เกษตรกรรมธรรมชาติ พอเพียง เพียงพอ ทำง่ายไม่ต้องใช้ตังค์ (1)


การทำการเกษตรในปัจจุบัน ผู้คนค้นหาให้ความสนใจและไฝ่ฝันเลือกวิธีที่จะลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต ปลอดภัย ไร้สารพิษ ซึ่งนั่นก็ช่วยทำให้ตัวของพี่น้องเกษตรกรมีความรู้ ความสามารถ และความชำนาญที่เพิ่มขึ้นจากการขวนขวาย ซึ่งในภาพรวมก็จะช่วยทำให้ประเทศชาติของเรามีบุคลลากรและผลิตผลจากการเกษตรที่มีคุณภาพ ยิ่งมีจำนวนเกษตรกรที่เป็นประเภทหัวก้าวหน้ามากเท่าใดยิ่งเป็นผลดีต่อประเทศไทยเรามากขึ้นเท่านั้น

ประเทศเวียดนามนั้น หลังจากที่ประชาชนคนของเขารบชนะทั้งอเมริกา ฝรั่งเศสแล้ว ประเทศเวียดนามยังมีความสามารถสร้างศักยภาพในการผลิตข้าวส่งออกให้ได้มากกว่าไทย และชนะไทยทั้งปริมาณและคุณภาพในระยะเวลาอันใกล้นี้ โดยมีนโยบาย 3 ลด 3 เพิ่ม คือ ลดต้นทุน ลดการใช้สารเคมียาปราบศัตรูพืช และลดเมล็ดพันธุ์  เพิ่มผลผลิต เพิ่มคุณภาพและเพิ่มกำไร ให้แก่พี่น้องเกษตรกร จนเกิดกำลังกาย กำลังใจแก่พี่น้องชาวไร่ชาวนาของเวียดนาม ในการมุ่งมั่นที่จะพัฒนาอาชีพกสิกรรมตามที่รัฐบาลส่งเสริม จนสามารถที่จะส่งออกข้าวได้มากกว่าไทยไปแล้ว แถมยังมีต้นทุนที่ต่ำกว่า ผลผลิตก็มากกว่า 

การทำเกษตรกรรมแบบธรรมชาตินั้นก็คือการที่ต้องหมั่นสร้างประสบการณ์ สังเกต เลียนแบบจดจำธรรมชาติอย่างในป่าเขาลำเนาไพร ที่ไม่ต้องมีใครเดินเข้าไปใส่ปุ๋ย ฉีดพ่นยาฆ่าแมลงแม้แต่หยดเดียว แต่ต้นไม้ต่างๆ เหล่านั้นก็สามารถที่จะมีชีวิตที่ยืนยาวเจริญเติบโตให้ร่มเงาเป็นที่อยู่อาศัยแก่สรรพสิ่งทั้งหลายที่อาศัยในป่าเขาลำเนาไพรนั้น ๆ เฉกเช่นเดียวกันครับ ถ้าเราเพียงต้องการทำการเกษตรแบบเพื่อพึ่งพิงอิงอาศัยกันเองในครอบครัว โดยที่ไม่ต้องซื้อหาต้องหา สร้างภาระค่าใช้จ่ายจากนอกบ้าน ก็น้อมนำพระราชดำรัสของในหลวงที่ให้แบ่งพื้นที่ 30 : 30 : 30 : 10 ไว้สำหรับการปลูกที่อยู่อาศัย สระน้ำประจำไร่นา ปลูกข้าว ปลูกพืชไร่ไม้ผล ปลูกในสิ่งที่กิน กินในสิ่งที่ปลูก ก็สามารถที่จะทำการเกษตรแบบต้นทุนต่ำได้จริงอย่างแน่นอน

สำหรับวิธีการทำเกษตรกรรมทำแบบพออยู่พอกินนั้น....แรกเริ่มเลยต้องหมั่นสำรวจตรวจวัดกรดด่างของดิน เพื่อป้องกันการจับยึด การบล็อกของดินจากสภาวะความเป็นกรด หรือด่างจัด ลำดับที่สอง หมั่นเติมอินทรียวัตถุลงไปในดินอย่างสม่ำเสมอเหมือนใบไม้ที่ร่วงหล่นทับถมลงไปบนผืนป่าทุกวัน เศษไม้ใบหญ้าที่ทับถมสะสมอยู่ในป่าเป็นหลายหลายสิบหลายร้อยปีนั้นก็จะผุพังย่อยสลายกลายเป็นฮิวมัส สร้างความชุ่มชื้น รักษาโครงสร้างดินให้แข็งแรง ไม่ร่วนป่นจนเกินไป ไม่เหนียวแน่นจนระบายถ่ายเทน้ำไม่ได้ เพราะฉะนั้นดินที่หมั่นเติมปุ๋ยหมักปุ๋ยคอกดินก็จะไม่เสื่อมไม่เสีย แถมในระยะยาวจะช่วยทำให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์ มีอาหารมากเพียงพอต่อการปลูกหรือผลิตพืชไร่ไม้ผลไว้ทานกันเองในครัวเรือนโดยที่ไม่ต้องใช้ปุ๋ยเคมีเข้ามาแต่งเติม หรือจะเป็นการปลูกพืชผักสวนครัวก็สามารถที่จะกระทำได้เช่นกัน เพราะพืชผักสวนครัวรั้วกินได้นั้นก็ไม่จำเป็นต้องใช้ปุ๋ยเคมีสังเคราะห์มากเกินไป สามารถที่จะปรับเปลี่ยนในเรื่องของดินโดยการเติมอินทรีย์วัตถุให้มีความอุดมสมบูรณ์ก็สามารถที่ปลูกพืชผักสวนครัวรั้วกินได้ ได้อย่างสบายไม่ต้องใช้ตังค์เยอะ ยิ่งเพาะปลูกกันเพียงเพื่อการบริโภคภายในครัวเรือนด้วยแล้ว ไม่จำเป็นต้องซื้อปุ๋ยยาฮอร์โมนอย่างอื่นให้สิ้นเปลืองเลยนะครับ เพราะสามารถตอบสนองต่อการบริโภคหรือมีเหลือไว้เผื่อขายเล็กๆ น้อยๆ ได้อย่างแน่นอน  สำหรับวันนี้อาจจะใช้พื้นที่การเขียนไปพอสมควร ไว้ในโอกาสต่อไปจะนำเทคนิควิธีการทำเกษตรกรรมเพื่อการยังชีพ แบบพอเพียงไม่ต้องใช้สตุ้งสตังค์ให้สิ้นเปลืองจนมากมายเกินไปนัก

 

มนตรี  บุญจรัส

ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com

หมายเลขบันทึก: 555682เขียนเมื่อ 7 ธันวาคม 2013 18:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 ธันวาคม 2013 18:59 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท