ซึ่งสมาชิกองค์การการค้าโลก หรือ WTO ประกาศเปิดการเจรจาเปิดเสรีการค้าหลายฝ่ายรอบใหม่หรือที่เรียกว่ารอบโดฮา (เพราะประชุมกันที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์) แต่การเจรจาไม่คืบหน้า ทำให้ประเทศสมาชิกหันมาทำความตกลงเปิดเสรีกันสองประเทศหรือกลุ่มประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน มีจำนวนเกือบ 300 ความตกลง ซึ่งร้อยละ 70 เป็นความตกลงสองสองฝ่าย โดยมีทั้งประเทศใหญ่กับประเทศเล็ก เช่น สหรัฐฯกับลิงค์โปร์ ญี่ปุ่นกับเม็กซิโก รวมทั้ง กลุ่มภูมิภาคเช่น เขตการค้าเสรีอเมริกา เอเซียน-จีน เป็นต้น
เขตการค้าเสรี หรือ เอฟทีเอ คงไม่ใช่คำตอบสุดท้าย แต่เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุ ดในขณะนี้ ในเวลาที่ประเทศต่างๆ ทั่งโลก ต่างได้ให้หรือกำลังจะให้ผลประโยชน์ด้านภาษีและอื่นๆ ซึ่งกันและกัน หากไทยนิ่งเฉย ก็จะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง และเสียเปรียบคู่แข่งขันที่มีแต้มต่อจากการทำเอฟทีเอ ครั้นจะหันไปพึ่ง WTO ก็ยังชะงักอยู่ ปัจจุบันไทยยังต้องพึ่งพาการค้าระหว่างประเทศค่อนข้างมาก เพื่อหารายได้เข้ามาพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้น เมื่อทิศทางของโลกเดินไปในทางที่จะเปิดเสรีเร็วขึ้นและมากขึ้น การจัดทำเขตการค้าเสรีจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก หากเราทำโดยมีการวางแผน เตรียมตัว และปรับตัวย่อมดีกว่าไม่ได้ตั้งตัวแล้วถูกบังคับให้ทำตามกฎเกณฑ์ที่ประเทศคู่ค้าวางไว้
การทำเขตการค้าเสรี นอกจากจะเป็นการรักษาผลประโยชน์ทางการค้าแล้ว ยังช่วยในการหาตลาดใหม่ๆ ทำให้เรามีแหล่งวัตถุดิบใหม่ๆ ที่ราคาถูกและหลากหลายมากขึ้น ช่วยกระตุ้นให้ธุรกิจมีความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้นที่จะช่วงชิงโอกาสทางการค้า ผลักดันให้มีการปรับโครงสร้างการผลิตภายในให้เหมาะสมและเป็นการส่งเสริมให้ไทยเป็นแหล่งดึงดูดการลงทุนจากนานาประเทศการทำเขตการค้าเสรี ไม่ใช่เรื่องใครได้ใครเสีย แต่เป็นผลประโยชน์ร่วมกันของประเทศที่เข้าร่วมกันของประเทศที่เข้าเจรจา ซึ่งการเจรจาจะเป็นในลักษณะที่ต่างฝ่ายต่างได้ คงไม่มีประเทศไหนยอมเจรจาด้วย
ที่มา จากหนังสือร้อยเรื่องเมืองพาณิชย์ จากท่าเตียน...สู่สนามบินน้ำ ข้อมูลทางบรรณานุกรมของหอสมุดแห่งชาติ กระทรวงพาณิชย์
สวัสดีค่ะคุณปารินุช
ขอบคุณมากค่ะ คุณอ้อ ที่ติดตามอ่านและแสดงความคิดเห็นค่ะ
หวัดดีครับอุ๋ย
นอตอ่ะอิจฉากระทรวงเพื่อนมากๆ ตรงนั้นอ่ะนะความรู้เกี่ยวกับการค้าการขายระหว่างประเทศกองอยู่เป็นพะเนิน ก็คราวก่อนไปประชุมได้หนังสือกลับมาเพียบเลย นี่ว่าจะรีบอ่านแล้วเอามาลง Go2Know บ้าง โดยเฉพาะของกรมเจรจาอ่ะนะ โหของฟรีๆตู้ม ลองดูลองดู
สำหรับบทความนี้นอตเห็นว่าระบบการค้าท้ายที่สุดแล้วผลประโยชน์ทั้งปวงก็ยังคงอยู่ในกำมือของประเทศมหาอำนาจที่มีกำลังต่อรองอยู่ดี ขึ้นอยู่กับว่าวันนี้พรุ่งนี้เขาต้องการอะไรจากประเทศด้อยพัฒนากว่าเขามากน้อยเพียงใด ประเทศสหรัฐอเมริกาตระเวนเปิดโต๊ะเจรจาการค้าเสรีไปทั่ว เขาเริ่มจากบ้านเขาก่อน จับมือกับคานาดาสำเร็จก็เหล่ลงทางใต้ สุดท้ายทวีปนั้นก็มีการค้าการขายที่ต้องอิงกับตลาดของอเมริกาทั้งสิ้น
แต่ถ้าเพื่อนสังเกตดีดี ทำไมสหภาพยุโรปถึงไม่ปรากฏการทำ FTA กับประเทศอื่นๆบ้างเลย นั่นสินะ เพราะอะไร เด๋วมีโอกาศนอตจะมาแสดงความเห็นเพิ่มเติมนะครับ
นอต
ขอบคุณค่ะที่ให้ความรู้ กำลังทำรายงานเรื่องการเปิดเสรีสินค้าเกษตรพอดีเลยถ้ามีข้อมูลสินค้าเกษตรก็ส่งมาให้ด้วย จะขอบคุณยิ่งเลยค่ะ
ขอบคุณนะค่ะ คุณเรณู ที่มาติดตามอ่านค่ะ