สิบสองวันในอินเดีย(๑๓)


(คลิกบนภาพเพื่อดูภาพขยายใหญ่ขึ้น)

           เมืองสาวัตถี สมัยพุทธกาลเป็นเมืองหลวงของแคว้นโกศลมีพระเจ้าปเสนทิโกศลเป็นกษัตริย์และถือว่าเป็นสถานที่ที่พระพุทธองค์ทรงประทับนานที่สุดคือ ๒๕ พรรษา ได้ทรงแสดงพระสูตร พระวินัย และชาดกที่สำคัญเช่นเรื่องนางจิญจามาณวิกา, โจรองคุลิมาล,ปฏาจารา และ พระเทวทัตถูกธรณีสูบ ฯลฯ

         เช้ามืดของวันที่เก้าในอินเดีย เราออกเดินทางจากที่พักวัดเกาหลีไปนมัสการสถานที่ที่พระพุทธองค์ทรงแสดง ยมกปฏิหาริย์ เพื่อโปรดชาวสาวัตถีและข่มเจ้าลัทธิอื่น จากนั้นทรงเสด็จไปประทับจำพรรษาที่ดาวดึงส์ เมื่อออกพรรษาทรงเสด็จลงมาจากสวรรค์ในวันเทโวโรหนะที่สังกัสสนคร

 

          ลงจากเนินดินสถานที่ทรงแสดงยมกปฏิหาริย์ คณะเราไปรับประทานอาหารเช้าที่วัดไทยเชตวัน ฯ 

      จากนั้นก็ไปที่ เชตวันมหาวิหาร พระอารามนี้ท่านอนาถบิณฑิกะเศรษฐี เห็นสวนเจ้าเชตกุมารเหมาะสมที่จะสร้างเป็นอารามถวายแด่พระพุทธเจ้า  จึงได้เจรจาขอซื้อ เจ้าเชตได้เสนอราคาที่ดินโดยการให้นำแผ่นทองมาปูเรียงจนเต็มบริเวณที่ต้องการซื้อทั้งหมด ท่านจึงให้คนนำเกวียนบรรทุกแผ่นทองมาเรียงจนเกือบเต็มพื้นที่    เจ้าเชตเห็นถึงศรัทธาจึงร่วมทำบุญโดยมอบที่ที่เหลือให้ ท่านอนาถบิณฑิกะจึงได้จารึกชื่อเจ้าเชตไว้ที่ซุ้มประตู อันเป็นที่มาของชื่อวัดว่า "เชตวันมหาวิหาร"

 

 

       "..อเสวนา จะพลานัง  ปัณฑิตานัญจะ  เสวะนา ปูชา จะ ปูชะนียานัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง.."มงคลสูตร  บทสวดนี้ชาวพุทธจะคุ้นเคยเนื่องจากเป็นบทสวดที่พระสงฆ์จะใช้สวดในงานมงคล ขณะที่ทำน้ำพระพุทธมนต์ บทสวดนี้เป็นพระสูตรที่พระพุทธองค์ทรงแสดงที่"พระเชตวันมหาวิหาร" แห่งนี้

 พระอาจารย์วิทยากร นำสวด มงคลสูตร  แล้วนั่งสมาธิที่หน้า คันธกุฎี

 

อานนท์โพธิ์  ที่เชื่อว่าพระโมคคัลลานะนำเมล็ดพันธ์จากต้นพระศรีมหาโพธิ์

ที่พุทธคยามาให้กับอนาถบิณฑิกะเศรษฐีปลูก ตามที่พระพุทธเจ้าบอกกับพระอานนท์ว่าต้นพระศรีมหาโพธิ์ ที่พระองค์ทรงประทับเมื่อตรัสรู้ถือเป็นตัวแทนของพุทธองค์ได้

...............

บริเวณหน้าพระเชตวันมหาวิหารที่เทวทัตถูกธรณีสูบ

 

จากนั้นไม่ไกลมากนักเราไปที่บ้านองคุลิมาล และบ้านอนาถบิณฑิกะเศรษฐี ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กันอยู่ริมแม่น้ำอจิรวดี

 

      กลับมารับประทานอาหารกลางวันที่วัดไทยเชตวัน ฯพร้อมกับร่วมกันทำบุญเพื่อบำรุงวัดซึ่งอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง

 

วัดเกาหลีที่เราพักเมื่อคืนนี้

 

.....

            วันนี้ถือว่าเป็นวันที่พระอาจารย์วิทยากร พระอาจารย์ จิตติพันธ์  กิตติวังโส จบภารกิจกับคณะของเราเนื่องจากการแสวงบุญสังเวชนียสถานตั้งแต่ สารนาถ พุทธคยา ราชคฤห์ ไวสาลี กุสินารา ลุมพินีและสุดท้ายคือที่สาวัตถี ครับ...พวกเราขอกราบขอบพระคุณที่ท่านได้กรุณาให้ความรู้ตลอดเวลาที่อยู่กับพวกเรา  และกราบขอขมาในสิ่งที่อาจจะล่วงเกินท่านพระอาจารย์โดยมิได้ตั้งใจ...

            คณะเรายังเดินทางต่อไปยังเมืองลักเนาว์ เมืองอัคราเพื่อชมทัชมาฮาล และอัครา ฟอร์ท  และไปขึ้นเครื่องบินกลับบ้านที่เดลลี

             ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ

 

หมายเลขบันทึก: 557353เขียนเมื่อ 25 ธันวาคม 2013 18:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 ธันวาคม 2013 18:43 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ขอบคุณครับ อาจารย์ ชยพร อาจารย์ tuknarak อาจารย์ GD ที่กรุณามอบดอกไม้ให้กำลังใจครับ

.......

เก็บมาฝากครับ..จากวัดเกาหลี สาวัตถี อินเดีย..

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท