน ทุกคนที่เรารับผิดชอบ
เพราะการตัดเสื้อเฉพาะคน(แก้ปัญหาเฉพาะคน เฉพาะกลุ่มคน)
ต้องใช้เวลา ตั้งแต่การ สำรวจ การวินิจฉัย การแก้ไขและการติดตามประเมินผล
สู้เข้าไปอย่าได้ถอย......
อิงการเมืองด้วย
สู้ๆ ครับ มาถูกทางเเ้ล้ว ... เป็นการค้นปัญหา และ แก้ไขจนถึงตัวคนไข้ และ ครอบครัว ซึ่งประกันได้ว่า คนไข้ได้รับเเน่้นอน ต่างกับงาน Event ซึ่งประเมินผลได้ยากกว่า แต่แต่ละกิจกรรมก็มีข้อดี ข้อเสียต่างกัน เรียนรู้ เเละ ปรับใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ครับ
ปล. ช่วงนี้ ติดตามห่างๆ พอดีงานที่ รพ. เยอะ ^^