ในบทความนี้ผมจะขอถอดบทเรียน และสิ่งที่ได้ทำในวันที่ได้พบกับผู้รับบริการทางจิต
ก่อนอื่นจะบอกถึงประวัติของผู้รับบริการคร่าวๆ
ชื่อ: บี(นามสมมุติ) อายุ: 38 สถานภาพ: โสด
อาชีพ: งานด้านการศึกษาในมหาวิทยาลัย
งานอดิเรก: ทำอาหาร เล่นอินเตอร์เน็ต อ่านหนังสือธรรมะ
โดย อาการของคุณบี จากการที่ อาจารย์ป๊อบ(Dr.Pop)ได้ให้พวกเราหรือนักศึกษาสัมภาษณ์มีดังนี้
-อยู่กับปัจจุบันไม่ได้กลัววันพรุ่งนี้
-ไม่ชอบคนเยอะ ไม่มีความสุขในการทำกิจกรรม
-หงุดหงิดง่าย
-ปฎิสัมพันธ์กับเพื่อนลดลง
-น้ำหนักลด
-ใจลอย
-ซึมเศร้าเล็กน้อย
-อิจฉาเวลาคนอื่นมีความสุข
-รู้สึกวิตกกังวลกับสิ่งต่างๆ
-เป็นมาแล้ว2เดือน
ซึ่งโรคที่คุณบีเป็นจะบอกในตอนท้ายของการรักษานะครับ^^
แล้วหลังจากที่สัมภาษณ์ อาจารย์ป๊อบก็ได้ให้การรักษาโดยเริ่มจาก
1.ถามในสิ่งที่คุณบีอยากจะพัฒนา มีด้วยกัน 7 ด้าน โดยเรียงจาก
-อยากอยู่กับปัจจุบัน
-อยากไปทำงานอย่างมีความสุข
-อยากคิดเป็นเหตุเป็นผล
-อยากมีความสุขกับครอบครัวและมีปฎิสัมพันธ์
-อยากมีความสุขกับเพื่อนร่วมงาน
-อยากรับโทรศัพท์อย่างมีความสุข
-อยากเล่นอินเตอร์เน็ตอย่างมีความสุข
2.ให้บอกคะแนนความสุข โดยคะแนน 0-10 คุณบีได้ให้มา 5 คะแนน
อาจารย์ป๊อปได้ให้กิจกรรมการรักษาโดยที่เป็นการให้คุณบีได้เลือกกิจกรรมที่จะทำเองโดยมี3กิจกรรม ได้แก่ ภาพตัดปะ,ปั้นดินน้ำมัน,ระบายสี ซึ่งเป็นกิจกรรมการรักษาที่ 1
(ซึ่งการให้ผู้รับบริการได้เลือกกิจกรรมที่ได้ทำเองนั้น ใช้กรอบอ้างอิง MOHO หรือ Model of Human occupation ซึ่งหัวใจของกรอบอ้างอิงคือ ให้แรงขับดันภายในตัวเพื่อเลือกที่จะทำกิจกรรมตามความชอบหรือความสนใจ)
-โดยคุณบีได้เลือกปั้นดินน้ำมัน ต่อจากนั้น อาจารย์ป๊อปจึงให้โจทย์คือให้คิดว่าการปั้นดินน้ำมันคืองาน พยายามทำให้เป็นเหตุเป็นผลรวมถึงทำอย่างมีความสุข และอยู่กับปัจจุบันอันใกล้
-ผลงานที่คุณบีได้ทำออกมาคือปั้นดินน้ำมันออกมาเป็นรูปที่จะไปเที่ยวกับครอบครัวในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ ซึ่งเป็นความสุขของคุณบี แล้วอาจารย์ก็ได้บอกว่า ในเมื่อนี่คือความสุขก็ ทำให้ภาพนี้มันเกิดขึ้นจริง เป็นอันจบกิจกรรมการรักษาอันแรก
กิจกรรมที่ 2 คือการสวมบทบาทสมมุติ โดยการให้โทรศัพท์คุยกับเจ้านาย
-กิจกรรมนี้ เป็นการให้คุณบีได้จำลองสถานการณ์โดยได้คุยกับเจ้านายซึ่งมีอาจารย์แอน(OTann_supansa) มารับบทบาทเจ้านาย
-ซึ่งผลของการให้ทำกิจกรรมนี้คือปรับคำพูดและความกังวลของคุณบีที่มีตลอดกิจกรรม ซึ่งทำให้คุณบีมีอาการกังวลาน้อยลงและสามารถคุยกับเจ้านายได้อย่างมีสติและนุ่มนวล
กิจกรรมที่ 3 คือห่วงโซ่คล้องใจ
-กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมร่วมใจ ซึ่งอาศัยนักศึกษา2คนมาร่วมทำงานกับคุณบีซึ่งโจทย์ของอาจารย์ป๊อปคือ ให้กระดาษ 3 สีแล้วทำอย่างไรก็ได้ให้กระดาษทั้ง3สีแสดงออกมาร่วมกันอย่างสมดุล
-ผลของกิจกรรมนี้คือกระตุ้นในคุณบีได้เป็นหัวหน้ากลุ่มแล้วคอยออกแบบการจัดการกระดาษทั้ง3ให้ออกมาสวยงามโดยทำงานร่วมกันกับนักศึกษาอีก2 คน
-สุดท้ายได้มีกิจกรรมให้รู้จักและทำความรู้จักกับคนอื่นมากขึ้นคือให้ทายในสิ่งที่อีกคนชอบ และทำทุกคน
-ในกิจกรรมนี้จะทำให้เรารู้จักผู้อื่นมากขึ้นและเข้าใจในสิ่งที่ผู้อื่นชอบมากขึ้น ส่งผลต่อการมีปฎิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานหรือเพื่อนใหม่
ก่อนจะจบการรักษา อาจารย์ป๊อบได้ถามถึงคะแนนความสุขก่อนและหลังทำกิจกรรมซึ้งได้มาเพิ่มเป็น 7 คะแนนเต็ม 10 จากนั้นจึงให้การบ้านให้กับคุณบีโดยให้พยายามมีส่วนร่วมกับบุคคลรอบข้างก่อน เช่น ไปเที่ยวกับครอบครัว และพยายามคุยกับเพื่อนร่วมงานมากขึ้น
การที่อาจารย์ได้ให้กิจกรรมการรักษาได้ใช้เทคนิคต่างๆ เช่น
-การวิเคราะห์ปัญหาของผู้รับบริการ
-การวิเคราะห์กิจกรรมเพื่อการรักษา
-การเลือกกรอบอ้างอิงทางกิจกรรมบำบัดในการรักษา(Model Of Human Occupation)
-การใช้การมีปฎิสัมพันธ์กับบุคคนอื่นด้วยตัวผู้บำบัด หรือ Therapeutic Relationship
ซึ่งเทคนิคต่างๆนี้จะส่งผลให้การรักษาได้ผลดีทั้งต่อตัวผู้รับบริการและบุคคลรอบข้างของผู้รับบริการ
จากการประเมิน การสัมภาษณ์ จึงระบุได้ว่าคุณบีเป็นโรคAnxiety หรือโรควิตกกังวล โดยอาการจะเป็นอย่างที่กล่าวไปข้างต้น จึงควรที่จะเข้ารัับบริการทางกิจกรรมบำบัดซึ่งในผู้รับบริการรายนี้เป็นมา2เดือน สามารถรักษาให้หายได้ แต่เมื่อมีสิ่งที่รู้สึกเครียดมากๆหรือมีสิ่งที่เข้ามากระทบจิตใจ อาจจะสามารถทำให้โรคกำเริบขึ้นได้เช่นกัน
ขอบคุณครับ^^
ไม่มีความเห็น