เส้นทางเดิมที่ไม่เหมือนเดิม...


        ปกติฉันจะไปกลับบ้าน-มหาวิทยาลัยในวันหยุด โดยต้องต่อรถ 3 ต่อด้วยกันและใช้เวลาเดินทางทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง-3ชั่วโมง ส่วนมากฉันจะเดินทางในตอนกลางวันเนื่องจากฉันคิดว่าไม่อันตรายแต่วันนี้เนื่องจากออกจากบ้านเกือบ 6 โมงเย็นซึ่งดิฉันไม่เคยขึ้นรถเมล์ในเวลาแบบนี้ทำให้ดิฉันรู้สึกกลัวนิดหน่อย

        เมื่อมาถึงอนุสาวรีย์ชัยปกติเวลาลงรถเมล์คนในรถจะรีบร้อนแย่งกันลงจากรถซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องแย่งกันแต่ครั้งนี้ทุกคนยืนต่อแถวกันเพื่อรอลงจากรถอย่างไม่รีบร้อน จากนั้นฉันจึงเดินข้ามสะพานที่จะไปต่อรถเมล์สาย 515 เพื่อไปมหาลัยระหว่างที่เดินฉันก็มองคนอื่นเขาไม่รีบร้อนเหมือนตอนกลางวัน หลายคนเดินเรื่อยๆ เฉื่อยๆ เหมือนกำลังดื่มด่ำบรรยากาศยามกลางคืน อาจเป็นเพราะว่าเวลาที่ฉันกลับตอนกลางวันคือเวลาที่หลายคนเลิกงานและรีบกลับบ้าน จึงทำให้คนอื่นรีบร้อน ไม่มีความเป็นระเบียบและไม่ระมัดระวังเลย

        ในขณะที่รถเมล์ขับไปปกติตอนกลางวันฉันจะหลับตลอด เพราะแดดร้อนจึงปิดผ้าม่านและไม่เคยได้มองข้างทางเลยแต่วันนี้ตอนกลางคืนฉันสามารถเปิดผ้าม่านและมองยรรยากาศรอบตัวรถ

เพราะไม่ใช่ตอนกลางวันรถจึงไม่ติด

เพราะไม่ใช่ตอนกลางวันฉันจึงแยกแยะได้ว่าร้านไหนขายอะไร

เพราะไม่ใช่ตอนกลางวันฉันจึงเห็นร้านอาหารไม่ว่าร้านเล็กหรือร้านใหญ่

เพราะไม่ใช่ตอนกลางวันฉันจึงเห็นแสงไฟที่ประดับตามร้านที่สวยงาม

เพราะไม่ใช่ตอนกลางวันจึงทำให้ฉันรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับสิ่งที่ได้เห็น

       นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เดินทางในกทม.เวลาค่ำคืนถ้าหากเป็นบ้านดิฉันแค่สองทุ่มทุกบ้านก็ปิดไฟนอนกันหมดแล้ว ทำให้ฉันรู้สึกชอบในการเดินทางเวลาค่ำคืนทั้งอากาศไม่ร้อนและมีแสงไฟสวยงามที่ประดับเกือบทุกร้านตลอดข้างทาง เป็นอีกด้านที่ฉันไม่เคยเห็นในเวลากลางวัน ฉันคิดว่าถ้าหากฉันได้มาเดินดูแสงไฟในยามค่ำคืนพร้อมกับคนที่ฉันรักคงจะเป็นสิ่งที่โรแมนติกมาก เพราะดูคนเดียวยังรู้สึกดีและมีความสุขขนาดนี้แล้วถ้ามีคนที่เรารักมาดูไปพร้อมกับเราจะมีความสุขมากแค่ไหน

       แต่สิ่งที่ฉันรู้สึกประทับใจมากคือฉันนั่งรถผ่านสวนจิตรลดา ที่รั้วและต้นไม้ถูกประดับด้วยไฟสีเหลืองที่สว่างไสวและมีดอกดาวเรืองสีเหลืองที่บานแล้วถูกปลูกไว้ตลอดข้างทาง ฝั่งตรงข้ามของสวนจิตรลดาตอนแรกฉันเห็นครอบครัวนึงประมาณ 5 คนกำลังจุดเทียนชัยเพื่อถวายพระพรให้ในหลวงเป็นภาพที่น่ารักมากและเมื่อผ่านไปเรื่อยๆตรงข้ามกับประตูทางเข้าสวนจิตรลดาก็มีประชาชนกว่า 100 คนจุดเทียนชัยเพื่อถวายพระพรให้ในหลวง ระหว่างทางจากบ้านจนถึงมหาวิทยาลัยฉันเห็นคนไทยเกือบทุกคนใส่เสื้อสีเหลืองทำให้ฉันรู้สึกดีใจที่คนไทยทุกคนรักในหลวง ฉันดีใจที่ได้เกิดมาบนแผ่นดินไทยนี้

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยตลอดกาล

 

วันนี้เป็นอีกวันที่ฉันได้พบเจอสิ่งใหม่ๆ ประสบการณ์และมุมมองใหม่ๆเพียงแค่เดินทางในเส้นทางเดิมแต่บรรยากาศรอบๆตัวไม่เหมือนเดิม :D สุขสันต์วันพ่อคะ

 

 

คำสำคัญ (Tags): #กิจกรรมบำบั
หมายเลขบันทึก: 555481เขียนเมื่อ 5 ธันวาคม 2013 21:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 ธันวาคม 2013 22:09 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

วันที่ข้าพเจ้าเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร รัฐศาสตร์บัณฑิต

(เกียรตินิยมอันดับสอง) แห่งจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย จากพระหัตถ์ของ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ ๑๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๑๑ ซึ่งได้พระราชทานพระบรมราโชวาทว่า :

" ความเจริญของประเทศชาติ เป็นความเจริญส่วนรวม ซึ่ง

เกิดจากผลงานหรือผลของการกระทำของคนทั้งชาติ ถือได้ว่าทุก

คนแบ่งหน้าที่กันทำประโยชน์ให้แก่ชาติ ตามความถนัดและความ

สามารถและเกื้อกูลกันและกัน ไม่มีผู้ใดจะอยู่ได้และทำงานให้แก่

ประเทศชาติได้โดยลำพังตนเอง "

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท