หากจะอ้างว่าการเลือกตั้งคือประชาธิปไตย ต้องคิดไปให้ไกลกว่าตอนเดินออกจากคูหาแล้วมอบอำนาจไปให้นักการเมือง แต่ต้องคิดให้รู้แจ้งนะคะว่าเมื่อมอบอำนาจให้ไปแล้วเขาจะใช้อำนาจแทนเราอย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ เพื่อประโยชน์ของชาติและคนในชาติอย่างไร ไม่ใช่เพื่อพวกพ้องดังที่เป็นอยู่นะคะ
หากจะคิดว่าเลือกตั้งเถอะ หนึ่งเสียงเท่ากัน จะนายกฯ จะกรรมกร จะชาวนา จะประชาชนคนธรรมดา ก็หนึ่งเสียงเท่ากัน แต่ชาวนา กรรมกร และประชาชนเหล่านั้นต้องตั้งคำถามด้วยนะคะว่า หลังจากกากบาทไปแล้ว เขาบริหารโดยคิดถึงพวกเราเท่ากับพวกเขาแบบที่อ้างตอนก่อนเลือกตั้งหรือไม่ หนึ่งเสียงเท่ากันที่ว่า ต้องเท่ากันตลอดสมัย ไม่ใช่อ้างว่าเท่ากันตอนก่อนเลือกตั้ง แต่พอหลังเลือกตั้งกลับมีแต่เสียงของนักการเมืองที่ดังกว่า แต่เสียงของประชาชน กลับไม่ได้รับการเหลียวแล แหกปากเท่าไรก็ไม่มีนักการเมืองคนไหนได้ยินเหมือนดังวันนี้ที่เป็นอยู่นะคะ
ถามจริงมีนักการเมืองคนไหนในรัฐบาลที่ออกมาเคียงข้างประชนบ้างนะคะ ทั้งหมดทั้งปวงที่กล่าวมา ย้ำอีกครั้งนะคะว่ามิได้ปฏิเสธการเลือกตั้ง หากแต่เมื่อเห็นว่ากระบวนการเลือกตั้งและการได้มาซึ่งตัวแทนประชาชนมีปัญหาไปเสียแล้ว ทางที่ดีคือเราก็ต้องแก้กติกากันก่อนนะคะ ปฏิรูปกันซะก่อน จากนั้นจึงเลือกตั้งกันต่อไปนะคะอย่าให้ใครมาใช้ประโยชน์ แอบอ้างสถาปนาการเลือกตั้งขึ้นเป็นตัวแทนของประชาธิปไตยอีกค่ะพ่อแม่พี่น้อง ขอมวลมหาประชาชนจงเดินหน้าต่อสู้ต่อไป มณีเทวาคนนี้จะเป็นแรงใจให้เสมอนะคะ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านบันทึกและให้ความสำคัญกับการเมืองไทยนะคะ
ด้วยรักและเคารพ
มณีเทวา
....หนึ่งเสียงหนึ่งสิทธิ์ไซร้........สำคัญ
บอกบ่ง"เท่าเทียม"กัน.............ไป่เว้น
เกียรติ รวย ยศ เพศ พรรณ.......ใช่แบ่ง...ชนนา
ตรองสติปัญญาเฟ้น.................เทิดผู้ประพฤติธรรม
....กรรมใดใครก่อไว้.................รับไป...แน่เฮย
ยุติธรรมผลไว..........................ชาตินี้
เมตตารักจริงใจ.......................ปฏิบัติ
สันติสุขเพื่อชนชี้......................ประจักษ์แท้ทางสวรรค์